ถือเป็นความสำเร็จที่มีความหมายกับ “โปรเม” ในหลายๆ แง่มุม เพราะนอกจากเป็นแชมป์แรกหลังห่างหายไปนานร่วม 3 ปีแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่นักกอล์ฟไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์รายการนี้ในบ้านของตัวเองนับจากแข่งขันมา 14 ครั้งตั้งแต่ปี 2006เฉพาะ เอรียา ร่วมแข่งขันรายการนี้ตั้งแต่ปี 2007 ตอนอายุแค่ 11 ขวบ และเคยเข้าใกล้โอกาสคว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์หนแรกในชีวิตเมื่อปี 2013 แต่ดันพลาดเสียทริป- เปิลโบกี้หลุม 18 วันสุดท้าย จากนำ 2 สโตรก กลับกลายเป็นพ่ายแพ้ต่อ พัค อินพี จากเกาหลีใต้ 1 สโตรก
ด้วยหลากหลายเหตุผลข้างต้นจึงเป็นที่มาของน้ำตาและความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาอย่างต่อเนื่องทันทีที่ เอรียา การันตีซิวแชมป์แน่นอนแล้ว
“โปรเม” ยังฝากข้อคิดถึงเด็กไทยที่ใฝ่ฝันเป็นนักกอล์ฟอาชีพก้าวตามรอยตัวเองว่า บางครั้งอาจมีวันที่รู้สึกท้อแท้ อยากยอมแพ้ ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็พอแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครถอดใจง่ายๆ เลยอยากให้อดทน เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะจังหวะชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน อย่ามัวแต่เปรียบตัวเองกับคนอื่นและพยายามทำให้เต็มที่ โอกาสของทุกคนจะมาถึงสักวัน
บางครั้งทั้งที่คว้าแชมป์ 5 รายการในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปี 2016 จบเป็นอันดับ 2 ของโลกสิ้นปีนั้น เป้าหมายของเธอแค่อยากออกไปเล่นกอล์ฟให้มีความสุข ทำให้เต็มที่ ภูมิใจในตัวเอง
ทว่ามันไม่ใช่เป้าหมายเดียวกับที่คนรอบข้างอยากฟัง มองว่านั่นมันนามธรรม จับต้องไม่ได้ โลกสวยจัง แต่พอประกาศอยากเป็นมือหนึ่งของโลก ทั้งที่ทำสำเร็จจริงๆ ครั้งแรกกลางปี 2017 เป็นมือหนึ่งอยู่ 14 วันแต่กลับไม่ได้ทำให้มีความสุขเลย สิ่งที่ได้มาไม่ได้มีค่ากับตัวเองเลย
หลังจากนั้นทุกครั้งที่ผลงานไม่ดี มีแต่คนถามเกิดอะไร เป็นอะไรหรือเปล่า ขณะที่ตัวเองคิดแค่พรุ่งนี้จะทำอะไรให้ดีขึ้น เพราะเราเป็นคนธรรมดาผิดพลาดได้แต่ตอนนั้นกับการเป็นมือหนึ่งของโลก ตีได้ดีแค่เสมอตัว
จุดเปลี่ยนคือตอนกลับเมืองไทยปลายปี 2017 ช่วงวันเกิดมีเวลาไปเยี่ยมโรงเรียนที่ให้ทุนการศึกษาน้องๆ ที่ อ.ปากช่อง ได้เจอบ้านน้องๆ เป็นแค่สังกะสีเล็กๆ มีคุณพ่อ คุณแม่ป่วยติดเตียง ลูกสาว 2 คน วิ่งเล่นสนุกตามประสาเลยถามตัวเองทำไมไม่มีความสุขเหมือนน้องๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นยังไง มีข้าวกินมั้ย ได้เรียนต่อหรือเปล่า รู้แค่พรุ่งนี้ต้องเดินเท้าไปโรงเรียน จนมีความคิดบอกทุกคนจะซื้อที่ว่างแถวใกล้โรงเรียนเพื่อสร้างบ้านให้เด็กอยู่กินดีขึ้นแต่คนรอบข้างกลับท้วงว่า “ใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ คิด มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ”
ตอนนั้นยอมรับรู้สึกโกรธที่ไม่ได้ใช้เงินของตัวเองทำในสิ่งที่อยากจะทำ ทำไมต้องห้ามในสิ่งที่อยากจะทำ หันกลับไปบอกผู้จัดการส่วนตัว “ปีหน้าเมจะกลับไปตีกอล์ฟให้ดี เมจะกลับไปเป็นแชมป์แล้วจะเป็นมือหนึ่งของโลกอีกครั้ง แล้วถึงวันนั้นถ้าเมทำได้จะไม่มีใครห้ามเมได้”
จากวันนั้นคือชีวิตที่เปลี่ยนไป ตื่นมาถามตัวเองทุกวันว่า “สิ่งที่จะทำต่อไป มันพาไปสู่เป้าหมายของตัวเองหรือเปล่าเพราะถ้าใช่เมจะทำ ถ้าไม่ใช่เม เมไม่เสียเวลาทำเลย” ทำให้พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งความคิด จิตวิทยา กอล์ฟที่รู้สึกว่าพัฒนาขึ้นได้อีก ไม่เคยหยุดพยายาม มองหาทุกคนที่จะช่วยให้เก่งขึ้น ดีขึ้น กลายเป็นคนที่ซ้อมมากขึ้น มีความสุขในการซ้อม ชอบพัฒนาตัวเองเพราะรู้สึกว่าทั้งหมดนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้จนกลับมาคว้าแชมป์เป็นมือหนึ่งของโลกอีกครั้งในปี 2018
ทว่าครั้งนี้อารมณ์ความรู้สึกต่างจากครั้งแรกมากเพราะรู้สึกมีความสุข คำว่ามือหนึ่งของโลกไม่ได้หมายความแค่นั้น เพราะ เม สามารถช่วยเด็กได้เยอะ ช่วยน้องๆ มีการศึกษา มีบ้านอยู่ นั่นคือสิ่งที่ภูมิใจและคู่ควร เพราะ เม ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมาจริงๆ
มันทำให้เรามีมูลนิธิของตัวเองมีส่วนช่วยสร้างบ้านให้คนยากไร้ ทำให้ได้รู้ว่าคำว่าเป้าหมายมันไม่พอ คุณค่าของเป้าหมายต้องสำคัญมากพอ ถ้าคุณค่าของเป้าหมายสำคัญมากพอสำหรับเรา มันไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม ความสามารถ ความมุ่งมั่นตั้งใจของเรา
“เมอยากให้ทุกคนลองถามตัวเองว่าเป้าหมายที่เรามี มันคือเป้าหมายที่คนอื่นบอกว่ามันดี สังคมบอกว่ามันควรจะเป็น มันใช่เป้าหมายที่เราต้องการจริงมั้ย เป็นเป้าหมายที่มีค่าสำหรับเราหรือเปล่า”
ทั้งหมดคือประสบการณ์ตรงทั้งในและนอกสนามของ “โปรเม-เอรียา” ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
“แม้เราล้มลุกคลุกคลานเท่าไหร่ ขอเพียงเชื่อมั่นในตัวเอง มีความสุขภูมิใจหลังได้ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว วันของเราจะมาถึงแน่”
ขณะเดียวกันระหว่างให้สัมภาษณ์ออนไลน์ข้ามทวีปผ่านรายการ TEE OFF หลังเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมแข่งขันรายการคิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ ที่เคยคว้าแชมป์มาแล้ว 2 ครั้งถึงการคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นนักกอล์ฟอายุน้อยสุดแค่ 11 ปีที่ลงเล่นแอลพีจีเอ ทัวร์
“กับรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เหมือนเมโตมากับรายการนี้ แข่งในเมืองไทยด้วย ลงเล่นตั้งแต่อายุ 11 มี พี่โม เป็นแคดดี้ ยังไม่รู้เลยว่า พี่โมจะแบกถุงกอล์ฟตลอด 7 วันไหวมั้ย เราสองคนยังดูสมุดข้อมูลสนาม (yardage book) ไม่เป็นด้วยซ้ำ คิดว่าวันซ้อมใช้หัวไม้ กับเหล็กไหน ก็ใช้อย่างนั้น”
“สำหรับปี 2013 กับการคว้าแชมป์ในปีนี้ เมรู้สึกว่ามันลบล้างกันไม่ได้เพราะวันเป็นคนละช่วงเวลากัน ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันแล้ว รู้สึกโชคดีมากกว่าที่วันนั้นมันเกิดขึ้น เพราะรู้สึกว่าเมเข้มแข็งขึ้น ได้เรียนรู้จากตรงนั้นเยอะมาก ได้เข้าใจความรู้สึกที่ชนะ ความรู้สึกที่แพ้ ความรู้สึกผิดหวังที่เมคิดว่าคงไม่ผิดหวังได้ขนาดนั้นอีก หรือว่ากำลังใจที่ส่งมาให้เมมากเหลือเกิน ทำไมมันมากมายขนาดนี้มันมีค่าอย่างมากสำหรับเม”
“รู้สึกโชคดีที่เกิดขึ้น ไม่ได้รู้สึกฝังใจหรืออะไรเลย กลับกันรู้สึกเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ด้วยซ้ำ เป็นสัปดาห์ที่ดี รู้สึกว่าเราเติบโตขึ้นมากๆ จากวันนั้น และถ้าย้อนเวลากลับก็ยังอยากให้มันเกิดขึ้นแบบนั้นเหมือนกัน ขอเพียงทำให้เต็มที่ ผลลัพธ์จะออกมายังไงถ้ามันจะไม่ดีก็ไม่เป็นไร เมยังภูมิใจเพราะได้ทำอย่างเต็มที่อย่าง ที่อยากทำแล้ว ตัดสินใจทุกอย่างให้ดีที่สุด ตัดสินใจแล้วทำในสิ่งที่อยากทำ เมยอมรับได้เสมอ”
ท้ายสุด เอรียา เผยถึงการเป็นแรงบันดาลใจของน้องๆ อย่าง น้องจีน กับ น้องแพ็ตตี้ เหมือนสมัยที่เมมองนักกอล์ฟรุ่นพี่ๆ เป็นแบบอย่าง ขณะเดียวกันเมก็เฝ้ามองผลงานของน้องๆ เหมือนกันว่า “จริงๆ เม รู้สึกว่าน้องจีนกับน้องแพ็ตตี้เป็นแรงบันดาลใจให้เม เพราะวันที่อยู่ในทัวร์มานานๆ เราเริ่มมองว่า อืม…ก็ได้ ชิลล์ๆ ทำอะไรก็รู้สึกว่าเต็มที่ล่ะ แต่พอเรามาเห็นความมุ่งมั่นของน้อง ความตั้งใจของน้อง ระเบียบวินัยที่น้องมี”
“มันทำให้เรามามองตัวเองแล้วรู้สึก ว่าเราทำมันเต็มที่จริงๆ หรือยัง เรามีความมุ่งมั่น มีระเบียบวินัยแบบที่น้องมีหรือเปล่า ทุกๆ ครั้งที่เห็นน้องเล่นมันคือความประทับใจ มันคือความภูมิใจอย่างตอนน้องแพ็ตตี้ได้แชมป์เอเอ็นเอ มันทำให้เมนึกภาพหันตามแคดดี้เลยว่า – เฮ้ย! ยู วันที่ไอขึ้นนำเอเอ็นเอ ไอ เก่งมากเลยนะ ไอสามารถตี 3 โบกี้แล้วแพ้ได้อะ – เม เลยรู้สึกน้องเท่มากๆ น้องสามารถรับมือกับความกดดันในแมตช์เมเจอร์แรกของน้องขึ้นนำจนจบ เมบอกเมทำไม่ได้นะ น้องเก่งมากเลย”
“หรือน้องจีนที่จัดการกับความสถานการณ์ตึงเครียดได้ทั้งที่น้องเพิ่งอายุ 18 คว้าแชมป์มาเยอะมาก อาจเพราะเราแก่ขึ้น มันทำให้มีแต่ความดีใจ เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจและสมควรแล้วกับสิ่งที่น้องๆ ประสบความสำเร็จ มันเป็นความดีใจ ภูมิใจแล้วก็ประทับใจจริงๆ”
ต้นแบบสู่น้องๆ รุ่นต่อรุ่น “กอล์ฟ แชนแนล” สื่อดังวงการกอล์ฟโลก ระบุมีนักกอล์ฟเยาวชนหญิงประเทศไทยจำนวนมากได้รับอิทธิพลจากความสำเร็จระดับโลกของ เอรียา จุฑานุกาล พร้อมยึดเป็นแบบอย่าง แรงบันดาลใจท้าทายตัวเองในเวทีนานาชาติ
หนึ่งในนั้นคือ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยวัยแค่ 18 จาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เจ้าของสถิตินักกอล์ฟเด็กสุดวัยเพียง 14 ปี 4 เดือน 19 วัน คว้าแชมป์ทัวร์นา-เมนต์อาชีฟในศึกเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อ 9 กรกฎาคม 2017
ครั้งนั้น อาฒยา ทำลายสถิติที่ บรู๊ค เอ็ม. เฮนเดอร์สัน เคยทำไว้ 14 ปี 9 เดือน 3 วัน ตอนชนะเลิศรายการในแคนาเดียน วีเมนส์ ทัวร์ เดือนมิถุนายนปี 2012 ขณะที่ในศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ที่เพิ่งจบลง แม้ อาฒยา ทำผลงานรอบสุดท้ายได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นเป็นผู้นำจ่อเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกสุดในการคว้าแชมป์รายการนี้กระทั่งพลาดเสียโบกี้หลุม 17 และวืดเบอร์ดี้ ระยะ 6 ฟุตหลุมสุดท้ายเพื่อไปชี้ชะตาตัดสินแชมป์กับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อย่างน่าเสียดาย
หลังจบการแข่งขัน “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล เปิดใจกับ “โปรเจย์” วันปีย์ สัจจมาร์ค สัมภาษณ์ออนไลน์ผ่านรายการ “TEE OFF” ถึงผลลัพธ์จากผลงานดีเกินคาดแม้สุดท้ายส่วนตัวจะพลาดโอกาสคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์
“แน่นอนว่าเป็นปีแรกที่คนไทยได้แชมป์ในบ้านเรา มันเป็นอะไรที่จีนดีใจมากเลย ไม่จำเป็นต้องเป็นจีน ขอให้เป็นคนไทย ใครก็ได้ได้แชมป์ ดีใจและยินดีด้วยเพราะมันเหมือนเราได้แชมป์กับเขาด้วย”
“ส่วนตัวภูมิใจกับตัวเองมากเพราะ
ก่อนแข่งขันทั้งผู้จัดการ ทั้งโค้ชและคนรอบข้างบอกถ้าตีลบ 4 ทั้ง 4 วัน พวกเขาภูมิใจในตัวจีนแล้ว แค่นั้นเก่งมากแล้วแต่เล่นวันแรกยอดเยี่ยม ทุกคนพูดว่าได้ขนาดนี้เลยเหรอ บอกการเล่นจีนมีพลาดบ้างอย่างทำ 3 พัตต์แต่ไม่ได้่เสียหายใหญ่โต มันคือรายละเอียดแต่ภาพรวมดีมาก เพราะจีนคิดว่าตีลบ 3 ได้ 4 วันก็โอเคแล้ว เรื่องผลลัพธ์ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ใส่ใจกับการเล่นของตัวเองว่าทำได้ดีแค่ไหนกับที่ซ้อมมาเพื่อการเล่นรายการนี้”
“การเล่นทัวร์นาเมนต์แอลพีจีเอกับนักกอล์ฟมือชั้นนำทำให้รู้ว่า จีนมีศักยภาพที่จะทำได้เหมือนกัน แต่อาจเป็นรองเรื่องประสบการณ์ ความเก๋าแต่ก็เข้าใจได้เพราะเพิ่งเทิร์นโปรปีที่แล้ว”
ถามถึงการเล่นบนกรีน บนหลุมสุดท้ายตอนแรกลังเลระหว่างใช้เวดจ์ชิพหรือพัตต์เพราะจีนชอบเลือกเล่นปลอดภัยไว้ก่อน ทั้งที่โค้ชบอกเสมอรู้หรือเปล่าว่าจีนชิพดีมาก ถ้าอยากเป็นแชมป์ต้องกล้าเล่นเสี่ยงมากขึ้นบ้าง แต่จีนชอบคิดว่าทำไม่ได้ถ้ามีพื้นที่ตกน้อยจะหน้าหรือหลังธงถ้าไม่สั้นจู๋ก็เลยไกลเป็นคันธง”
“ตอนนั้นกลับมาเล่นรู้ว่าฝนเพิ่งตกกรีนอาจจะหนืดแถมพัตต์ผ่านฟลินต์และสันเนินอีกเลยเลือกชิพ ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองกับการตัดสินใจที่กล้าสู้กับสิ่งที่ตัวเองคิดไว้แล้วชิพได้อย่างที่ต้องการ”
สำหรับสิ่งที่เคยพูดว่า พี่เม (เอรียา จุฑานุกาล) เป็นไอดอลคนหนึ่งของตัวเอง เคยบอกเขาที่ผ่านความผิดหวังมากกระทั่งเป็นนักกอล์ฟชั้นนำ และทุกวันนี้ “จีน” น่าจะกลายเป็นต้นแบบขวัญใจของน้องๆ รุ่นใหม่บ้างแล้ว
“จีนคิดว่าการมีแบบอย่างเป็นสิ่งที่ดี เหมือนเห็นเขาทำ วันหนึ่งเราอยากเป็นแบบเขา แล้ววันหนึ่งอยากเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ แต่ส่วนตัว จีน อยากให้น้องๆ ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องประสบความสำเร็จแบบเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก
“ส่วนตัวจีนก็ไม่ได้อยากเป็นมือหนึ่งของโลก อยากเป็นแบบคนนั้นคนนี้ เราแค่เรียนรู้จากสิ่งที่เขาทำและเป็นแต่ไม่ต้องเป็นแบบเขา ไม่ต้องดีแบบเขา เราควรประสบความสำเร็จแบบเราดีกว่า อยากให้น้องมอง จีน แบบนั้นไม่ต้องเป็นและเก่งแบบจีน”
“เราแค่ทำให้ดีที่สุดเพราะคำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความสำเร็จของจีนคือเป็นอะไรก็ได้ที่น้องอยากเป็น เพราะจุดมุ่งหมายในการมาเล่นกอล์ฟของ จีน ก็คือครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเป็นมือหนึ่งแต่เลี้ยงดูครอบครัว ครอบครัวอยู่ได้ ตัวจีนอยู่ได้ก็คือจบ ไม่ต้องกังวลเรื่องอันดับอะไร แค่นี้คือประสบความสำเร็จในแบบของจีน”
“นี่คือแพสชั่น ความมุ่งมั่นของเรา มันทำให้รู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร สิ่งที่ทำไปทุกๆ วันมีจุดมุ่งหมายอะไร มันคือแรงบันดาลใจให้เรารู้ว่าทำในแต่ละวัน
เผยแพร่: 31 พ.ค. 256…
This website uses cookies.