เพราะ COVID-19 ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น เลยทำให้อีคอมเมิร์ซหลายรายต้องลงทุนขยายคลังสินค้า อย่างในอเมริกาที่มีความต้องการคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มมากขึ้น แถมยังต้องการในแหล่งชุมชนด้วย เหล่านายหน้าเลยหัวใสเลยใช้สนามกอล์ฟเก่า, อาคารสำนักงานที่ร้างเป็นคลังสินค้าซะเลย
การระบาดของไวรัส COVID-19 ได้เร่งยอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลก แม้ในปี 2021 การเติบโตจะชะลอตัวลงเนื่องจากผู้บริโภคคลายความกังวลเนื่องจากมี ‘วัคซีน’ และออกไปจับจ่ายที่ร้านค้าอีกครั้ง แต่พื้นที่สำหรับใช้เป็น ‘คลังสินค้า’ ยังคงเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่สูง เนื่องจากผู้ประกอบการต่างต้องการสร้างคลังกระจายสินค้าเพื่อที่จะรองรับคำสั่งซื้อ และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่ง จึงทำให้บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่มีขนาด 200,000 ตารางฟุตขึ้นไป
ตามรายงานของ CBRE บริษัทผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่าในอเมริกามีพื้นที่ที่เป็นคลังสินค้ารวมกว่า 349.3 ล้านตารางฟุตในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 25% จากปี 2019
“เราเพิ่งเห็นปลายภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น สำหรับความต้องการและการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ เพราะเมื่อคุณเริ่มต้นแล้วคุณจะพบว่าการสั่งซื้อของทางออนไลน์นั้นง่ายเพียงใด ขณะที่การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตของความต้องการคลังสินค้า ซึ่งแนวโน้มยังคงมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง” Mindy Lissner รองประธานบริหารซีบีอาร์อี กล่าว
ภาพจาก CNBC
ด้วยความที่ดีมานด์สวนทางกับซัพพลาย ทำให้นายหน้าขายที่ดินต้องมีความคิดสร้างสรรค์ โดยเริ่มจากเสนอ ‘สนามกอล์ฟเก่า ๆ’ โดย Amazon เพิ่งพบสนามกอล์ฟที่ถูกปิดในเมือง Clay รัฐนิวยอร์กเพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้ามูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีการวางแผนศูนย์ปฏิบัติตามส่วนหนึ่งของสนามกอล์ฟเดิมในแอลโครัฐเทนเนสซี
นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซยังนำ ห้างสรรพสินค้าเก่า ซึ่งมีอยู่มากมายในสหรัฐอเมริกา โดยเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่คลังสินค้า ซึ่งทั้งห้างและสนามกอล์ฟ มักตั้งอยู่ในชุมชนที่เต็มไปด้วยลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ซึ่งทำให้ที่ดินเหมาะสำหรับสถานที่จัดจำหน่ายที่ต้องการอยู่ใกล้บ้านของผู้คน
ไม่ใช่แค่สนามกอล์ฟและห้างฯ เก่า แต่ อาคารสำนักงาน กำลังกลายเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจในการเปลี่ยนเป็นพื้นที่คลังสินค้า Lissner กล่าวว่า มีสำนักงานที่ไม่ใช้เเล้วมากขึ้นในตลาด เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ มีนโยบายการทำงานจากระยะไกลหลังจากเกิดโรคระบาด ทำให้มีความต้องการใช้พื้นที่ที่น้อยลง
“ลูกค้าของเราเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพงกว่า เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ออกไปในสถานที่ห่างไกล แต่เน้นที่เมืองใหญ่ ๆ และสามารถเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง” Chris Caton กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และการวิเคราะห์ระดับโลกของ Prologis กล่าว
(Photo by Sean Gallup/Getty Images)
Prologis ประมาณการว่า สำหรับยอดขายทุก ๆ 1 พันล้านดอลลาร์ บริษัทอีคอมเมิร์ซต้องการพื้นที่จัดจำหน่าย 1.2 ล้านตารางฟุต
ไม่ใช่แค่ Amazon แต่ ‘Gap’ ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ด้วยการลงทุน 140 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าใน Longview รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มยอดขายฝั่งออนไลน์เป็น 2 เท่าในอีก 2 ปี เมื่อเสร็จสิ้น Gap คาดว่าโรงงานขนาด 850,000 ตารางฟุตจะส่งสินค้าได้ 1 ล้านแพ็กเกจต่อวัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Williams-Sonoma บริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ในครัวและของตกแต่งบ้าน บอกกับนักวิเคราะห์ว่ามีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตและการจัดจำหน่าย 20% เป็น 30% ในปีหน้า รวมถึงเพิ่มพื้นที่ประมาณ 2 ล้านตารางฟุตให้กับเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท Home Depot บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ปรับปรุงบ้านที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าขนาด 1.5 ล้านตารางฟุตเพื่อจัดเก็บสินค้าและตอบสนองคำสั่งซื้อทางออนไลน์ในดัลลัสไปเมื่อต้นปี
ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยการเช่าพื้นที่สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมของอเมริกาอยู่ที่ 6.47 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพบว่าเพิ่มขึ้น 5.1% ตามข้อมูลจาก CommercialEdge บริษัทเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ โดยสัญญาเช่าใหม่ที่ลงนามในเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ 7.42 ดอลลาร์ต่อตารางฟุต
Source