เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 09 พฤษภาคม 2565 เวลา 15:59 น.
คืบหน้า! ปม ‘อิศรา’ เผยปริศนาภาพ ‘รถแบ็คโฮ’ ขุดเขา อ.เมืองภูเก็ต ล่าสุดศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 ดีเอสไอ ทำเรื่องขออนุมัติส่วนกลาง ลุยสอบเป็นทางการ หลังพบข้อมูลส่อออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าไม้มากกว่า 300 ไร่ ด้านแหล่งข่าวกระทรวงทรัพย์ฯ ข้องใจ จนท.ลงพื้นที่ไม่ตรงจุดเกิดเหตุ ห่างกันแค่ไม่เกิน 500 เมตร
กรณีเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวการสำรวจพื้นที่บริเวณเขาใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ณ กลางเกาะเมืองภูเก็ต พบรถแบคโฮ กำลังขุดตักหน้าดิน ใส่รถบรรทุกลำเลียงขนออกไปนอกบริเวณพื้นที่ จากการสอบถามผู้เฝ้าต้นทาง ได้รับแจ้งว่า พื้นที่บริเวณเขาที่มีความลาดชันสูงนี้เป็นของนายทุนใหญ่ ฉายา “ฮิตเลอร์” เป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่จากการสังเกตพื้นที่ทั้งหมดรอบ ๆ บริเวณ ไม่พบว่ามีป้ายแสดงสัญญาลักษณ์ว่า ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด ภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หรือ แม้แต่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต แต่อย่างใด
ขณะที่ นายสมชาย จิตรหลัง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต ได้รายงานข้อเท็จจริงกรณีนี้ต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า หน่วยฯได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวปรากฏว่าเป็นพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินการ ก่อสร้างกำแพงป้องกันดินพังทลายตามแผนงาน แต่เมื่อวันที่ วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เมืองภูเก็ต ปลัดอำเภอกะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. เข้าตรวจสอบพื้นที่ บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ของการไฟฟ้า ผลปรากฏว่า พบร่องรอยการขุดตักดินในพื้นที่ แต่ไม่พบรถแบ็คโฮและรถบรรทุก อยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด ตรวจวัดพื้นที่ได้ 4-2-91 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
ต่อมา ได้มีนายเชิง น้ำแก้ว เข้ามาในพื้นที่ และให้ข้อมูลว่าพื้นที่ที่ขุดตักดินดังกล่าว อยู่ในเขตพื้นที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) คณะเจ้าหน้าที่จึงมีความเห็นร่วมกันว่า เห็นควรประสานสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบว่าพื้นที่ขุดตักดินดังกล่าวอยู่ในเขตตามเอกสาร น.ส.3 ฉบับดังกล่าว หรือไม่อย่างไร ต่อไป
- ปริศนาภาพ ‘รถแบ็คโฮ’ ขุดเขา อ.เมืองภูเก็ต ไม่รู้อยู่ในที่ดินของใคร?
- ปมปริศนาภาพ ‘รถแบ็คโฮ’! ป่าไม้เจอร่องรอยขุดตักดินในเขตป่าสงวน-ผู้ดูแลแจงมี น.ส.3
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ได้รับทราบข้อมูลการสำรวจพื้นที่บริเวณเขาใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ณ กลางเกาะเมืองภูเก็ต ที่พบรถแบคโฮ กำลังขุดตักหน้าดิน ใส่รถบรรทุกลำเลียงขนออกไปนอกบริเวณพื้นที่ของสำนักข่าวอิศราแล้ว ขณะที่การเข้าตรวจสอบพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็ไม่ตรงตามพิกัดพื้นที่ที่สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบ แต่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน อยู่ห่างกันไม่เกิน 500 เมตร
“พื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว ว่า เป็นพื้นที่รอนสิทธิ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่เป็นเส้นทางสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการเปิดขุดตักหน้าดินที่สำนักข่าวอิศราเสนอข่าวแต่อย่างใด”
@ จุดพิกัดที่ป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ
@ จุดพิกัดที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบ รถแบคโฮปริศนา กำลังขุดตักหน้าดิน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เกี่ยวกับปัญหาพื้นที่บริเวณเขาใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ณ กลางเกาะเมืองภูเก็ต ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจพบรถแบคโฮ กำลังขุดตักหน้าดินนั้น นายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขต พื้นที่ 8 ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัด ได้มีหนังสือถึงสำนักบริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขออนุมัติในการออกเอกอสารสืบสวน เนื่องจากนายศุภชัย และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่เกิดเหตุตามที่สำนักข่าวอิศราเสนอข่าวแล้วพบว่า เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกป่า มีเนื้อที่มากกว่า 300 ไร่
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษภาคพื้นที่ 8 จะทำหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ได้ก็ต่อเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษอนุมัติสั่งการหรือออกเอกสืบสวน และตรวจสอบโดยสำนักบริหารคดีพิเศษแล้ว ไม่พบว่า พื้นที่นั้นถูกสืบสวบสอบสวนโดยกองคดีอื่นๆ
ขณะที่แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า นายศุภชัย ได้มีหนังสือถึงกองบริหารคดีพิเศษเพื่อขอสืบสวนกรณีนี้จริง โดยมีหนังสือมายังกองบริหารคดีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า พื้นที่นี้อาจจะมีปัญหาเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าไม้และทำการขุดตักหน้าที่ดิน รวมจำนวนพื้นที่น่าจะมากกว่า 300 ไร่ จึงขออำนาจในการตรวจสอบสืบสวนว่ามีการร่วมกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐและนายทุนหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า การขอออกเอกสืบสวนของผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 เป็นไปตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายไตรฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ให้ความสำคัญกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งที่ผ่านมานายไตรยฤทธิ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจดูพื้นที่ด้วยตัวเอง ทั้งจังหวัดกระบี่ พังงา และ ภูเก็ต พร้อมสั่งการเร่งรัดให้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 ให้ เร่งสืบสวนทำความจริงให้ปรากฏว่า ทั้งพื้นที่ บุกรุกออกเอกสารสิทธิ์ทับอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราในตำบลอ่าวนางซึ่งเป็นป่าอ่าวนาง-หางนาค องเมือง จ.กระบี่ หรือกรณีของการเปิดหน้าดินในพื้นที่เสม็ดนางชี ซึ่งออกเอกสารสิทธิ์ทับป่าถาวรป่าควนช้าง ต.คอลงเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยสั่งการให้ประสานเจ้าพนักงานที่ดินนำเอกสารสิทธิ์ที่นายทุนแสดงมาวิเคราะห์สารระบบที่ดิน ว่า มีการออกชอบด้วย พ.ร.บ.ที่ดินหรือไม่ ขณะเดียวกันนายไตรยฤทธิ์ ยังได้ประสานอธิบดกีกรมที่ดิน เพื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิ์โดยอธิบดีกรมที่ดิน ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางรับผิดชอบและลงพื้นที่วัดพิกัดและแนวเขตที่ดินแล้ว