พิพัฒน์ ตรวจเยี่ยมสนามกอล์ฟอาทิตยา จ.นครนายก หลังใช้กักตัวโควิด-19
วันที่ 2 มีนาคม 2564 เวลา 14.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร ลงพื้นที่สนามกอล์ฟอาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานกักกันโรคในกิจการกอล์ฟ (Golf Quarantine)
โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ให้การต้อนรับ และผู้แทนสนามกอล์ฟอาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท นำเสนอข้อมูลการดำเนินงานสถานกักกันโรคในกิจการกอล์ฟ (Golf Quarantine) ของนักกอล์ฟที่เดินทางเข้ามา โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาอยู่ในกอล์ฟ ควอรันทีน (Golf Quarantine) สนามกอล์ฟอาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท เป็นนักท่องเที่ยวเกาหลี จำนวน 41 คน นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวน 1 คน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานกักกันในกิจการกอล์ฟ (Golf Quarantine) ณ สนามอาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก ในวันนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกที่ผ่านมา ก่อให้เกิดผลกระทบภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การค้าและการลงทุนทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศชะลอตัว ทำให้อีกหลายประเทศเลือกที่จะทำการ “ปิดประเทศ” ทำให้เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก
ซึ่งสนามกอล์ฟก็เป็นหนึ่งในกิจการที่ได้รับผลกระทบ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงทำงานบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการเปิดระบบสถานกักกันในกิจการหลายประเภท อาทิเช่น Alternative State Quarantine, Alternative Hospital Quarantine, Yacht Quarantine, Wellness Quarantine และ Golf Quarantine เพื่อเปิดรับชาวไทยและชาวต่างชาติให้สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้
ขณะนี้ในกลุ่มของ Golf Quarantine มีชาวต่างชาติและผู้ติดตามทยอยเดินทางเข้ามาในระบบแล้ว จำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงเกิดการจ้างงาน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
จึงเป็นโอกาสอันดีที่วันนี้คณะได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสถานกักกันในกิจการกอล์ฟ (Golf Quarantine) แห่งนี้เพื่อจะได้มีแนวทางการดำเนินงานและบูรณาการร่วมกันในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ไปต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ