นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยระหว่างมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบแพ็กเกจภาษีสรรพสามิตเพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจและประชาชน หลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยมติดังกล่าวยังเป็นความลับจนกว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ แพ็กเกจดังกล่าวจะช่วยเหลือกลุ่มบุหรี่ ยาเส้นรถยนต์ น้ำผลไม้ และสถานบริการ โดยในส่วนสถานบริการนั้นจะจัดเก็บภาษีในอัตรา 0% จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2563 แต่มีเงื่อนไขคือต้องจ้างแรงงานไว้เท่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการขยายเวลาเขตปลอดอากร เพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าให้มากขึ้น จากเดิมมีกรอบเวลาไว้ 15-20 วัน โดยขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาอยู่ว่า จะขยายระยะเวลาออกเป็นเท่าไร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ครม.ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต อาทิ ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น เริ่มตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปจนถึง 30 ก.ย.2563 นอกจากนี้ ยังเลื่อนเวลาการปรับภาษีบุหรี่และยาเส้นออกไปอีก 1 ปี จากเดิมมีแผนปรับภาษีบุหรี่ในมูลค่าอัตราเดียว 40% ของราคาขายปลีกแนะนำ ในช่วงเดือน ต.ค.2563 ให้เลื่อนไปเป็นต.ค.2564
อย่างไรก็ตาม ครม.ยังมีมติลดภาษีให้กับเครื่องดื่มนวัตกรรมที่มีสัดส่วนผสมน้ำผักและผลไม้ต่ำกว่า 10% ของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำถั่วแดง น้ำข้าวโพด น้ำมะเขือเทศ เป็นต้น ให้เสียภาษีแค่ 3%รวมถึงปรับลดภาษีรถสามล้อไฟฟ้าลงเหลือ 2% ส่วนสินค้านำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินทั่วโลก ครม.เห็นชอบขยายเวลาการชำระภาษีให้กับสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในพิกัดสรรพสามิต ที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าสนามบิน ให้สามารถยืดเวลาการชำระภาษีออกไปได้จากเดิมที่กำหนดไว้ 7-15 วัน.