‘พีมูฟ-ภาคีเซฟบางกลอย’ คาใจ ‘วราวุธ’ คุ้มครองสัตว์ ไม่ดูแลคน ทำแม่ลูกพลัดพราก ยันปักหลักทำเนียบไม่มีกำหนด

This image is not belong to us

‘พีมูฟ-ภาคีเซฟบางกลอย’ คาใจ ‘วราวุธ’ คุ้มครองสัตว์ ไม่ดูแลคน ทำแม่ลูกพลัดพราก ยันปักหลักทำเนียบไม่มีกำหนด

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เครือข่ายกลุ่มราษฎร นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ทำกิจกรรม”เดินทะลุฟ้า” เป็นวันสุดท้าย หลังเดินมา 17 วัน ระยะทาง 247.5 กิโลเมตร โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้เริ่มเดินจากแยกเกษตร เคลื่อนขบวนมาถึงจุดสิ้นสุดที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง ในช่วงเย็น มีการตั้งเวทีและผลัดขึ้นปราศรัยในประเด็นต่างๆ ประกาศข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อ คือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2.ปล่อยเพื่อนเรา 3.ยกเลิกมาตรา 112 และ 4.นายกรัฐมนตรีลาออก

บรรยากาศบนเวทีเมื่อเวลาราว 20.45 น. นาย จำนงค์ หนูพันธ์ จากกลุ่มพีมูฟ หรือ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขึ้นปราศรัยในประเด็นปัญหาของชาวบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เนื้อหาโดยสรุปว่า ปัญหาของชาวปกากะเญอ หรือกะเหรี่ยงบางกลอยเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานประกาศทับที่ชาวบ้าน แต่ไล่ชาวบ้านออกจากที่ดินที่บรรพบุรุษอยู่มา ต้องตกระกำลำบาก รอคอยมา 25 ปี ปัญหายังไม่ถูกแก้ รัฐบาลนี้ก็ไม่เคยแก้ปัญหาให้คนจน พยายามใช้คดีปิดปาก ตั้งแค่ยุคคสช.จนถึง ‘ประยุทธ์ 2 ‘ ขณะนี้พีมูฟพร้อมแลกเปลี่ยนกับทุกขบวนการ

“นี่คือสิ่งที่อยากบอกให้คนรู้ว่าชาวบ้านไม่ได้รับความยุติธรรม ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการราชการ อันดับแรกที่ต้องทำคือแก้รัฐธรรมนูญ 60 แต่ทราบว่ามีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความซึ่งเราขอค้าน เพราะถ้าถูกตีตก รัฐธรรมนูญ 60 จะอยู่ชั่วกัปป์ชั่วกัลป์

ตอนนี้พีมูฟกำลังตั้งหมู่บ้านที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไล่รัฐบาลที่รับปากทุกเรื่องแต่ไม่เคยทำ มัวแต่วุ่นวายเล่นการเมืองเพื่อพวกพ้องและนายทุน เราต้องให้คนเท่ากัน ไม่ใช่สัตว์เหนือกว่าคน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ คุ้มครองแต่สัตว์ ทั้งที่คนอยู่กับป่ามาเป็นร้อยปี เขาหัวโล้นไม่ได้เกิดจากชาวบางกลอย แต่เกิดจากนายทุน” นายจำนงค์กล่าว

จากนั้น ‘กอล์ฟ พัชระ’ จากภาคีเซฟบางกลอย ปราศรัยว่า พี่น้องกะเหรี่ยงถูกกดทับ ลดทอนศักดิ์ศรี สนธิกำลังทหารและเจ้าหน้าที่อุทยานเผาบ้านและยุ้งข้าว 98 หลังคาเรือน ต้องหนีหัวซุกหัวซุนในปี 2554 ต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสัญญาของภาครัฐที่บอกว่ามีโครงการมากมายมาช่วยเหลือ พัฒนา แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านมีหนี้สินราว 1-2 หมื่นบาทจากการซื้อข้าว น้ำปลา ผงชูรส ฟางเส้นสุดท้ายคือโควิดซึ่งส่งผลกระทบมาก จึงตัดสินใจกลับไปยังหมู่บ้านใจแผ่นดินเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ถูกยุทธการพิทักษ์ต้นน้ำเพชร ซึ่งใช้วิธีเดิมตีตราผลิตซ้ำมายาคติผิดๆ ว่าชาติพันธุ์ทำลายป่า เป็นต่างด้าว ซ่องสุม ปลูกกัญชายาเสพติด ไม่มีสิทธิอยู่ในอุทยาน นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าพวกตนไปยุยงปลุกปั่นชาวบ้าน ซึ่งตนก็โดนคดีความด้วย

“ชาวบ้านถูกจับ 30 ราย ถูกขัง 22 ราย ไม่ให้ทนายความและญาติเข้าพบ แม่ลูกพลัดพรากกัน ไม่สามารถฝากลูกไว้กับญาติได้เพราะไม่ให้ญาติพบ พม.ต้องเข้าช่วยเหลือ

บางกลอยคือตัวอย่างของคนตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังลุกขึ้นสู้กับอภิสิทธิ์ชน บางกลอยก็กำลังลุกขึ้นสู้กับคนตัวใหญ่ของสังคม วันนี้ขอบคุณทุกคนที่ออกมาติดแฮชแท็กช่วยเซฟบางกลอย ไม่มีช่วงไหนในรอบ 30-50 ปีที่ชาติพันธุ์ได้ใกล้ชิดคนเมืองมากเท่านี้” กอล์ฟ พัชระกล่าว

ก่อนชวนให้ผู้ร่วมกิจกรรมเปล่งเสียงพร้อมกันอย่างกึกก้องว่า ‘คนต้องเท่ากัน ชาติพันธุ์ก็คือคน’ โดยประกาศปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างไม่มีกำหนด