สมศักดิ์ศรีบทสายวายชายรักชายของนักแสดงรุ่นใหญ่ เล่นเลิฟซีนกันจริงจังกับ อั๋น-วิทยา ในละคร “เรือนร่มงิ้ว” ทางช่อง 8 ซะจนหนุ่ม กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา ตกเป็นข่าวว่าเลิกกับแฟน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเอฟเฟกต์จากเรื่องนี้หรือเปล่า โชคยังดีที่ กอล์ฟ ไปกู้รักกลับคืนมาได้ แต่งานนี้ก็เห็นว่าง้อแฟนสาว คูน อยู่นาน ใช้ทุกวิถีทางกว่าที่จะง้อสำเร็จ วันนี้ขอสัมภาษณ์หนุ่ม กอล์ฟ ถึงฟีดแบ็กละคร ฟีดแบ็กบทชายรักชาย รวมถึงปัญหาความรัก
เริ่มด้วย กระแสละครตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“กระแสตอบรับดีมากๆเลย ก็ขอบคุณแฟนๆที่ชอบกัน เพราะตอนถ่ายผมบอกตรงๆเลยว่าเครียดมาก แต่พอผลงานออกมาแล้วผมก็หายเหนื่อย ส่วนมากจะอิน จะว้าวกับบทชายรักชายกับพี่อั๋น ก็คือมีคนชมอ่ะแหละ ว่าเล่นดีนะ รักเดชอะไรแบบนี้ แล้วเขาก็กดหัวใจมาในไดเรกไอจี ก็ประมาณแซวๆ หยอกล้อ ส่วนคนที่เข้ามาแซวก็มีทั้งหมดนะ ทั้งผู้ชายผู้หญิง แต่ส่วนใหญ่ก็จะไปทางผู้ชายอะไรแบบนี้ครับ (หัวเราะ)”
หลายคนอยากจะรู้ว่าเบื้องหลังซีนชายรักชาย ทำไมถึงกล้าเล่นขนาดนั้น?
“อย่างที่บอกคือหนึ่งเลยคือเป็นนักแสดง การเป็นนักแสดงเราต้องทำได้ทุกบทบาท สองในเมื่อเรารับงานไปแล้วเรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคืออะไร มันจะปฏิเสธไม่ได้ สามคือเราต้องทำการบ้าน เราอยากเล่นเรื่องนี้ เราก็ต้องทำการบ้าน แล้วเราก็ทำให้มันเต็มที่ เพราะฉะนั้น ในเมื่อเรารับงานมาแล้ว เราก็ต้องรับผิดชอบงานของเราครับ”
อย่างซีนที่จะต้องเลิฟซีนกับพี่อั๋น-วิทยา เราเองได้มีการคุยกับพี่อั๋นก่อนไหม?
“ไม่ได้คุยกันก่อนครับ จะคุยก็แค่การซ้อมก่อนถ่ายทำจริง ผู้กำกับบอกอะไรก็คือตามนั้นเลย ไม่ได้คุยอะไรกับพี่อั๋นก่อน แล้วเวลาเราเล่น เราก็เล่นตามอารมณ์ความรู้สึก หนึ่งก็คือจำให้ได้ สองก็คือทำการบ้านอย่างที่บอก เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าตัวละครของเดชกับคุณหลวงต้องการอะไร เราต้องมีสมาธิแล้วเราก็ใส่ความเป็นเดช ใส่ความเป็นตัวละครเข้าไป แล้วมันก็จะไปเอง ส่วนหลังจากเล่นแล้วผู้กำกับสั่งคัตนี่บอกเลยว่า ขำมาก แล้วเจ็บครับ หมายถึงเจ็บหน้ามาก เพราะหนวดพี่อั๋นเยอะมาก เข้าใจแล้วว่าผู้หญิงรู้สึกยังไง”
เพราะบทชายรักชายด้วยหรือเปล่า ที่ทำให้เรามีปัญหากับแฟนตามข่าวลือ?
“จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ ทะเลาะส่วนทะเลาะครับ ข่าวชายรักชายนี่ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมกับแฟนไม่ได้ทะเลาะกันเพราะบทชายรักชาย แต่เป็นเพราะเรื่องส่วนตัวครับ”
ล่าสุดมีการง้อแฟนกลางไอจี เป็นยังไงบ้าง เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?
“คือส่วนตัวผมที่ผ่านมาไม่เคยโพสต์อะไรเกี่ยวกับแฟนเลย ทั้งในไอจี ในสตอรี กลายเป็นผมที่บอกเลิกเขาเอง โดยที่ไม่ได้คิด โดยที่ไม่มีการคุยกันก่อน แต่จริงๆมันมีดีเทลอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งผมเป็นคนตัดสินใจเอง มันก็อาจจะทำให้เขาโกรธมาก เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าเลิกทำไม ผมไม่ได้อธิบายเขาเลย แค่รู้สึกคนเดียว มันอาจมีส่วนจากการที่เราทำงานหนักด้วย แต่ขอบอกว่าจะหนักจะเบายังไง การมีชีวิตคู่หรือการที่เราเป็นแฟนกัน มันควรจะคุยกันแหละ ผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรเหมือนกัน จนเมื่อประมาณ 2 เดือนหลังจากที่บอกเลิก แล้วเราคิดได้ว่าชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง จริงๆเราก็ยังรู้สึกรักเขาอยู่นะ แต่ในการตัดสินใจตอนนั้น มันคิดไม่ได้ มันแค่รู้สึกว่าอยากให้เขาไปเจอคนที่ดี เราอาจจะไม่ใช่พระเอกในชีวิตจริง แต่พอเราคิดได้ แล้วเรายังรู้สึกว่าเรายังรักเขา เราก็เลยง้อ”
เราง้อเค้ายังไงบ้าง?
“แรกๆเลยก็คือส่งไลน์ไป แต่บางทีเขาอ่านแล้วไม่ตอบ หรือไม่อ่านเลย บางทีส่งเช้าอ่านเย็น ส่งเย็นอ่านเช้า ตอนแรกก็ไม่ตอบ เราก็เลยลงไอจี เพราะว่าในการเลิกกัน เขาก็ต้องเสียใจมากอยู่แล้ว เขาก็ต้องมีการไปคุยกับเพื่อน หรือกับใครก็ตาม นอกจากเขาแล้วมันยังมีพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆเขาที่พวกเขารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการที่เราไม่โพสต์เกี่ยวกับเขาใน
ไอจี ก็มีส่วนด้วยนะ เขาก็อาจจะน้อยใจเราด้วย แต่ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะว่าเราคบกันมา 4 ปีกว่า จริงๆเขาพร้อมที่จะจับมือเราอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วเขาก็ยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ที่เขาโกรธเราเนี่ย เพราะว่าเราไม่ได้บอกสาเหตุกับเขาเลยในตอนที่เราไป”
ตอนนั้นที่ง้อเราคิดถึงขั้นจะแต่งงานกับเขาเลยมั้ย?
“ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะง้อสำเร็จมั้ย แล้วจะแต่งเลยมั้ย แค่คิดว่าเอาให้สำเร็จก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน”
เราเคยพูดเรื่องการแต่งงานกับเค้ามั้ย?
“นี่ก็คืออีกหนึ่งคำตอบที่ผมไปค้นหาคำตอบมาก็ได้ เพราะตอนนั้นเราอาจจะยังไม่รู้คำตอบ เราไม่รู้ว่าเรารักเขาไหม แต่นี่มันคือคำตอบที่ผมได้รับแล้ว ผมอยากจะมีชีวิตกับเขา อยากอยู่กับเขา และผมต้องการเขา ณ ตอนนี้ นี่ก็คือคำตอบของผม”
พอง้อสำเร็จโพสต์บอกทางไอจีเลย?
“ใช่ครับ ลงรูปไปง้อสำเร็จแล้ว กลับมาคุยกัน เคลียร์ปัญหาทุกอย่างกันแล้วครับ อย่างที่รูปเห็นกันแหละครับอันนั้นเป็นรูปที่เราถ่ายอัปเดตล่าสุด”
ใช้วิธีอะไรถึงง้อเค้าได้?
“ไม่มีวิธีอะไรเลยครับ จริงๆเราไม่ได้คิดแผนไว้ล่วงหน้า ไม่มีกลยุทธ์อะไรในการทำให้เค้ากลับมาเลย แค่ทำในสิ่งที่ควรจะทำตอนนั้น เพราะมันไม่มีวิธีการไหนแล้ว อย่างเช่นการลงรูปคู่เค้าครั้งแรกในไอจีมันคือเรื่องบังเอิญ เราเองไม่ได้อยากสร้างกระแสอะไร มันคือการง้อแฟน เค้าไม่ยอมคุยกับเรา เราเลยต้องลงรูปให้เห็นใช้ความจริงใจ เค้าก็จะเห็นความพยายามของเรา เพราะเราไม่เคยลงรูป มันเลยทำให้คนอื่นเห็นด้วย แล้วเวลาคนอื่นเห็นอย่างเพื่อนเค้าเห็นเค้าจะไปบอกต่อกัน มันเป็นความบังเอิญ เราไม่ได้คิดให้เพื่อนเค้าเห็นหรอกแต่อยากให้เค้าเห็นมากกว่า”
คำคมง้อแฟนคิดเองเลยมั้ย?
“ก็ไปหาเองด้วยตามอินเตอร์เน็ตแล้วมาปรับใช้ให้เข้ากับเราอย่างรูปล่าสุดแคปชันที่ลงไปก็เป็นสิ่งที่เรารู้สึกอยู่ตอนนั้น”
ทริปล่าสุดที่ลงนั่นคือเป็นการเติมเต็มของเราด้วยหรือเปล่า?
“ใช่ครับแฟนไปด้วย แต่เราก็ไม่ไปอะไรหลายวัน เราแค่ไปวิ่งออกกำลังกายเฉยๆ ก็ไปด้วยกันมีหลายคน ตอนนี้ก็กลับมายิ้มได้แบบเต็มที่จริงๆ เพราะที่ผ่านมาคนอื่นก็น่าจะเห็นว่าเราก็ยิ้มแหละ แต่ยิ้มไม่สุด (หัวเราะ) เพราะตาเราจะออกเศร้ามาก ตอนนี้เราก็รู้สึกกับตัวเองว่า เหมือนไปเล่นอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว”.