ธนารักษ์หาช่องเพิ่มรายได้เข้ารัฐ ปัดฝุ่นเปิดประมูลสนามกอล์ฟบางพระส.ค.นี้ ให้สิทธิเอกชนเช่านาน 30 ปี เริ่มเคาะที่ 13 ล้านบาท ลุยเปิดประมูลที่ดินยึดทรัพย์ออนไลน์ เฟส 2 กว่า 200 แปลง โชว์ทำเลเด่น “ที่ดินริมทะเลชะอำ-ตึกใจกลาง กทม.” พร้อมเตรียมชง ครม.เคาะเดินหน้าก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือสงขลา หนุนจ้างงาน-กระตุ้นการลงทุนช่วง “โควิด-19” ระบาด
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในช่วงอีก 3 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2564 นี้ หรือภายในเดือน ก.ย. 2564 กรมจะเดินหน้าเปิดประมูลที่ราชพัสดุ เช่น สนามกอล์ฟบางพระ จังหวัดชลบุรี, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับโอนจากการยึดของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตามคำสั่งศาล
รวมทั้งการเร่งรัดสัญญาร่วมดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ซึ่งจะส่งผลให้กรมมีรายได้นำส่งเข้ารัฐเพิ่มอีกราว 1,000 ล้านบาท และจะส่งผลดีในแง่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้ สนามกอล์ฟบางพระ เนื้อที่กว่า 600 ไร่ จะเปิดประมูลช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ โดยเปิดให้เอกชนเช่าได้ถึง 30 ปี คิดอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 300 ล้านบาท และคิดค่าเช่ารายปีเริ่มต้นเปิดประมูลที่ 13 ล้านบาท
ซึ่งหากในการดำเนินการดังกล่าวมีกำไรสุทธิ กรมก็จะจ่ายผลตอบแทนให้รัฐด้วย ทั้งนี้ ขณะนี้ขั้นตอนการเตรียมเปิดประมูลอยู่ระหว่างการออกร่างขอบเขตงาน (TOR) และจะเปิดขายซองประมูลในช่วงเดือน ก.ค.นี้ โดยเฉพาะโครงการนี้คาดว่าจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท
“ก่อนเปิดประมูล เราจะลงพื้นที่ไปเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้ามาร่วมประมูล โดยสนามกอล์ฟบางพระ มีความสวยงาม แต่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องน้ำไม่เพียงพอ และสนามเริ่มทรุดโทรมตามกาลเวลา
แต่เงื่อนไขใน TOR รอบนี้ เราให้เอกชนสามารถปรับปรุงสนามกอล์ฟ สร้างสนามฝึกสำหรับเยาวชน และสร้างที่พักในพื้นที่ดังกล่าวได้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต
ซึ่งแม้ปัจจุบันจะยังมีสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด แต่ในอนาคตหากสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้ว จะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการแน่นอน” นายยุทธนากล่าว
ขณะเดียวกันช่วงต้นเดือน ส.ค. ยังจะเปิดประมูลทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับโอนทรัพย์มาจาก ปปง.และ ป.ป.ส. ตามคำลั่งของศาล ประมาณ 200 แปลง คิดเป็นกว่า 150 รายการ โดยประมูลแบบออนไลน์เป็นรอบที่ 2 หลังจากรอบที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีมาก
“การเปิดประมูลในรอบที่ผ่านมา ทำให้กรมได้ทราบปัญหาในเรื่องแปลงที่ดิน เช่น เป็นที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้าออก หรืออื่น ๆ ในการเปิดประมูลรอบนี้ ก็ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเพิ่มช่องทางถนน ซึ่งก็เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ที่สนใจด้วย และรอบนี้ก็คัดสรรทรัพย์คุณภาพดีกว่ารอบที่ผ่านมา ซึ่งมีที่ที่น่าสนใจ เช่น พื้นที่ริมทะเลชะอำ และตึกทำเลดีใน กทม.หลายแห่ง เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กรมมีรายได้จากการเปิดประมูลรอบนี้อีก 500 ล้านบาท”
นายยุทธนากล่าวด้วยว่า กรมปรับปรุงแก้ไขระบบ เพื่อให้การประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งจากการเปิดประมูลรอบที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่รอเคาะราคาในวินาทีสุดท้าย จึงต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่า หากประมูลในวินาทีสุดท้ายพร้อมกัน ระบบจะตัดอัตโนมัติ อาจทำให้ผู้ประมูลพลาดโอกาสได้
ส่วนการกำหนดการวางเงินประกันการประมูลตามราคาขายทรัพย์เริ่มต้นนั้น กรมยังกำหนดไว้เช่นเดิมเหมือนกับรอบที่ผ่านมา โดยเริ่มวางเงินประกันตั้งแต่ 10,000- 500,000 บาท/รายการทรัพย์
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการนำส่งรายได้เข้ารัฐเพิ่มเติม และเร่งในเรื่องการจ้างงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในเร็ว ๆ นี้ กรมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร่งรัดสัญญาร่วมทุนโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา (PPP)
“ที่ผ่านมา ท่าเรือสงขลาได้ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนเสนอ ครม. เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้เลยโดยส่วนนี้จะทำให้กรมมีรายได้เข้ารัฐกว่า 200 ล้านบาท” อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ กรมธนารักษ์นำส่งรายได้เข้ารัฐแล้วราว 6,000 ล้านบาทซึ่งมั่นใจว่าปีนี้จะส่งรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทแน่นอน