กองปราบตามรวบหนุ่มหลอกขายรถกอล์ฟผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก เจ้าตัวอ้างถูกผู้จ้างงานหลอกอีกทอดหนึ่ง
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุม นายเมิน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพล ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” หลอกขายรถกอล์ฟไฟฟ้าผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ผู้เสียหายได้เข้าเฟซบุ๊กกลุ่มรถบ้านแคมป์ปิ้ง โดยสนใจรถกอล์ฟไฟฟ้า จึงติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้ากับผู้ต้องหา ก่อนตกลงทำการซื้อขายรถกอล์ฟไฟฟ้าในราคา 35,000 บาท ค่าจัดส่ง 6,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 41,000 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา โดยอ้างว่าจะทำการส่งให้วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ในเวลา 09.00 น.
ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้เสียหายโทรศัพท์สอบถามเรื่องสินค้า เนื่องจากสินค้ายังมาไม่ถึง ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าจะโทรติดตามคนขับรถที่นำของไปส่งให้ ต่อมาผู้เสียหายจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถมาติดต่อเอง โดยทราบว่าสินค้าจะมาถึงประมาณ 15.00 น. แต่สินค้าก็ยังไม่มา เมื่อสอบถามคนขับรถอีกครั้งกลับถูกตัดสาย ด้านผู้ต้องหาอ้างว่าหากเวลา 20.00 น. สินค้ายังไปไม่ถึงจะโอนเงินคืนให้ทันที จากนั้นได้บล็อกเฟซบุ๊กจนไม่สามารถติดต่อได้อีก เมื่อพบว่าถูกหลอก จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.พล จ.ขอนแก่น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง มีกลุ่มผู้เสียหายได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยไว้ที่สื่อออนไลน์จำนวนมาก จึงดำเนินการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ภายใน ซอยพระยาสุเรนทร์ 21 แยก 3 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ จนกระทั่งวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักซอยดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย แต่มีนายตั้มฯ (ไม่ทราบชื่อจริง) อายุประมาณ 35-40 ปี ติดต่อผ่านไลน์กลุ่มว่าหาคนคุมงานรับเหมา โดยนายตั้มแจ้งว่าต้องเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้สำหรับนำเงินโอนเข้า และต้องมอบสมุดบัญชีเพื่อนำไปทำเอกสารเบิกเงิน และเปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือให้นายตั้มอีกด้วย เมื่อดำเนินการเสร็จ จึงมอบบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินสด, เบอร์โทรศัพท์มือถือ และรูปถ่ายบัตรประชาชน ให้กับนายตั้ม แต่ต่อมาหลายวันกลับไม่ได้รับการติดต่อกลับ จึงได้ไปที่ธนาคารพบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาเกือบแสนบาท จึงได้อายัดบัญชีไว้ แต่ไม่ทันมีเงินออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายเมิน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พล จ.ขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ติดตาม ช่อง 8 ได้ทาง
facebook.com/thaich8