หมอชนบทจวก “ตู่” ไม่แข็งจริง ปล่อยสเปก ATK “เดลตา” อาละวาด 4 สายพันธุ์ย่อย – ไทยรัฐ

เป็นไปตามที่ชมรมแพทย์ชนบทดักคอ เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติปรับคุณสมบัติชุดตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) ในขณะที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 รายวัน ยังอยู่เลข 5 หลัก ตายเพิ่มกว่า 200 ศพต่อเนื่องอีกวัน

ATK ไม่ต้องผ่าน WHO

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.รับทราบการขอปรับปรุงข้อสั่งการนายกฯในการประชุม ศบค.ครั้งที่ 12/2564 และการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 17 ส.ค. โดยแก้ไขข้อความจากเดิมที่ระบุในข้อสรุปผลการประชุม ศบค. หน้าที่ 17 ข้อ 6 ว่า “การเร่งดำเนินการจัดหาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบแอนติเจน (Antigen Test Kit : ATK) ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมทั้งต้องมีความแม่นยำในการตรวจ เพื่อนำไปสู่การรักษาที่ทันท่วงที และพร้อมจัดส่งให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด” นายกฯเห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ ศบค.ปรับปรุงแก้ไขข้อสั่งการนายกฯ มีข้อความดังนี้คือ “ในเรื่องการจัดหาซื้อชุดตรวจ ATK นี้ ขอให้ สธ.เร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว หากมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด”

แพทย์ชนบทจวก “ตู่ไม่แข็งจริง”

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ในนามชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 5 ระบุว่า การประชุม ครม.วันที่ 24 ส.ค.2564 มีการเสนอในที่ประชุมให้แก้ไขมติ ครม.และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี อันสืบเนื่องจากมติ ครม.วันที่ 17 ส.ค.2564 ในเรื่องการจัดซื้อ ATK ในหน้า 53 วงเล็บ 6 ระบุว่า “การเร่งดำเนินการจัดหาชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)” โดยให้ปรับปรุงเป็นข้อความว่า “ในเรื่องการจัดหาซื้อชุดตรวจ ATK นี้ ขอให้ สธ.เร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว หากมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด” ทางชมรมแพทย์ชนบทเห็นแนวโน้มของความพยายามแก้ไขข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรีมาตลอดสัปดาห์ และวันนี้มีความชัดเจนว่า “รัฐบาลของนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่แข็งจริง การไม่มีหลักยึดที่มั่นชัด ไม่แข็งที่จะยืนบนหลักที่ถูกต้อง ทำให้การนำรัฐนาวาประเทศไทยสู่การฝ่าฟันวิกฤติโควิดไปได้นั้นสาหัสและเจ็บหนักมาก ทั้งชีวิตผู้คนและระบบเศรษฐกิจไทย”

ลั่นลุยตรวจสอบคุณภาพทันที

ชมรมแพทย์ชนบทยังคงยืนบนหลักการของแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ที่เคยเสนอไปแล้วว่า อำนาจการจัดซื้ออยู่ที่องค์กรรัฐ แต่อำนาจการตรวจสอบอยู่ที่ภาคประชาชน ชมรมแพทย์ชนบทร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนยังยืนยันที่จะระดมทีมปฏิบัติการจากทุกภาค ทำการตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่ได้รับการประมูลว่ามีคุณภาพทั้ง sensitivity และ specificity ดังที่กล่าวอ้างหรือไม่ มีผลบวกปลอมและผลลบปลอมในสัดส่วนที่เกินกว่าจะรับได้หรือไม่ ทั้งนี้ เราจะเริ่มปฏิบัติการทันทีที่ชุดตรวจได้กระจายลงสู่พื้นที่ และหากผลการตรวจสอบพบว่าชุดตรวจมีคุณภาพต่ำเกินกว่าที่จะรับได้ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ

กมธ.จี้นายกฯระงับซื้อ ATK Lepu

ขณะเดียวกัน นายมานะ โลหะวณิชย์ ประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.เรียกตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ Lepu 8.5 ล้านชุด มาชี้แจง พบว่าการจัดซื้อมีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การจัดหาจากครั้งแรก 29 ก.ค. ระบุว่าชุดตรวจต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่ต่อมา 1 ส.ค. อภ.ปรับหลักเกณฑ์ลงเหลือเพียงผ่านมาตรฐาน อย. ในข้อเท็จจริงนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ต้องดำเนินการทุกอย่างโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ควรตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องคือ ระงับการจัดซื้อ ATK ยี่ห้อนี้ออกไปก่อน

อภ.ลงนามจัดซื้อ ATK แล้ว

ต่อมาช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ว่าตอนนี้ได้แจ้ง รพ.ราชวิถี และ สปสช.แล้ว เพื่อดำเนินการเดินหน้าในการจัดซื้อ ATK คู่ขนานไปกับการแจ้งบริษัทที่ชนะการประมูล เพื่อให้มาดำเนินการตามสัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อเป็นไปตามข้อสั่งการที่นายกรัฐมนตรี ระบุให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อให้ ATK ถึงมือประชาชนโดยเร็ว โดยได้มีการลงนามในหนังสือแล้ว ลงวันที่ 24 ส.ค.

ติดเชื้อ 1.7 หมื่น ดับ 226 ศพ

ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17,165 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,970 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15,226 คน มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,744 คน และมาจากเรือนจำ 192 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 คน หายป่วยเพิ่มเติม 20,056 คน อยู่ระหว่างรักษา 192,334 คน อาการหนัก 5,229 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,095 คน และมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 226 คน เป็นชาย 120 คน หญิง 106 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมนับตั้งแต่มีการระบาดในปี 63 จำนวน 9,788 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,038,951 คน หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 881,829 คน

กทม.แชมป์ตายส่วนใหญ่สูงวัย

สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ 226 คน อยู่ใน กทม.มากสุด 68 คน เป็นผู้มีอายุเกิน 60 ปีถึง 58 คน คิดเป็นร้อยละ 85 เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 คน นอกจากนี้ เป็นผู้เสียชีวิตที่บ้านและระหว่างการนำส่งโรงพยาบาล 2 คน อยู่ที่ จ.ปทุมธานี สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 23 ส.ค.ได้แก่ กทม. 4,025 คน สมุทรปราการ 1,731 คน สมุทรสาคร 1,288 คน ชลบุรี 816 คน ราชบุรี 558 คน นครราชสีมา 445 คน พระนครศรีอยุธยา 381 คน ฉะเชิงเทรา 376 คน นนทบุรี 365 คน บุรีรัมย์ 331 คน นอกจากนี้ ในวันที่ 23 ส.ค. มีการตรวจแบบ ATK พบผลเป็นบวก 314 คน สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนวันที่ 23 ส.ค.มีการฉีดเพิ่ม 573,446 โดส ทำให้มียอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 27,612,445 โดส โดยเป็นเข็มที่หนึ่งสะสม 20,830,673 โดส เข็มที่สองสะสม 6,230,511 ราย เข็มที่สามสะสม 511,261 คน

ให้ไฟเซอร์ยื่นขึ้นทะเบียนเพิ่ม

ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่ากรณีองค์การอาหารและยา หรือ FDA ในสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนไฟเซอร์เต็มรูปแบบในการฉีดให้กับประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปได้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เชิญชวนให้บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย นำข้อมูลที่มีการขึ้นทะเบียนโดยสมบูรณ์มายื่นเพิ่มกับอย.โดยเร็ว จากเดิมที่เป็นการขึ้นทะเบียนในภาวะ ฉุกเฉิน ซึ่ง อย.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 ขณะนั้น มีข้อมูลทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิผล โดยเฉพาะความปลอดภัย เป็นการอนุมัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อมูลจำกัดเป็นการวิจัยในเฟส 3 ขณะนี้มีข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งด้านคุณภาพ ดูจากการผลิตและผลิตภัณฑ์ตัวยาวัคซีนที่สำเร็จ ที่สำคัญความปลอดภัย ไฟเซอร์ฉีดไปหลายร้อยล้านโดสแล้ว เรื่องอาการไม่พึงประสงค์พบและมีข้อมูลอยู่ในเอกสารกำกับยา หากวิเคราะห์แล้วมีความปลอดภัย สามารถขึ้นทะเบียนในส่วนนี้ได้ เมื่อยื่นเอกสารมา คงมีไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นหน้าจะใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 30 วัน

รพ.เอกชนซื้อตรงตัวแทนได้

นพ.ไพศาลกล่าวด้วยว่า ถ้า อย.อนุมัติให้ขึ้นทะเบียนตามปกติได้แล้ว ก็เหมือนวัคซีนทั่วไป เช่น ไข้หวัดใหญ่ ที่สามารถจำหน่ายได้ โดยบริษัทไฟเซอร์ประเทศไทย สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ รพ.เอกชนหรือที่อื่นๆได้ ส่วนที่ FDA สหรัฐฯ รับรองไฟเซอร์ให้ฉีดในเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไปได้นั้น ถ้าการขึ้นทะเบียนเต็มรูปแบบมีการนำข้อมูลให้ใช้ในเด็ก 16 ปีขึ้นไปยื่นมาด้วย ถ้า อย.ไทยอนุมัติก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน ในทะเบียนปกติของสหรัฐฯ ในกลุ่ม 12-16 ปียังเป็นการใช้แบบฉุกเฉินอยู่ ในไทยสถานะตอนนี้อนุญาตฉีดได้ตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปแบบฉุกเฉินเช่นกัน ส่วนวัคซีนตัวอื่นๆจะมีการรับรองเต็มรูปแบบอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตว่ามีข้อมูลสมบูรณ์เพิ่มเติมจากที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ ถ้ามีคงยื่นเพื่อให้สามารถจำหน่ายได้อย่างมั่นใจ และเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทราบว่าผู้ผลิตอย่างโมเดอร์นาก็กำลังยื่นในสหรัฐฯ เพิ่มเติมเช่นกัน

ตจว.ป่วยเพิ่มแต่อาการไม่หนัก

ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยอาการหนักและใส่ท่อหายใจจะยังคงอยู่ในระดับสูงอีกระยะหนึ่ง ภาพรวมผู้ป่วยรายใหม่ในต่างจังหวัดพบว่าสูงกว่าในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ทิศทางของผู้ป่วยหนักของต่างจังหวัดไม่ได้สูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงระบบการดูแลที่มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันอาการป่วยหนักได้ดี และในส่วนของการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ในพื้นที่ กทม.มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน จากที่เคยพบผลบวกต้นเดือน ส.ค.สูงถึงร้อยละ 25.4 ล่าสุดวันที่ 23 ส.ค. พบร้อยละ 13.5 หากแนวโน้มการติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ มีโอกาสสูงที่เราจะได้ผ่อนคลายมาตรการในเร็ววันนี้

แยกตัวเลข ATK ป้องกันสับสน

นพ.เฉวตสรรกล่าวด้วยว่า ในการรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวัน จะแยกจำนวนผู้ตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK เนื่องจากเราถือว่าผู้ตรวจด้วยชุด ATK คือผู้เข้าข่ายสงสัยว่าติดเชื้อ จะต้องตรวจผลยืนยันอีกครั้งด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR ต้องใช้เวลา และพบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งตรวจ ATK ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด หากนำข้อมูลมารวมกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยันแล้วด้วยผล RT-PCR ด้วย จะทำให้เกิดความสับสนกับระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ เราจึงแยกตัวเลขของผู้ตรวจด้วย ATK เป็นตัวเลขอีกชุดหนึ่ง แต่ก็ติดตามดูพบว่าแนวโน้มการตรวจด้วย ATK และพบผลบวก เริ่มลดลง สอดคล้องกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีผลยืนยันด้วย RT-PCR

เจอเชื้อเดลตาครบทุกจังหวัด

ส่วนที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งตัวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 14-20 ส.ค.2564 จำนวน 2,295 ตัวอย่าง พบว่าเป็นไปตามคาดหมายคือ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดลตา พบ 2,132 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 92.9 สายพันธุ์อัลฟา 134 ตัวอย่าง ร้อยละ 5.8 และสายพันธุ์เบตา 29 ตัวอย่าง ร้อยละ 1.3 ส่วนภาพรวมประเทศพบสายพันธุ์เดลตาแล้วทุกจังหวัด จากสัปดาห์ที่แล้วจังหวัดที่ยังไม่พบคือ จ.สุพรรณบุรี แต่สัปดาห์นี้พบ 3 คน ถือว่าเดลตาเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทยแล้ว แต่เราจะเฝ้าระวังต่อไป สำหรับสายพันธุ์เบตายังจำกัดวงอยู่ภาคใต้ โดยพบ 29 คน ได้แก่ จ.นราธิวาส 15 คน กระบี่ 5 คน ปัตตานี 4 คน สงขลา 3 คน ภูเก็ต 2 คน ส่วนเบตาที่พบ จ.บึงกาฬและกรุงเทพฯนั้น ขณะนี้ไม่พบแล้ว ถือว่ายุติแล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆอาจต้องใช้เวลาอีกระยะ หากควบคุมได้ดี เราหวังว่าสายพันธุ์เบตาจะหายไปจากประเทศไทย

พบแตกสายพันธุ์ย่อย

นพ.ศุภกิจกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม จากการติดตามเฝ้าระวังสายพันธุ์เดลตาของกรมวิทยาศาสตร์ฯและศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี พบว่าสายพันธุ์เดลตา มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเป็นสายพันธุ์ย่อยของเดลตา เราได้แจ้งให้กรมควบคุมโรคและทีมสอบสวนโรคทราบแล้ว เพื่อติดตามอาการของผู้ติดเชื้อทั้งหมดว่ามีอาการมากขึ้นหรือไม่ และเบื้องต้นพบว่าอาการยังปกติ และเราได้เฝ้าติดตามว่าการระบาดมีเพิ่มมากขึ้นผิดปกติหรือไม่ แต่ขอย้ำก่อนว่าในเบื้องต้นยังไม่มีการกลายพันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์ไทย เพราะสายพันธุ์ย่อยนี้มีการรายงานพบที่ประเทศอื่นๆด้วย เช่น อังกฤษ สเปน เดนมาร์ก

แตกลูกหลาน 27 สายพันธุ์

ด้าน ศ.ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์ จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สายพันธุ์เดลต มีสายพันธุ์หลักที่เรียกว่า B 1.617.2 ขณะนี้พบว่าได้แตกตัวเป็นสายพันธุ์ย่อยอีก 27 สายพันธุ์และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ B.1.617.2.1 – B.1.617.2.22 หรือเรียกสั้นๆว่า AY.1-AY.22 โดยสายพันธุ์ย่อยของเดลตาที่พบในไทยแล้ว ได้แก่ AY.4 พบในเขตปทุมธานี จำนวน 4 คน AY.6 พบในประเทศไทย (ยังไม่ระบุพื้นที่) 1 คน AY.10 พบใน กทม. 1 คน และ AY.12 ใน กทม. 1 คน ส่วนสายพันธุ์ย่อยของเดลตามาจากไหนนั้น ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า เป็นลูกหลานของสายพันธุ์เดลตาหลักที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย แต่สายพันธุ์หลักนั้นจะมาจากไหนต้องสืบค้นกันต่อไป แต่ข้อมูลที่มีเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรค และจับตาดูต่อไปว่า จะต่อต้านภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่เรามีอยู่หรือไม่

9 สมาคมธุรกิจขอผ่อนมาตรการ

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หารือร่วมกับ 9 สมาคมธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมคลินิกเอกชน สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย กลุ่มสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมสนามกอล์ฟไทย และสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย และสมาคมภัตตาคารไทย หลังเข้ามายื่นหนังสือข้อเรียกร้องขอผ่อนคลายมาตรการให้สามารถประกอบธุรกิจไปได้ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน กล่าวพร้อมรับฟังปัญหาและหารือเพื่อหาทางออกให้ทุกฝ่ายผ่านพ้นวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ ยืนยันรัฐบาลทุกคนไม่ได้ยินดีปรีดาใดๆเลย และพยายามหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ หาจุดสมดุลระหว่างความเจ็บปวดทางธุรกิจและความปลอดภัยทางสุขภาพ ยอมรับว่าหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมเช่นมีการกลายพันธุ์ที่เข้ามาคุกคามเราจนถึงทุกวันนี้

ลุ้นให้นั่งกินในร้านได้ร้อยละ 50

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังหารือว่า การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต้องสอบถาม ศบค.ก่อน จะเสนอวันที่ 27 ส.ค.นี้ มีแนวโน้มเป็นไปได้ที่จะให้ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ประมาณร้อยละ 50 รวมถึงสถานประกอบการกลางแจ้ง สถานออกกำลังกายต่างๆ อาจมีการผ่อนคลายให้ต่อไป สิ่งสำคัญกระทรวงสาธารณสุขอยากให้มีมาตรการป้องกัน จึงได้เสนอมาตรการองค์กร ผู้ประกอบการทั้งหลายจัดระบบป้องกันการติดเชื้อ ขอให้พื้นที่บริการทั้งหมดต้องปลอดโควิด (covid free) ช่วยกันคัดกรองผู้ที่จะเข้า ไปในห้างสรรพสินค้า เข้าไปในสถานประกอบการแต่ละแห่ง เบื้องต้นมีหลักปฏิบัติ 3 ข้อ 2 ข้อแรกเป็นของผู้ประกอบการ คือ จัดสภาพแวดล้อมให้มีระยะห่าง ระบบระบายอากาศดี สถานที่สะอาดปลอดภัย บุคลากรต้องส่งเสริมให้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม บางส่วนฉีดไปแล้ว มีการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK เป็นระยะ ส่วนลูกค้าต้องปฏิบัติด้วยคือ ตรวจหรือแสดงตนว่าไม่ได้เป็นคนผู้ติดเชื้อ คือฉีดวัคซีน 2 เข็ม มีข้อมูลในหมอพร้อมอยู่แล้ว หรือมีการตรวจ ATK หรือผลตรวจ RT-PCR หรือเป็นผู้ที่เคยติดเชื้อไปแล้ว 1 เดือน ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการสำหรับสถานประกอบการในระบบปิด ส่วนระบบเปิดอาจผ่อนปรนได้มากกว่านี้

แม่แจ่มอลเวงเด็ก 2 ขวบติด

สำหรับสถานการณ์โควิดทั่วประเทศ หลาย จังหวัดยังคงจัดฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยงหากติดเชื้อแล้วมีอาการป่วยรุนแรง ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง หญิงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งวัคซีนที่ฉีดมีทั้งแอสตราเซเนกา ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม รวมถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปี ที่มีโรคประจำตัว กลุ่มเด็กพิเศษ ฯลฯ ขณะเดียวกัน ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา รพ.แม่แจ่ม ได้รับผู้ป่วยเป็นเด็ก วัย 2 ขวบเศษ อยู่บ้านตลอด แต่เกิดอุบัติเหตุตกบันได ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและต้องส่งตัวต่อไปยัง รพ.จอมทอง โรงพยาบาลขอให้นำเด็กไปตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเนื่องจากเด็กมีไข้ร่วมด้วย ผลการตรวจมีผลบวก ทีมสืบสวนโรคของสาธารณสุขอำเภอเข้าพื้นที่สอบสวนโรคแล้วว่าเด็กได้รับเชื้อมาจากใคร รวมถึงมีการตั้งด่าน 24 ชั่วโมงจำกัดคนเข้าออกพื้นที่

ฮือฮาครูแต่งชุดแพนด้าส่งข้าว

ขณะที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีภาพน่ารักๆและเป็นสีสันเรียกความสนใจจากผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลตำบลธาตุพนม หลังจากช่วงใกล้เที่ยงของทุกวัน ครูหงส์ หรือนายชาญชัย อานุ อายุ 53 ปี ครูผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จะแต่งชุดมาสคอตหมีแพนด้า พร้อมเจ้าหน้าที่นั่งจักรยานยนต์ซาเล้ง นำอาหารกลางวัน นมโรงเรียน ตระเวนไปตามบ้านผู้ปกครองในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม วันละ 30-40 หลัง เพื่อนำอาหารกลางวันไปแจกจ่าย อำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองในช่วงปิดเรียนชั่วคราวไม่มีกำหนด จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายชาญชัย หรือครูหงส์ กล่าวว่า ปกติชอบเอนเตอร์เทนเด็ก พยายามหากิจกรรมสร้างสีสันให้ตลอด แต่ช่วงนี้ปิดเรียนชั่วคราวมาหลายเดือน สิ่งสำคัญอาหารกลางวัน นมโรงเรียน ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณของเทศบาล จะต้องจัดสรรทุกวัน แต่บางครั้งพ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลามารับ ตนในฐานะครู จึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ครูพี่เลี้ยง ออกตระเวนแจกอาหารกลางวันในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนมทุกวัน มีแนวคิดว่าจะต้องแต่งชุดมาสคอตเป็นหมีแพนด้า เป็นการสร้างสีสันให้เด็กนักเรียนมีความสุขกับคุณครูที่มาส่งอาหาร รวมถึงลดความตึงเครียดให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองในช่วงวิกฤติโควิด เพราะพ่อแม่บางคนต้องดิ้นรนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และอยากดูแลลูกหลานให้ดีที่สุด

สาวรอตรวจดับคาที่พักคอย

ส่วนที่ จ.ลพบุรี เกิดเหตุสลดเมื่อช่วงสาย วันที่ 24 ส.ค. บ้าน ม.7 ตำบลสายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ ลพบุรี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่บ้านน้อยยอดจันทร์ เป็นกุฏิไม้ยกสูง เรียงกัน 3 หลัง จัดทำเป็นสถานที่พักคอย กักตัวผู้มีความเสี่ยงสูงของตำบลสายห้วยแก้ว ที่วัดน้อยยอดจันทร์ ผู้เสียชีวิตชื่อนางบุญนาค พลายชุมพล วัย 55 ปี จากการชันสูตรพลิกศพไม่มีบาดแผล และร่องรอยถูกทำร้าย เบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ผู้ตายเป็นผู้เสี่ยงสูง เนื่องจากสามีติดเชื้อโควิด-19 มากักตัวที่ศูนย์พักคอยของตำบลสายห้วยแก้วได้ 4 วัน และวันนี้ผู้ตายมีคิวนัดตรวจสวอบ เทสต์ จาก รพ.บ้านหมี่ เมื่อช่วงเช้าผู้ใหญ่บ้านไปเรียกแต่ไม่มีเสียงขานรับ ให้ผู้ที่กักตัวอีกหลังไปเรียก ให้มาทานข้าวก่อนที่จะไปโรงพยาบาล กลับพบว่านางบุญนาคเสียชีวิตแล้ว สร้างความสะเทือนใจให้กับ จนท.ที่คอยดูแลมาตลอด ต้องมาเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษาเยียวยา ทั้งนี้ รพ.บ้านหมี่ ให้อาสาสมัครกู้ภัยสว่างอริโยบ้านหมี่ นำผู้เสียชีวิตมาชันสูตรสาเหตุอีกครั้ง

เวียดนามเล็งนำเข้าวัคซีนคิวบา

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสมเกิน 213 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 4.45 ล้านคน มีผู้ป่วยใหม่รายวันเพิ่ม 519,161 คน และผู้เสียชีวิตรายวัน 7,653 ราย ที่เวียดนาม กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเผยเมื่อ 24 ส.ค. ว่าคิวบาจะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 “อับดาลา” ที่ผลิตเองจำนวนมหาศาลให้แก่เวียดนาม รวมทั้งจะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนหน้านี้คิวบาเปิดเผยผลการทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิกในระยะสุดท้ายในเดือน มิ.ย.ของวัคซีนอับดาลาที่ต้องฉีด 3 โดส มีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 92.28 ทั้งนี้ เวียดนามได้ตกลงผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย และอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯ เพื่อผลิตวัคซีนในเวียดนาม จนถึงขณะนี้เวียดนามได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากกว่า 23 ล้านโดส และคาดว่าจะได้รับอีกอย่างน้อย 50 ล้านโดส ในไตรมาสที่ 4 ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนในประเทศที่เริ่มในเดือน มี.ค. ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีเพียงร้อยละ 1.9 ของประชาชนทั้งหมด 98 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน นับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค