แฉแหลก!รีเซ่เผยเหตุฉาวเบลลามี่เกือบทำลายอาชีพ

ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ อดีตฟูลแบ็กเท้าหนักของลิเวอร์พูล เปิดเผยเหตุฉาวที่มีเรื่องกับ เคร็ก เบลลามี่ เพื่อนร่วมสังกัดแบบละเอียดยิบ ระบุตอนนั้นคู่กรณีเกือบใช้ไม้กอล์ฟทำลายอาชีพของตนอยู่แล้ว พร้อมชี้ท่าดีใจสวิงไม้กอล์ฟในเกมชนะ บาร์เซโลน่า เป็นอะไรที่ขาดความเคารพสิ้นดี

    ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตำนานฟูลแบ็กทีมชาตินอร์เวย์ และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดเผยรายละเอียดสุดช็อกเกี่ยวกับเหตุการณ์สุดระบือที่มีเรื่องกับ เคร็ก เบลลามี่ อดีตหัวหอกเพื่อนร่วมสังกัด จนถึงขนาดที่แข้งเลือดเวลส์ ใช้ไม้กอล์ฟตีเขาอย่างหนักเมื่อปี 2007

    รีเซ่ กับ เบลลามี่ สร้างเรื่องสุดฉาวตอนที่เดินทางไปเมืองอัลการ์ฟ ซึ่งเป็นสถานที่ให้บรรดานักเตะ “เดอะ เร้ดส์” ได้พักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการดวลเกมสำคัญกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า โดย อดีตแบ็กซ้ายเท้าหนัก ย้อนวันวานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเกิดจากการที่พวกเขาดื่มเมรัยกันก่อนที่คู่กรณีจะบ้าไมค์ร้องคาราโอเกะ และพยายามบังคับตนให้ร้องเพลงด้วย

    ในเวลานั้นเจ้าตัวยอมรับว่าโกรธมากๆ ที่ เบลลามี่ พยายามจะให้ตนขึ้นไปบนเวทีเพื่อโชว์ลูกคอ ทำให้ตะโกนด้วยความไม่พอใจว่า “ข้าไม่ร้องโว๊ย หุบปากของแกเองหรือจะให้ข้าตะบันหน้าแก” หลังจากนั้น เบลลามี่ ก็สวนกลับมาว่า “ข้าจะฆ่าแก แกมันไอ้งี่เง่า !”

    รีเซ่ เปิดใจต่อไปว่าพอเขากลับไปที่ห้องพักในโรงแรมเพื่อจะนอนหลับพักผ่อน แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อเห็น เบลลามี่ อยู่ในห้องพร้อมกับไม้กอล์ฟ “เบลลามี่ ยกไม้กอล์ฟขึ้นเหนือศีรษะของเขา และหวดเต็มแรงเกิด เขาพยายามจะตีเข้าที่หน้าแข้งของผม ซึ่งอาจทำให้อาชีพของผมจบสิ้นเลยก็ได้ แต่ผมชักขาหลบได้ทัน”

    นอกจากนี้ อดีตดาวเตะชาวนอร์เวย์ ยังอ้างว่า เบลลามี่ หวดไม้กอล์ฟใส่เขาถึง 2 ครัง โดนฟาดไปโดนสะโพกกับต้นขา สุดท้ายเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงเมื่อ รีเซ่ ท้า เบลลามี่ ให้ไปฟาดปากกันตอน 09.00 น.ของอีกวัน แต่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันจนกระทั่งช่วงอาหารเช้า จากนั้น รีเซ่ ได้กล่าวขอโทษ และโดนปรับเงิน 80,000 ปอนด์ (ราว 3.44 ล้านบาท)  และสถานการณ์ทุกอย่างค่อยๆ เย็นลงเมื่อนักเตะต้องลงซ้อมเพื่อเตรียมดวล บาร์ซ่า

    สำหรับในแมตช์ดังกล่าว เบลลามี่ ยิงประตูแรกให้ทีมในเกมชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 และเจ้าตัวได้แสดงท่าดีใจด้วยการทำท่าสวิงไม้กอล์ฟ ที่กลายเป็นท่าดีใจระดับตำนานไปแล้ว โดย รีเซ่ ให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่โคตรไร้ความเคารพเลยจริงๆ แต่การฉลองแบบนี้ก็เผยให้เห็นถึงความจริงใจที่เขาขอโทษด้วย”