เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
MGR Online – ผบช.น.รับห่วงชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ในวันที่ 6 มี.ค. ที่ห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญารัชดา เพราะไร้แกนนำเหมือนที่ ร.1 ทม.รอ.ทั้งยังพบความรุนแรง จัดกำลังตำรวจจราจร 300 นาย อำนวยความสะดวกทั้ง 3 แห่ง เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย คดีวางเพลิงหน้าเรือนจำคลองเปรม
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงกรณีในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) ได้มีประกาศนัดชุมนุมทางโซเชียล ได้แก่ 1. กลุ่มรีเด็ม ที่ห้าแยกลาดพร้าว แล้วเคลื่อนขบวนไปที่ศาลอาญา รัชดา 2.กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน ที่แยกราชประสงค์ และ 3. กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.11 ทม.รอ.) บางเขน ว่า เบื้องต้นได้จัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) 32 กองร้อย เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชุมนุมทั้ง 3 แห่ง
โดยกลุ่มรีเด็มที่จะชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญา ตำรวจได้เฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ เนื่องจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) พบว่า มีการใช้ความรุนแรง และเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจ ทั้งนี้ ทราบว่า การชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวจะไม่มีแกนนำเช่นเดียวกัน ขณะนี้ศาลอาญายังไม่ร้องขอกำลังตำรวจเข้าดูแล ตนได้กำชับตำรวจ คฝ.ทุกนายไม่ให้ปฏิบัติเกินกว่าหน้าที่และกฎหมายกำหนด
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่มีกระแสข่าวดาบตำรวจ สน.วังทองหลาง ไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่บริเวณ ร.1 ทม.รอ.ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลยุทธ์ทางการข่าวเพื่อสร้างความตระหนก ไม่ให้มีการชุมนุมในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ดาบตำรวจยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในรถควบคุมตัวผู้ต้องหา ไม่ได้ออกมาบริเวณจุดที่มีการเผชิญหน้า ยืนยันไม่มีความจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ทางการข่าวใดๆ กับกลุ่มผู้ชุมนุม
สำหรับความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุวางเพลิงที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ก่อนที่ตำรวจสามารถจับกุม นายไชยอมร หรือ แอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ยื่นขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุอีก 2 ราย แต่เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้พิจารณาให้พนักงานสอบสวน ทำการออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. (จร.) กล่าวว่า กรณี กลุ่มรีเด็ม จะชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว-ศาลอาญา เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ห้าแยกลาดพร้าว (พื้นราบ), ถนนพหลโยธิน (ห้าแยกลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน), ถนนลาดพร้าว (ห้าแยกลาดพร้าว-แยกรัชดาลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก (แยกรัชดาลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน) โดยให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 14.00 น. และเส้นทางที่แนะนำใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ได้แก่ ถนนวิภาวดี-รังสิต (ช่องทางหลัก), ถนนโชคชัย 4, ทางยกระดับโทลล์เวย์, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ถนนประดิพัทธ์, ถนนเสนานิคม, ถนนกำแพงเพชร 2, ถนนลาดปลาเค้า, ถนนลาดพร้าววังหิน, ซอยโชคชัยร่วมมิตร, ซอยวิภาวดีรังสิต 3
กรณี กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน จะชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนราชดำริ (แยกราชดำริ-แยกประตูน้ำ), ถนนพระราม 1 (แยกเฉลิมเผ่า-แยกราชประสงค์), ถนนเพลินจิต (แยกราชประสงค์-แยกชิดลม) โดยให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 11.00 น. และเส้นทางที่แนะนำใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ได้แก่ ถนนราชปรารภ, ถนนสารสิน, ถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 4, ถนนสุขุมวิท, ถนนสาทร, ถนนวิทยุ, ถนนสีลม, อังรีดูนังต์, หลังสวน, ถนนพญาไท, ซอยต้นสน
กรณี กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 จะชุมนุมที่ ร.11 ทม.รอ.บางเขน เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนพหลโยธิน (แยกเทพรักษ์-แยกเกษตร), ถนนรามอินทรา (ขาเข้า) พื้นราบ (สนามกอล์ฟ-วงเวียนบางเขน), ถนนแจ้งวัฒนะ (ขาออก) พื้นราบ (ม.ราชภัฏพระนคร-วงเวียนบางเขน), วงเวียนบางเขน (พื้นราบ), อุโมงค์วงเวียนบางเขน, ถนนผลาสินธุ์ (ตลอดสาย) โดยให้หลักเลี่ยงตั้งแต่เวลา 13.00 น. และเส้นทางที่แนะนำใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต, ทางยกระดับโทลล์เวย์, ถนนรามอินทรา-ถนนแจ้งวัฒนะ (ให้ใช้สะพานข้ามวงเวียนบางเขน), ถนนเทพรักษ์-ถนนวัชรพล, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม-ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนงามวงศ์วาน, ถนนลาดพร้าววังหิน-ถนนลาดปลาเค้า, ถนนเสนานิคม-ถนนลาดพร้าววังหิน, ถนนรัชดาภิเษก, ซอยรามอินทรา 39, ซอยรามอินทรา 14 (มัยลาภ)
ทั้งนี้ บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร 300 นาย และมีกำลังเสริมจากกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) อีก 100 นาย ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอปพลิเคชัน M-Help Me และทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH.