‘วีโว่’ การ์ดขยะติดอาวุธ

        นั่นแหละครับท่านผู้ชม….

            ถ้าเป็นปลาก็รอดเบ็ดมานาน

            เจอแหเข้าไปทีเดียว…

            ลงเข่งยกฝูง

            เรื่องของการ์ดวีโว่ จบไม่สวยเพราะทำตัวเอง

            อย่าเพิ่งสับสน

            เมื่อวันเสาร์มีชุมนุมทั้งหมด ๔ กลุ่ม

            ๑.กลุ่ม REDEM ร่วมกับกลุ่มการ์ดราษฎรบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เดินขบวนไปศาลอาญา

            ๒.กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า ๖๓ บริเวณโลตัสรังสิต  เดินขบวนไปกรมทหารราบที่ ๑๑

            ๓.กลุ่มมวลชนเดินทะลุฟ้าบริเวณตลาดเซียร์ รังสิต  เดินขบวนไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

            ๔.กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน บริเวณแยกราชประสงค์

            ที่เป็นประเด็นคือกลุ่มแรก หลังจากเคลื่อนไปหน้าศาลอาญาแล้ว มีการจุดไฟเผาสิ่งของที่อ้างว่าเป็นขยะ แต่พบว่าบางอย่างเป็นทรัพย์สินผู้อื่น เช่นกรวยยางของ ปตท.

            และยังพบว่า มวลชนบางคนเผาพระบรมฉายาลักษณ์ อีกด้วย

            ประเด็นเผาหน้าศาลมีความผิดหรือไม่?

            อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา ชูชาติ ศรีแสง อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng เอาไว้ดังนี้

                …..นี่คือการวางเพลิงเผารั้วศาลอาญาซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑๗ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

                …..เจ้าหน้าที่ตำรวจคงมีภาพถ่ายผู้ร่วมกระทำผิดชัดเจน น่าจะขอให้ศาลอาญาออกหมายจับเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีได้ภายในเวลาไม่ช้านัก……

            ครับ…เป็นความผิดค่อนข้างชัดเจน มีทั้งรูปถ่าย และคลิป

            แม้กลุ่ม REDEM ๓ นิ้วกลายร่างจะอ้างว่าชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ แต่การชุมนุมอย่างสันติ มิได้หมายความว่าไม่มีอาวุธแล้วจะเรียกว่าสันติทุกกรณี

            ความรุนแรง มิได้มาจากอาวุธเพียงอย่างเดียว แต่คำพูดยั่วยุ หยาบคาย ให้ร้ายบุคคลอื่น รวมไปถึงพฤติการณ์อื่น เช่นการเผา ก็เป็นการชุมนุมที่สร้างความรุนแรงได้เช่นกัน

            และในความจริงแล้วการชุมนุมคืนวันที่ ๖ มีนาคม มีการใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน โดยผู้ชุมนุมบางกลุ่ม ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับการจับกุม “โตโต้” และกลุ่มการ์ดวีโว่

            หลังตำรวจเขาสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มการ์ดวีโว่ นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณลานจอดรถชั้น ๕ บนห้างเมเจอร์ฯ รัชโยธิน ไม่ห่างจากศาลอาญา

            ประเด็นสำคัญอยู่ที่ มีการเตรียมอาวุธหรือสิ่งของมาใช้ก่อความวุ่นวายหรือสร้างสถานการณ์ในการชุมนุม

            นำไปสู่การจับกุม และตรวจค้นพบของกลางหลายรายการ

            หนังสติ๊ก ๑๕ อัน

            หัวนอต ๕๐ ชิ้น

            ลูกแก้ว ๓๐๐ ลูก

            ระเบิดควัน ๓๐ ลูก

            ถุงน้ำปลาร้า ๓๐ ถุง

            หมวกกันกระแทก ๑๓ ใบ

            เสื้อเกราะ ๓๗ ตัว

            ท่อเก็บแก๊สน้ำตา ๑ อัน

            ค้อนเหล็ก ๑ อัน

            โล่ ๑ อัน

            ของเหล่านี้เป็นอาวุธหรือไม่?

            หลักกฎหมาย อาวุธ หมายความรวมถึงสิ่งที่ให้เป็นอาวุธโดยสภาพแต่ได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ

            อาวุธโดยสภาพ หมายถึงสิ่งที่ใช้สำหรับทำให้เกิดอันตรายสาหัสแก่บุคคลในลักษณะปกติของสิ่งนั้น

            ตัวอย่าง เช่น ปืน ดาบ หอก แหลน หลาว มีด และตะบอง ปืนอัดลม ระเบิด สนับมือ ไม้ซาง ลูกดอกอาบยาพิษ แก๊สพิษ เป็นต้น

            อาวุธที่ไม่ใช่อาวุธโดยสภาพ แต่มีเจตนาใช้สิ่งนั้นเป็นอาวุธ ซึ่งใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงสาหัส ตัวอย่างอาวุธ  เช่น ไม้เบสบอล ไม้กอล์ฟ ก้อนหิน ท่อนไม้ เป็นต้น

            ในการชุมนุมวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของ ก้อนหิน ขวดน้ำ และวัตถุระเบิดแรงดันต่ำ

            เป็นเหตุให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ แก้วหูฉีกขาด เพราะแรงอัดของระเบิดแรงดันต่ำ โดนเหล็กแหลมและก้อนหิน รวม ๒๓ นาย

            ฉะนั้นการค้นกลุ่มวีโว่แล้วเจอ หนังสติ๊ก หัวนอต           ลูกแก้ว ระเบิดควัน ฯลฯ ถือเป็นอาวุธหรือไม่ ไปว่ากันที่ศาล

            “โตโต้” บอกว่าจับผมทำไม แค่มากินข้าว

            ก็ถาม “โตโต้” กลับว่า กินข้าวทำไมต้อง เอาหนังสติ๊ก  ลูกเหล็ก หัวนอต ลูกแก้ว ระเบิดควัน ท่อเก็บแก๊สน้ำตา  วิทยุสื่อสาร ไปด้วย

            ประเด็นของ “โตโต้” มีปัญหาก่อนที่จะถูกจับกุม

            ประการแรกโตโต้บอกว่า ติดธุระไปร่วมชุมนุมไม่ได้

            ต่อมามีการขยายความว่า ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม ไม่ได้หมายความว่า เทม็อบ ๓ นิ้ว แต่กำลังตามหาขยะชิ้นใหญ่ๆ ไปร่วมกิจกรรมอยู่

            “โตโต้” บอกว่า “ขอเวลาไปหาขยะแถวเขตพระราชฐานสักครู่”

            นั่นคือสิ่งที่เขาสื่อสารกับมวลชน ๓ นิ้ว

            ฟังดูเหมือนธรรมดา แต่เมื่อพิจารณาลงไปในพฤติการณ์ การบอกว่าไปหาขยะแถวเขตพระราชฐาน เป็นพฤติกรรมที่หยาบช้า

            เป็นการสื่อสารภายในกลุ่มที่รับรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร

            อีกนัยหนึ่งยังเป็นการยั่วยุให้ผู้ชุมนุมฮึกเหิม แค่ได้รู้ได้ยินคำว่า “เขตพระราชฐาน” คนกลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างเสียสติแล้ว

            มีการถามหาหมายจับหลังกลุ่มการ์ดวีโว่ถูกรวบ  

            บ้างก็ว่าจับโดยไม่มีการแจ้งข้อหา

            ทางตำรวจเขาชี้แจงว่า เป็นความผิดซึ่งหน้า

            ความผิดซึ่งหน้าคืออะไร?

            ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

            ……มาตรา ๘๐ “ที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้านั้น ได้แก่ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าเขาได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ

            อย่างไรก็ดี ความผิดอาญาดั่งระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายนี้ ให้ถือว่าความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่งหน้าในกรณีดั่งนี้

            (๑) เมื่อบุคคลหนึ่งถูกไล่จับดั่งผู้กระทำโดยมีเสียงร้องเอะอะ

      (๒) เมื่อพบบุคคลหนึ่งแทบจะทันทีทันใดหลังจากการกระทำผิดในถิ่นแถวใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุนั้น และมีสิ่งของที่ได้มาจากการกระทำผิด หรือมีเครื่องมือ อาวุธหรือวัตถุอย่างอื่นอันสันนิษฐานได้ว่าได้ใช้ในการกระทำผิด หรือมีร่องรอยพิรุธเห็นประจักษ์ที่เสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของผู้นั้น……

            กรณีการ์ดวีโว่ทางตำรวจเขาสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน มีพยานหลักฐานยืนยันว่ามีการนัดรวมตัวบริเวณลานจอดรถชั้น ๕ ห้างเมเจอร์ฯ รัชโยธิน

            กลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์ก่อความวุ่นวายในการชุมนุม  และการเข้าจับกุมมีการต่อสู้ขัดขวาง สุดท้ายก็พบของกลางหลายรายการ

            เมื่อกลุ่มวีโว่ถูกจับ ส่วนที่เหลือพากันก่อความรุนแรง ทุบรถขนผู้ต้องหา ซ้อมตำรวจ เพื่อชิงตัวกลุ่มการ์ด

            มีการก่อคดี ทำผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระมากมาย

            คราวนี้หลักฐานชัดโดนยกเข่ง

            ฉะนั้นอย่าร้อง!