จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ในปีที่ผ่านมานั้น ทำให้รายการแข่งขันกอล์ฟหยุดชะงักทั่วโลก นักกอล์ฟต้องพบเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งในด้านของข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง และผลกระทบด้านรายได้ ทางสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีจึงไม่นิ่งนอนใจ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือ และรักษาผลประโยชน์ของนักกีฬาและผู้สนับสนุนให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ต่อไปได้ เพื่อให้นักกอล์ฟมีพื้นที่ฝึกฝน โชว์ศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่ทางสมาคมฯ ก็สามารถพลิกวิกฤติสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนประสบความสำเร็จด้วยดี
หม่อมหลวงโอรัส เทวกุล เลขาธิการสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี กล่าวว่า “ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ต้องทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะต้องวางมาตรการในการจัดการแข่งขันกับภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานตั้งแต่ต้นปี รวมถึงหาวิธีเยียวยา และช่วยเหลือโปรกอล์ฟในสมาคมไปพร้อมกัน แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทำให้สมาคมกีฬากอล์ฟสตรีของเรา เป็นกีฬาประเภทแรกที่ได้จัดการแข่งขันในรูปแบบอาชีพขึ้นในปี 2563 และในปีนี้ สมาคมฯ ยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด ทั้งยังเพิ่มมาตรการรับมือให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถจัดการแข่งขันได้อย่างปลอดภัย”
นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการกอล์ฟ ด้วยการนำศิลปะแก้วมารังสรรค์เป็นถ้วยรางวัลสุดพิเศษสำหรับการแข่งขันกอล์ฟไทยแอลพีจีเอทัวร์ 2020 ที่ผ่านมา จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักกอล์ฟหญิงไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งในปีนี้ ทางสมาคมฯ ยังคงเดินหน้าเตรียมรายการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และยังคงเอกลักษณ์ถ้วยรางวัลอันโดดเด่นของฝีมือศิลปินจาก BGC Glass Studio มอบให้กับผู้ชนะการแข่งขันเช่นเดิม เพื่อสอดผสานศิลปะกับกีฬาเข้าด้วยกัน สร้างกระแสให้วงการกอล์ฟไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งภายใต้สถานการณ์ COVID-19
หม่อมหลวงโอรัส กล่าวต่อว่า “การนำเอาศิลปะแก้วมาเป็นถ้วยรางวัลในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีถือเป็นความท้าทาย และสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่ให้กับวงการกีฬาเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยจุดเริ่มต้นมาจากความชอบศิลปะของตน ผนวกกับเล็งเห็นความสวยงามของศิลปะแก้วที่สามารถนำมาผสานกับการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีได้ จึงได้มีการหารือร่วมกับทางผู้บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ซึ่งเป็นเจ้าของ บีจีซี กล๊าส สตูดิโอ (BGC Glass Studio) ศูนย์การเรียนรู้ศิลปะแก้วแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อร่วมกันผลิตถ้วยรางวัลจากแก้วที่สื่อถึงจุดเด่นของการแข่งขันในแต่ละรายการ เช่น สนาม หรือจังหวัดที่ลงแข่ง รวมถึงของขึ้นชื่อประจำจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดและสนามแข่งให้เป็นที่จดจำแก่นักกอล์ฟ และผู้รับชมการแข่งขันมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาทางสมาคมจัดการแข่งขันทั้งหมด 17 รายการ ใช้ถ้วยรางวัลจาก บีจีซี กล๊าส สตูดิโอ 9 ถ้วย ในการแข่งขัน แชมเปี้ยนชิพ และการแข่งขันมาสเตอร์สซึ่งเป็นรายการสำคัญของฤดูกาล ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากทั้งนักกอล์ฟอาชีพที่เข้าร่วมการแข่งขัน และองค์กรณ์อื่นๆ ที่ติดต่อเข้ามาขอให้ทำถ้วยรางวัลในการแข่งขันนัดพิเศษ ถือเป็นความสำเร็จของสมาคมที่สามารถผลักดันศิลปะแก้วให้เข้ามาอยู่ในวงการกีฬาได้อย่างสวยงาม และกลายเป็นเอกลักษณ์ในการจัดการแข่งขันของสมาคมไปแล้ว”
ไม่เพียงแต่การสรรสร้างรายการแข่งขันเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกอล์ฟเท่านั้น ทางสมาคมฯ ยังมีกิจกรรมพัฒนาทักษะและศักยภาพด้านอื่นๆ ให้แก่นักกีฬาของสมาคมฯ รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ การฝึกอบรมเสริมสร้างบุคลิกภาพและภาพลักษณ์นักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี (Thailand LPGA Make Over 2020) และการฝึกอบรมแคดดี้อาชีพ เป็นต้น
“นักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีของไทยนอกจากจะมีศักยภาพทัดเทียมต่างชาติแล้ว ยังมีบุคลิกภาพ และมารยาทที่โดดเด่น ทางสมาคมฯ อยากช่วยให้นักกีฬาเก่งทั้งในสนาม และมีบุคลิกภาพที่ดี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนักกีฬา และเป็นแบบอย่างในระดับสากล ทั้งยังเป็นการต่อยอดบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาประดับวงการกอล์ฟไทย สร้างมาตรฐานการแข่งขันกีฬากอล์ฟไทยให้ทัดเทียมต่างประเทศ”
หม่อมหลวงโอรัส ยังเผยถึงแนวทางในการจัดการแข่งขันฤดูกาล 2021 ว่า “การแข่งขันไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ คาดว่าจะเริ่มต้นช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทางสมาคมฯ ยังคงรักษามาตรฐานในการจัดการแข่งขัน และพัฒนาการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้มาตรการควบคุม COVID-19 ของภาครัฐ โดยอาจจะมีการหารือเรื่องเงินรางวัลให้สูงขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้นักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีของไทยได้แข่งขันเตรียมความพร้อมกับทัวร์ในประเทศที่ได้มาตรฐาน และมีรายได้จากอาชีพนี้ ในช่วงที่ยังไม่สามารถเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศได้ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้นักกอล์ฟสตรีไทยมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพก้าวสู่ระดับโลก พร้อมสร้างชื่อเสียงให้กับสมาคมฯ และประเทศไทยในอนาคต”