ชาลิสา ลิมปิผลไพบูลย์ นักเขียนสุดเบียวกับจินตนาการแสนวุ่นวายใน Webtoon เรื่องฮิต บุษบาเสี่ยงตรีน | นิตยสารคิด | LINE TODAY

webtoon-writer-cover

webtoon-writer-cover

เมื่อจินตนาการสุดพิสดารรวมเข้ากับวรรณคดีไทยระดับตำนาน เกิดเป็น… อย่าเพิ่งคิดว่าจะได้เห็นความวิจิตรของภาพวาดหรือเนื้อหาโรแมนซ์แฟนตาซีชวนฝัน เพราะ บุษบาเสี่ยงตรีน Webtoon เรื่องฮิตที่เพิ่งเดบิวต์ไปไม่นาน แต่มีคนติดตามหลักแสนและยอดเปิดอ่านหลักล้าน ห่างไกลจากภาพเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง ทั้งไม่ใช่เรื่องราวชวนฝัน และไม่ใช่ผลงานโชว์ลายเส้นอลังการ แต่เป็นโลกแห่งจิตนาการสุดวายป่วงที่มีตัวละครดังอย่าง บุษบา (ที่ไม่ใช่บุษบา) อิเหนา ขุนแผน และพระอภัยมณี เป็นตัวเอก สมทบด้วยแขกรับเชิญจากวรรณคดีไทยหลากหลายเรื่อง จนอีรุงตุงนังสารพันปนเปไปด้วยความวุ่นวาย ทว่ากลับกลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนสุดกาว ที่นักอ่านสายฮาผู้นิยมความแปลก ต่างมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย

10143.jpg

โบ – ชาลิสา ลิมปิผลไพบูลย์ คือเจ้าของนามปากกา Amulin นักเขียนผู้มีจินตนาการสุดลึกล้ำเหลือกำหนด จนสร้างสรรค์แต่ละฉากแต่ละตอนของ บุษบาเสี่ยงตรีน ให้ออกมาบันเทิงเกินคาดเดา เธอเล่าว่า นี่เป็นผลงานเรื่องแรกกับเว็บตูน ที่เริ่มต้นจากความอยากเขียนโดยไม่ได้คาดหวัง แต่เมื่อความปังบังเกิด ความหวังก็เริ่มมา จากที่เคยวาดการ์ตูนเพื่อเยียวยาตัวเอง วันนี้สามารถยึดเป็นอาชีพหลักได้ แถมยังเป็นช่องทางให้ขายความแปลก ฮา ขำขัน สัปดน ในสไตล์ของเธอแบบไม่ต้องตามใคร เรียกว่าเป็นการได้ทำในสิ่งที่รักอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานและการทำงานที่เปิดโลกเบื้องหลังเว็บตูนให้เราได้รู้ จากการจับเข่าคุยกันในครั้งนี้ยังเผยถึงข้อสงสัยที่ว่า ความแปลกและเบียวของตัวละครใน บุษบาเสี่ยงตรีน ได้แต่ใดมา คำตอบก็คือ มาจากนักเขียนเจ้าของเรื่องอย่างโบนี่เอง

10127.jpg

จับพลัดจับผลูมาเป็น Creator Webtoon ได้อย่างไร

สารภาพตามตรงว่า สิ่งที่ทำให้โบมาเป็นนักเขียนเว็บตูน คือความคิดที่อยากจะเลิกแข่งกอล์ฟ เพราะก่อนหน้านี้โบเป็นโปรกอล์ฟ เล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 11 ตอนนี้ 27 นับรวมก็ 16 ปีแล้ว เคยไปแข่งในทัวร์นาเมนต์ที่ญี่ปุ่นอยู่ 2-3 ปี ตอนที่กลับมาแข่งที่ไทยก่อนที่ตัดสินใจจะเลิกก็อยู่อันดับ 9 ของประเทศตามการจัดอันดับปีนั้น แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลึก ๆ เราก็รู้ว่าจริง ๆ เราไม่ได้ชอบกอล์ฟ แต่เราไม่กล้าพูดคำนั้น เพราะที่บ้านอยากให้ทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ เราหลอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าฉันชอบกอล์ฟ พอใครถามว่าทำไมถึงชอบ ก็จะหาเหตุผลมาตอบได้คล่อง ทั้งที่ความรู้สึกจริง ๆ ไม่ได้อินขนาดนั้น ไม่รู้ว่าคนอื่นมองออกไหม แต่เราย้ำกับตัวเองซ้ำ ๆ จนตัวเราตอนนั้นแทบไม่รู้ว่านั่นคือความจริงหรือสิ่งที่ถูกใส่ลงไป ในขณะเดียวกันเรากลับชอบวาดการ์ตูนมาก ว่างจากการซ้อมหรือแข่งก็จะวาดตลอด พอได้วาดจะรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ระบายความเครียด ความกดดัน ความอัดอั้นทั้งหมดลงไปกับการ์ตูน

เมื่อก่อนโบวาดลงเพจของตัวเอง ซึ่งแรก ๆ ทำไว้สำหรับโชว์ผลงานวาดเกี่ยวกับกอล์ฟ แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาวาดอะไรที่อยากวาดแทน ก่อนจะเริ่มเขียนมังงะลงในแพลตฟอร์มอื่น และมีรับคอมมิชชั่นบ้างเรื่อย ๆ ทำให้ที่บ้านเห็นว่างานนี้สร้างรายได้ได้นะ แต่เขาก็ยังอยากให้แข่งกอล์ฟอยู่ คือให้วาดการ์ตูนไปด้วยและแข่งกอล์ฟไปด้วย ซึ่งเราคิดว่ามันหนักมาก เพราะการแข่งกอล์ฟแต่ละครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน แข่ง 3 วัน ซ้อม 2 วัน แล้วการแข่งแต่ละวันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงในสนาม ไหนจะต้องวอร์มอัพก่อนแข่งและหลังแข่งอีก เสร็จแล้วต้องซ้อมแก้จุดที่ผิดพลาด คือหมดวันก็หมดแรง ไม่สามารถจัดสรรเวลาไปวาดรูปได้แล้ว เลยหาเรื่องที่จะเลิกแข่งกอล์ฟ ด้วยการทำให้ตัวเองดูยุ่งจนไม่มีเวลาไปแข่ง หลังจากนั้นจะเอายังไงค่อยว่ากัน สุดท้ายพอได้มาเป็นนักเขียนเว็บตูน ต้องบอกว่าได้ผลดีเกินคาด นอกจากไม่มีเวลาแข่งแล้ว ยังไม่มีเวลานอนด้วย (หัวเราะแบบขำขื่นให้กับตัวเอง)

10125.jpg

เดบิวต์ด้วย บุษบาเสี่ยงตรีน พูดได้ไหมว่านี่เป็นผลงานการ์ตูนยาวเรื่องแรก

ก่อนหน้านี้ที่เขียนในรูปแบบมังงะลงกับแพลตฟอร์มอื่นก็มีอยู่หลายเรื่อง แต่ว่าจบบ้าง ไม่จบบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่จบ (ยิ้ม) ที่รวมเล่มมีอยู่สองเรื่องคือ ผีในห้องผมสิงอยู่ในรูปปั้นเทพเจ้ากวนอู กับ วันอันแสนธรรมดาของผมและเธอ ส่วนที่เป็นเว็บตูน บุษบาเสี่ยงตรีน คือเรื่องแรกของโบกับแพลตฟอร์มนี้เลย ซึ่งเริ่มจากการเข้าร่วมประกวดโปรเจ็กต์ Producer’s Pick ในหัวข้ออิเซไก (Isekai : เว็บตูนแนวต่างโลก ที่ตัวเอกมักจะถูกย้ายไปยังโลกอื่น อาจจะเป็นมิติคู่ขนาน โลกจินตนาการ ฯลฯ) แล้วได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผ่านเข้ารอบมาเดบิวต์ เอาจริง ๆ ตอนแรกโบมีพลอตและไอเดียแค่ตอนเดียวด้วยซ้ำ และไม่แน่ใจว่าจะมีคนอ่านมากน้อยแค่ไหน คือเรารู้มาว่าสายหลักของเว็บตูนเป็นแนวโรแมนซ์ แฟนตาซี ไม่ใช่แนวตลก แล้วถ้าจะอ่านเรื่องนี้ให้สนุกก็ต้องมีพื้นฐานด้านวรรณคดีนิดหน่อย ต้องอ่านมังงะมาบ้างถึงจะเก็ตบางมุก ส่วนลายเส้นเราก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้าง แต่พอลงไปก็มีคนอ่าน แล้วก็ผ่านเข้ารอบมาได้ด้วย เลยได้ฤกษ์วางพล็อตทั้งหมดตอนนั้นเลย

เพิ่งเดบิวต์ไม่นานแต่ได้รับความนิยมไม่น้อย คิดว่าทำไมคนอ่านถึงชอบเรื่องนี้

จริง ๆ โบก็สงสัยเหมือนกัน (หัวเราะ) ไม่กล้าเคลมว่าแตกต่าง เพราะถ้าดูตามเนื้อเรื่อง บุษบาเสี่ยงตรีน แทบไม่ได้ใช้พล็อตแตกต่างจากเรื่องอื่นเลย เป็นพล็อตคริเช่ (Cliche) ไม่ว่าจะแนวอิเซไกต่างโลก ออกเดินทางตามหาคนรักที่หายไป ติดหนวดปลอมเป็นผู้ชาย คือโบว่าในโลกของนิยายหรือเว็บตูน มีพล็อตที่ใช้กันอยู่ไม่มากนักหรอก เราเหมือนคนเลือกไม่ถูกแล้วยัดทุกอย่างลงไปมากกว่า (หัวเราะ) แล้วเรื่องราวที่เรานำเสนออาจจะค่อนข้างประหลาดปนความวุ่นวาย อย่างตัวบุษบาคือเขาจะมีความเบียว (จูนิเบียว) แถมยังชอบเล่นมุกแป้ก ซึ่งก็เข้ากับเนื้อเรื่อง เพราะจะให้เอาคาแรกเตอร์คนปกติมาดำเนินเรื่องแบบนี้ก็ดูจะน่าสงสารไปหน่อย เราเคยเห็นคอมเมนต์ประมาณว่า อยากรู้ว่าจะไปสุดที่ไหน บางทีคนที่ชอบเรื่องนี้ก็น่าจะชอบความประหลาดของเนื้อเรื่อง อาจจะเป็นคนแปลก ๆ หน่อย คือคนแปลก ๆ ในโลกนี้ก็คงไม่ได้มีแค่โบหรอก ดังนั้นเว็บตูนเรื่องนี้น่าจะเป็นแหล่งรวมคนประเภทเดียวกัน ก็คือคนแปลกนั่นเอง (ยิ้มปนขำให้กับเหล่าคนแปลก ^^)

10130.jpg

ทำไมต้องบุษบา อิเหนา ขุนแผน และพระอภัยมณี

ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบซื้อการ์ตูนวรรณคดีไทยมาให้ แล้วก็อ่านให้ฟังก่อนนอน พอโตมาโบก็อ่านวรรณคดีเหมือนอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง พอเห็นหัวข้อโปรเจ็กต์เป็นอิเซไก ก็คิดว่าจะให้ตัวเอกเข้าไปอยู่ในโลกของวรรณคดี แต่เลือกไม่ถูกว่าจะเป็นเรื่องไหน งั้นก็จับมารวมกันซะเลย แล้วหยิบเอาตัวละครที่คนทั่วไปน่าจะรู้จักมาเป็นตัวเอก ตัวนางเอก (?) เราก็มาอยู่ในร่างของนางในวรรณคดีคนไหนก็ไม่รู้ที่มีชื่อของนางจากหลาย ๆ เรื่องรวมกัน ที่ให้เรียกสั้น ๆ ว่า บุษบา ก็ไม่ได้ตั้งใจจะชงให้อิเหนาเป็นพระเอกแต่อย่างใด แต่แค่คิดว่าตอนที่แนะนำตัว ในหัวจะต้องมีทำนองเพลงของนิโคล เทริโอ ต่อขึ้นมาเป็น “ฉันชื่อบุษบา~ หน่า นา หน่า น้า หน่า นา หน่า น้า” แบบนั้นแน่เลย (ยิ้มกว้างเผยความสุขของเด็กยุค 90) ส่วนเหล่าผู้ชายทั้ง 3 คนก็เป็นตัวละครที่ดูเป็นที่รู้จักและเป็นพระเอกประเภทที่ไม่ได้นิสัยดี เลยรู้สึกสะดวกใจที่จะเอามายำ คือจริง ๆ เราแค่หยิบคาแรกเตอร์บางจุดของตัวละครมาจากวรรณคดีต้นฉบับ แต่เติมให้มันล้นกว่าเดิม และใส่เพิ่มตามที่อยากเขียนเข้าไป…พูดถึงเรื่องตัวละครแล้วก็อยากฝากถึงคนอ่านด้วยว่า ที่ผ่านมายังไม่มีใครเดาถูกเลยว่าเรื่องราวจะไปทางไหน เพราะตัวคนเขียนเองก็ยังเดาไม่ถูก มาลุ้นไปพร้อมกับเรานะคะ

10122.jpg

คิดว่าคนอ่านจะได้อะไรจาก บุษบาเสี่ยงตรีน บ้าง

โบเคยเห็นคอมเมนต์ของผู้อ่านบางคนบอกว่า พออ่าน บุษบาเสี่ยงตรีน แล้วทำให้วันที่เครียด ๆ ของเขาหายไป หรือเครียดมาทั้งวัน พอเห็นเรื่องนี้แล้วหัวเราะได้เป็นครั้งแรก ซึ่งในฐานะคนเขียน พอได้รู้แบบนี้แล้วรู้สึกใจฟูมาก เพราะแรกเริ่มไม่นึกว่างานเราจะยิ่งใหญ่หรือมีคุณค่าทางใจกับใครได้ขนาดนั้น แค่เขียนเรื่องสัปดนออกไป แต่เขาดันชอบ เลยเป็นผลพลอยได้ที่เว็บตูนเรื่องนี้ช่วยสร้างวันดี ๆ ให้กับใครบางคน รู้สึกขอบคุณคนอ่านที่ชอบและคอมเมนต์บอกให้เรารู้ว่าชอบมาตลอด ในอีกมุมหนึ่งนอกจากความขำขัน ก็แทรกประเด็นสังคมบางอย่าง เช่น เรื่องอำนาจนิยมในสังคม เพราะวรรณคดีสมัยก่อนแต่งโดยผู้ชาย แล้วด้วยสภาพสังคมที่ชายเป็นใหญ่ เนื้อหาจึงยังมีความกดทับผู้หญิงอยู่ ประเด็นเหล่านี้บางทีเราก็แทรกเข้าไปบ้าง แต่ไม่ได้เยอะ เพราะใจจริงอยากจะเขียนตลกไร้สาระมีแต่ความบันเทิงไปเลยมากกว่า ดังนั้นบอกตามตรงว่า ไม่อยากให้คาดหวังสาระอะไรจากเรื่องนี้มาก ที่สำคัญตัวละครในเรื่องแต่ละคนก็ไม่ได้เป็นคนดี แม้แต่ตัวบุษบาเองก็ไม่ได้ขาวสะอาดหรือตระหนักรู้ทุกเรื่อง บางพฤติกรรมก็ไม่ควรเอาอย่าง เลยอยากให้ใช้วิจารณญาณเยอะ ๆ ในการอ่านค่ะ

10137.jpg

แล้วในฐานะ Creator คาดหวังความสำเร็จจากเรื่องนี้แค่ไหน

คาดหวังไว้ทั้งน้อยและมาก อย่างน้อยคืออยากให้เนื้อเรื่องไปอยู่ในความทรงจำของคนอ่านบ้าง และสามารถหารายได้จากการเป็นนักเขียนการ์ตูน เพราะโบยึดอาชีพนักเขียนการ์ตูนเป็นหลัก ซึ่ง ณ ตอนนี้ถ้ารวมค่าตอนกับส่วนที่คนช่วยเปย์มาให้ (Pay : ยอมจ่ายเงินซื้อตอนอ่านล่วงหน้า) ส่วนแบ่งรายได้จากเว็บตูนก็ทำให้เราอยู่ได้ ไม่ถึงขนาดที่ต้องกินมาม่าทุกวัน หรือเป็นนักเขียนไส้แห้ง จากที่ตอนแรกคิดว่าถ้ามีรายได้เฉพาะค่าตอนน่าจะไม่ไหว พอมีคนที่ยอมเปย์เข้ามาก็เพิ่มรายได้ให้กับนักเขียน ซึ่งต้องขอบคุณผู้อ่านทุกคน จริง ๆ แค่เข้ามาอ่าน มาคอมเมนต์ ก็เป็นกำลังใจให้เราแล้ว ยิ่งช่วยเปย์ก็เหมือนเขาคอยสนับสนุนให้เราอยู่ได้ สามารถแบ่งรายได้ไปจ้างผู้ช่วย เพื่อให้ทำงานทันและไม่ตายในหนึ่งอาทิตย์ที่ต้องปั่นต้นฉบับสุดโหด ส่วนที่หวังไว้เว่อร์ ๆ หน่อยก็อยากเห็นงานนี้ต่อยอดเป็นอย่างอื่นได้ จะเป็นอะไรก็ได้ เป็นอนิเมะหรือมีเสียงพากย์ก็อยากเห็น ตามประสานักเขียนตัวเล็ก ๆ ที่ยังมีแรงฝันอยู่

ทำงานกับ Webtoon เป็นอย่างไร เหนื่อย หนัก หรือสนุกแค่ไหน

การทำงานกับเว็บตูน แตกต่างจากการเขียนมังงะที่โบเคยทำมาค่อนข้างมากทีเดียว เพราะเมื่อก่อนโบเป็นสายด้นสดมาตลอด คิดสดเขียนตอนต่อตอน พอทำเว็บตูนต้องเขียนพล็อตส่งทั้งเรื่อง พล็อตผ่านก็เขียนทรีทเมนต์เป็นตอน ๆ ให้ทีม บก.ไทยพิจารณาต่อ จากนั้นก็ต้องเขียนสามตอนแรก ลงสีให้เรียบร้อย แล้วส่งให้ทางเกาหลีดูอีกทีว่าผ่านไหม ดังนั้นการทำงานกับเว็บตูนจึงทำให้เราทำงานเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น ไม่ออกทะเลมาก เพราะก่อนหน้านี้เวลาทำงานไม่รู้เลยว่าฝั่งอยู่ไหน (หัวเราะ) คืองานเก่า ๆ โบจะเขียนไปเรื่อย นึกอะไรได้ก็เขียน พอมาทำทรีทเมนต์แบบนี้แล้วรู้สึกว่าเป็นการทำงานที่อยู่ในลู่ในทางดี ถ้าจะออกทะเลก็ออกไปจากฝั่งไม่เยอะเท่าไร

ส่วนเรื่องงานหนัก การต้องส่งงานทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละตอน ก็ถือว่าหนัก เพราะเว็บตูนกำหนดว่าในหนึ่งตอนจำเป็นต้องวาดไม่ต่ำกว่า 50 รูป ตอนแรกโบก็งงว่านักเขียนแต่ละคนเขามีชีวิตอยู่กันได้ยังไง เพราะสำหรับโบมันเป็นงานที่หนักมากเลยนะ เหมือนขายวิญญาณให้กับสิ่งนี้เลย บางทีต้องอดหลับอดนอนเพื่อทำให้เสร็จ อารมณ์เหมือนคนที่กำลังจะตาย ใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายกดส่งงานไปแทบไม่ทันเดดไลน์ สุดท้ายไปเจอคอมเมนต์ว่า ‘ทำไมตอนสั้นจังคะ’ คือเข้าใจว่าเป็นคอมเมนต์ที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่มันค่อนข้างบั่นทอนกำลังใจ เพราะเราพยายามสุดความสามารถ กดส่งในวันสุดท้ายด้วยร่างที่ไร้วิญญาณแล้ว ถ้าทำมากกว่านี้เราก็จะตาย และถ้าเราตายก็จะไม่มีอะไรให้อ่าน คือมีนักเขียนตายเพราะทำงานหนักจริง ๆ นะ อยากบอกว่า แต่ละตอนไม่ได้สั้นหรอก เพราะเว็บตูนกำหนดให้อยู่แล้วว่าจะต้องวาดเท่าไร ที่บางตอนอ่านแล้วรู้สึกยาวกว่าเพราะนักเขียนวาดแถมให้ แล้วแถมมาตลอด พอตอนไหนไม่แถมเลยรู้สึกว่าสั้น ตอนแรกโบทำคนเดียวด้วยซ้ำ ก็ต้องขอบคุณการสนับสนุนจากคนอ่าน ที่ทำให้มีรายได้มากพอจะจ้างผู้ช่วยได้ เลยแบ่งเบางานไปเยอะ

10131.jpg

การจะก้าวมาเป็นนักเขียนเว็บตูน ยากหรือง่ายแค่ไหน

โบมองว่ายากนะ คือที่เห็นว่าโบประกวดครั้งแรกแล้วสามารถเข้าไปได้เลย จริง ๆ โบเขียนมาหลายเรื่องแล้ว ไม่ใช่ปุบปับได้เลย แต่ที่โบไม่ได้รู้สึกกดดันกับกระบวนการการสร้างตัวตนในฐานะนักเขียนขนาดนั้น เพราะไม่ได้มุ่งเป้ามาทางนี้แต่แรก ตอนนั้นเรากดดันและใช้ความเครียดทุกอย่างไปกับการเป็นโปรกอล์ฟมากกว่า มันเหนื่อย เศร้า และเป็นบ้าได้ง่ายมาก ๆ เพราะอย่างนั้นสิ่งที่ต้องเจอระหว่างทางที่จะก้าวมาเป็นนักเขียนของโบจึงไม่ได้รู้สึกหนักขนาดนั้น แต่สำหรับคนที่มุ่งมาทางนี้ทางเดียวจริง ๆ ต้องยากแน่นอน กว่าจะมีไอเดีย กว่าจะมีคนเห็นผลงานและเป็นที่รู้จัก น่าจะมีความกดดันในระดับหนึ่ง ส่วนถ้าพูดถึงคุณสมบัติในการเป็นนักเขียน ในมุมของโบมองว่า เราไม่จำเป็นต้องมีสังกัดหรือมีรายได้ก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เรียกตัวเองว่านักเขียน เพียงแค่รู้สึกอยากเขียนแล้วได้เขียนออกมา ก็สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนได้แล้ว ฉะนั้นถ้าอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ก็เริ่มเลย เริ่มเขียนอะไรสักอย่างออกมาก่อน

มาถึงวันนี้เคยคิดอยากจะกลับไปจับไม้กอล์ฟอีกครั้งไหม

คนที่เคยสนับสนุนตอนเล่นกอล์ฟก็ยังถามอยู่ว่าจะกลับไปตีกอล์ฟอีกไหม ตอนนี้บอกได้แค่ว่า ยังไม่มีแผนที่จะกลับไปแข่งเลย จริง ๆ เราไม่เคยเสียใจที่เดินสายกอล์ฟนะ เพราะให้อะไรกับเราเยอะมาก แต่แค่รู้ตัวว่าหลอกตัวเองมานานเกินไปแล้ว เมื่อก่อนโบไม่กล้าพูดคำว่าไม่ชอบกอล์ฟเลย ไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เพราะมักจะถูกพร่ำบอกว่า คนเราต้องทำในสิ่งที่รักหรือรักในสิ่งที่ทำ ไม่งั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ เลยย้ำกับตัวเองตลอดว่า เราชอบกอล์ฟ เป็นอะไรที่เหนื่อยและฝืนมากเลยนะ

สมัยก่อนเคยโดนบอกว่า ถ้าอยากเลิกต้องคว้าแชมป์มาให้ได้ก่อน เขาน่าจะคิดว่าถ้าเราเก่งขนาดได้แชมป์ก็คงไม่อยากเลิก จนมีแมตช์หนึ่งโบไปแข่งได้ที่สองมา ซึ่งถือว่าเข้าใกล้แชมป์แล้วนะ แต่เรารู้สึกว่าค่อนข้างว่างเปล่า ไม่ได้เจ็บใจที่พลาดแชมป์ ดีใจที่ได้เงิน แต่ไม่ได้ยินดีเท่าไรที่ได้ตั้งที่สอง ภาพตอนนั้นไม่เหมือนกับที่เคยคิดไว้เท่าไร เราไม่แน่ใจแล้วว่านั่นคือความฝันของเราหรือความฝันของใคร ถ้าทุ่มเททุกสิ่งละทิ้งทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการ สุดท้ายแล้วความหมายคืออะไร เลยคิดว่าควรตัดสินใจให้เด็ดขาดได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ตัดได้ทันทีนะ คาราคาซังอยู่สองปีเห็นจะได้ สุดท้ายก็เลือกหันมาทำอะไรที่ตัวเองอยากทำดีกว่า ก็อายุขนาดนี้แล้วเนอะ ไม่รู้จะตายวันไหน อยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ

10139.jpg

Creative Ingredients

การ์ตูนเรื่องโปรด

จริง ๆ อ่านหลายแนว ชอบหลายเรื่อง ถ้าเป็นโชเน็น (แนวการ์ตูนที่เจาะกลุ่มเด็กผู้ชาย) ที่คนน่าจะรู้จักก็พวก Hunter x Hunter , Gintama , Ranma , Haikyuu ฯลฯ การ์ตูนผู้หญิงก็อ่าน ซึ่งทุกเรื่องที่อ่านมีอิทธิพลต่อเราทั้งหมดเลย

บรรยากาศในการทำงาน

ถ้าห้องรกจะรู้สึกไม่มีแรงบันดาลใจในการวาด ชอบให้ห้องเป็นสถานที่ทำงานที่ดี สะอาด สบายตา มีต้นไม้ เวลาทำงานก็เปิดแผ่นเสียงเพลงคลาสสิกคลอไปด้วย เพราะถ้าเปิดเพลงที่มีเนื้อร้องจะร้องตาม ทำให้ไม่มีสมาธิ หรือบางทีก็จะออกไปวาดนอกบ้านบ้าง เพราะเราวาดในไอแพดอยู่แล้ว จึงนั่งทำงานได้ทุกที่

นามปากกา Amulin

ตอนไปแข่งกอล์ฟอยู่ที่ญี่ปุ่น โบใช้ชื่อ ชาลิสา ลิม เพราะนามสกุลคือลิมปิผลไพบูลย์ แต่ญี่ปุ่นออกเสียงยาวขนาดนั้นไม่ได้ เลยตัดเหลือแค่ ‘ลิม’ แล้วภาษาญี่ปุ่นไม่มีเสียงตัวสะกด ม.ม้า ก็เลยกลายเป็น ‘ลิน’ ทุกคนก็นึกว่าโบชื่อลินเลยเรียกว่าลินจังกันหมด แล้วช่วงนั้นโบอินกับนิกายเซ็น เลยเอาคำว่า ‘อะมู’ ในภาษาเกาหลีที่แปลว่า ‘ไม่มี’ มาวางข้างหน้าเป็น อะมูลิน (Amulin) แปลว่า ไม่มีลิน ซึ่งก็คือไม่มีฉัน

เรื่อง : สุรางค์รัตน์ แก่นบุบผา