โหด! ‘โปรเหมียว’ ตีไดรเวอร์แตกคนแรกในแอลพีจีเอ – เดลีนีวส์

หลังจากในการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีทัวร์ รายการ “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ” เมเจอร์ที่ 3 ของปี ปิดฉากลงไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า “โปรเหมียว” ปภังกร (แพตตี้) ธวัชธนกิจ จบอันดับ 5 ร่วม สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 ขณะที่แชมป์เป็นของ เนลลี คอร์ด้า โปรสาวจากสหรัฐอเมริกา สกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 269 พร้อมกับขยับขึ้นไปรั้งมือ 1 ของโลก

จุดเปลี่ยนสำคัญของ ปภังกร รายการนี้อยู่ที่รอบแรก หลังไดร์ฟในหลุม 9 ปภังกร เริ่มรู้สึกว่าไดรเวอร์ Ping G410 LST ออกอาการเสียงแปลกๆ กระทั่งหลังไดร์ฟเสร็จในหลุม 10 จึงมาสังเกตเห็นว่า ด้านบนของไดรเวอร์มีรอยแตก ทำให้หลุมที่เหลือต้องปรับแผนมาใช้หัวไม้สามในการเล่นทีชอตแทน แต่ด้วยระยะที่ตีได้คือ 260 หลา จึงระบุว่าไม่ได้รู้สึกเสียเปรียบมากนัก แม้จะรู้สึกว่าเสียโอกาสไปอยู่บ้างก็ตาม

จากนั้น รอบสอง ปภังกร ต้องใช้ไดรเวอร์ตัวเดิมที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ หลังเพื่อนขับรถจากออร์แลนโด้มาส่งให้ตอน 6 โมงเช้าก่อนที่จะทีออฟในตอน 8 โมงกว่า แต่เจ้าตัวพบว่าไดรเวอร์ตัวเก่านี้น้ำหนักต่างจากตัวที่แตกเล็กน้อย ต่อมาลองไดรเวอร์อีก 4 อัน ก่อนกลับมาใช้ตัวเดิมในรอบสองอีกครั้ง

ขณะที่ Ping ออกมาระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกของการแข่งขันกอล์ฟสตรีแอลพีจีเอทัวร์ที่พบปัญหาไดรเวอร์แตกระหว่างแข่งขัน ปัจจัยที่ทำให้ไดรเวอร์แตกได้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากคุณภาพของผู้ใช้งานเอง หากสามารถตีลูกได้ในตำแหน่งเดิมบนหน้าไม้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยคลับเฮดสปีดที่สูงอยู่บ่อยๆ ก็จะเกิดการชำรุดในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้ในกลุ่มนักกอล์ฟพีจีเอทัวร์

สำหรับรายการนี้ ปภังกร มีความเร็วสวิงสปีดอยู่ที่ 107 mph ที่ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับนักกอล์ฟผู้หญิงทั่วไปในแอลพีจีเอทัวร์ ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 95 mph ส่วนอัตราบอลสปีดอยู่ที่ 160 mph ที่ถือว่าสูงมากอีกเช่นกัน และห่างจากนักกอล์ฟผู้ชายในพีจีเอทัวร์ที่มีค่าเฉลี่ย 170 mph อยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น