คุมเข้มขึ้นอีกขั้น เมื่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจเต็มและเหลือล้นนั่งหัวโต๊ะเห็นชอบยกระดับ 6 จังหวัด กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ซึ่งมีรายละเอียดออกมาหลายด้าน ขอยกในส่วนที่เกี่ยวกับกีฬามาเป็นตัวอย่าง สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดให้บริการ ยกเว้นสถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น.และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม สำหรับการแข่งขันกีฬาที่เคยได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีให้จัดการแข่งขันได้ เมื่อได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดแล้วให้สามารถจัดการแข่งขันได้ต่อไป
ยังมีที่เกี่ยวทางอ้อม อาทิ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจากเคหสถาน, ห้ามจัดกิจกรรมรวมตัวกันเกิน 20 คน, ปรับระดับการกักตัวให้กลับมากักตัว 14 วัน เหมือนเดิมในทุกประเภท อาทิ โดยไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักได้ ยกเว้นจะทำการตรวจหาเชื้อหรือรักษาพยาบาลเท่านั้น
โดยมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป รวมระยะเวลา14วัน
แน่นอน ทุกคนต้องพร้อมทำตามอยู่แล้ว ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ต้องถือว่าวิกฤติอย่างหนัก และมาตรการที่ออกมา ย่อมส่งผลกระทบต่อวงการกีฬาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทุกคนก็น้อมรับด้วยในเวลานี้ความสำคัญแรกคงต้องยกให้กับการต่อสู้ ป้องกันกับเชื้อไวรัสโควิด-19
เพียงแต่เมื่อยังมีสิ่งที่ต้องเดินต่อ และยังได้รับความเห็นชอบให้ปฏิบัติต่อไป ยังมีความไม่ชัดเจนในส่วนที่คาบเกี่ยวกับข้อห้ามและข้อปฏิบัติ
ในส่วนของการจัดการแข่งขัน ที่ยังสามารถทำได้ แต่ยังมีเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และการห้ามกิจกรรมที่รวมตัวกันเกิน 20 คน ที่ใกล้มากกำลังจะมีแข่งก็กอล์ฟรายการใหญ่ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” ในสัปดาห์หน้า อยู่ในเขตพื้นที่ของ จ.ชลบุรี แม้จะปิดสนามแข่ง แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องและอยู่ในสนาม ซึ่งเกิน 20 คนอยู่แล้ว ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาหรือไม่
หรืออย่างการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งยังต้องมีภารกิจ และหน้าที่ของการเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติ ที่สะท้อนถึงความทัดเทียมและดำรงอยู่ในสังคมโลก บนความรับผิดชอบต่อการแข่งขันมากมาย จะสามารถฝึกซ้อมในสนามกีฬาได้หรือไม่ ซึ่งทราบว่า ทาง กกท.ก็ได้ทำหนังสือสอบถามเพื่อความชัดเจนต่อทาง กทม.ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรออกมาและไม่เพียง กทม. ในต่างจังหวัดที่เป็นอำนาจของ ผวจ.แต่ละจังหวัด ซึ่งมีดีกรีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ถือหลักปฏิบัติเช่นไร
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว การแข่งขันกีฬาหรือนักกีฬาทีมชาติ ต้องมีการตรวจหาเชื้อกันเป็นประจำ รวมถึงการฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมตัวไปแข่งขันต่างประเทศ ก็สมควรจะเอาประเด็นเหล่านี้มาร่วมเป็นข้อกำหนด
รวมถึงแผนงานที่ทาง กกท.จะตั้งสปอร์ต ควอรันทีน ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งอันนั้นเป็นการกักตัวนักกีฬาหลังเดินทางกลับจากการแข่งขันในต่างประเทศ ซึ่งดูแล้วก็มีความจำเป็นประการหนึ่ง แต่หากจะให้สมบูรณ์ ควรจะเพิ่มเติมกับการฝึกซ้อมในพื้นที่ปิดของนักกีฬา ในลักษณะของสปอร์ตเทรนนิ่งบับเบิลก็ได้ ก็ไม่รู้จะทันเวลาหรือไม่ แต่เกิดประโยชน์แน่นอนในสถานการณ์เช่นนี้
ยังมีรายละเอียดที่ต้องเคลียร์กันให้ชัดในประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้การป้องกันที่เข้มข้นตามนโยบายรัฐ
เอากันให้ชัด แล้วก้าวไปด้วยกันครับ…
“เบี้ยหงาย”