เทศกาลแห่งความสุขช่วงหยุดยาวปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกที จนทำให้บางคนอาจจะรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มันช่างลงตัวซะเหลือเกิน ความรักก็หวานเจี๊ยบสมใจ จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง เจ้านายก็ไม่เยอะใส่ (มันจะมีโมเมนต์แบบนี้ในชีวิตจริงๆ เรอะ) จนอาจจะรู้สึกขึ้นมาได้ว่า เฮ่อ… ทำไมชีวิตช่วงนี้มันดี๊ดีจนน่าเบื่อจัง หากคุณกำลังคิดแบบนั้น วันนี้เรามียาขมชั้นดีมามอบให้ลอง มันคือ 5 เกมสนุกๆ ระดับขึ้นหิ้งที่ดันพ่วงเนื้อเรื่องสุดดาร์ก สุดเข้มข้น แบบแทงทะลุหัวใจจนช้ำในมาให้ รับรองว่าเพียงแค่ได้เล่นแล้วคุณจะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษ ประหนึ่งโดนรถบรรทุกพุ่งชนที่ใจ จนหันไปซาบซึ้งถึงสิ่งดีๆ ในชีวิตแทบไม่ทัน
ปวดใจอันดับ 5: Life is Strange
จุกเบาๆ กับดราม่าไม่ใสวัยสะรุ่น
เกมสาววัยใสที่จะสอนบทเรียนว่า ประสบการณ์อันหอมหวานในวัยกระเตาะ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเหตุการณ์กระแทกใจแบบจุกๆ ได้ไม่ยาก Life is Strange เล่าเรื่องราวของเด็กสาวมัธยมชื่อ Max ที่ต้องเดินทางกลับมาเมืองบ้านเกิดในวัยเด็ก และต้องสานความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่ห่างหายกันไปนาน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์มันดันพลิกตรงที่เธอได้ไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรมในโรงเรียน Blackwell Academy แถมน้องยังจับพลัดจับผลูได้พลังย้อนเวลามาด้วย อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจคิดว่านี่ต้องเป็นเนื้อเรื่องแนวสองสาววัยใสจับมือกันใช้พลังพิเศษไขคดีปริศนาแน่ๆ เลย ที่ไหนได้ Life is Strange จะพาเราไปเจอกับเรื่องปัญหาบ้านแตก การสูญเสียคนสำคัญในวัยเด็ก และการทำใจยอมรับเรื่องเศร้าในชีวิตที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยง อกข้างซ้ายของคุณจะโดนกระทืบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากสารพัดเหตุการณ์เศร้าที่เด็กพวกนี้ต้องเจอ ทำดีอะไรไปก็มีแต่คนปรามาส พูดอะไรผู้ใหญ่ก็ไม่เชื่อ ซ้ำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนยังจะโดนอภิมหาพายุถล่มเละอีก ถึงเกมนี้จะเศร้าถึงทรวงและอาจทำให้บางคนนึกถึงวัยเด็กที่ไม่สวยหรู แต่ข้อความที่เกมต้องการจะสื่อเรื่องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ช่างซาบซึ้งกินใจ คุ้มค่าแก่อาการปวดใจระหว่างเล่นแน่นอน
ปวดใจอันดับ 4: Spec Ops: The Line
ประกาศให้โลกรู้ว่าสงครามมันบัดซบสิ้นดี
ปกติพวกเกมแนวเดินหน้ายิงแหลกมักจะพ่วงเนื้อเรื่องสไตล์พระเอกคือฮีโร่ ทำอะไรก็ถูกไปทุกอย่าง ที่ต้องมาเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้ามก็เพื่อจะกู้โลกและอีกฝ่ายมันเลว (???) ยังไงล่ะ! แต่คุณจะไม่ได้เจอเนื้อเรื่องแบบนี้ในเกม Spec Ops: The Line แน่นอน ตรงกันข้าม คุณจะเกิดคำถามในหัวมากมายในระหว่างเล่นว่าสิ่งที่คุณกำลังยืนหยัดสู้อยู่มันถูกต้องหรือไม่? นี่ใช่ศึกที่เราจำเป็นต้องดึงดันต่อไปจริงเหรอ? เนื้อเรื่องของเกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายสายดาร์กสุดคลาสสิกชื่อว่า Heart of Darkness และภาพยนตร์เรื่อง Apocalypse Now คุณต้องรับบทเป็นทหารมะกันไฟแรงที่พาเพื่อนร่วมหน่วยเดินทางไปกำจัดนายพลร่วมชาติในดูไบ เนื่องจากเขาคนนี้ขัดคำสั่งกองทัพและก่อความไม่สงบหลังจากดูไบโดนพายุทรายถล่มจนเป็นอัมพาต หน่วยของคุณจะต้องฟันฝ่าทั้งกองกำลังนายพลและผู้ก่อการร้ายที่ต่างก็แก่งแย่งน้ำ อาหาร และทรัพยากรต่างๆ ในเมือง แล้วยังต้องเผชิญกับเหตุการณ์สุดเลวร้ายในสมรภูมิ จนถึงขั้นลงมือก่อเหตุอาชญากรรมสงครามด้วยตัวเอง โดยเอาคำว่า “ภารกิจ” เป็นข้ออ้าง ช่วงท้ายเกมทั้งคุณและตัวเอกจะทำสิ่งเลวร้ายไปมากจนเริ่มสงสัยว่าสิ่งไหนคือความจริง สิ่งไหนคือเรื่องที่หลอนไปเอง Spec Ops: The Line เป็นนิทานสอนใจที่ดีว่าสงครามไม่ใช่เรื่องสนุก และไม่มีฮีโร่ที่ขาวสะอาดในสมรภูมิหรอก ความวินาศสันตะโรที่ใครก็ตามก่อเอาไว้จะตามมากัดกินตัวของคนผู้นั้นเองในภายหลัง เล่นเกมนี้จบแล้วคุณจะได้มุมมองใหม่เกี่ยวกับเกมเดินหน้ายิงอย่าง Call of Duty และหนังสงครามสัญชาติมะกันเลยล่ะ
ปวดใจอันดับ 3: Red Dead Redemption 2
ดราม่าคาวบอยบีบน้ำตาลูกผู้ชาย
เวลาพูดถึงคาวบอย เราก็มักจะนึกถึงฉากดวลปืนเท่ๆ การควบม้าในแดนไกลปืนเที่ยง หรือไม่ก็เหตุการณ์วิวาทในโรงเหล้าใช่มั้ย คงไม่มีใครนึกถึงเรื่องราวชีวิตของลูกผู้ชายผู้ต้องต่อสู้กับยุคสมัยที่กำลังจะลืมเลือนเขา และเส้นเรื่องแนวหนทางการไถ่บาปของสุภาพบุรุษทรชน นั่นคือรสชาติใหม่ที่เกม Red Dead Redemption 2 เลือกที่จะเล่าอย่างละเมียดละไมและกระแทกใจ ด้วยบทชีวิตของคาวบอยนอกกฎหมายนามว่า Arthur Morgan สิงห์ปืนไวที่ซื่อสัตย์ต่อแก๊งของเขาเหนือสิ่งอื่นใด แต่เมื่อบั้นปลายของยุคเสือโจรคืบคลานมาถึง เขาต้องพบกับบททดสอบจิตใจครั้งใหญ่ เมื่อหัวหน้าคนสนิทเริ่มหวาดระแวงจนเสียเหลี่ยม เพื่อนชาวแก๊งเริ่มหนีหายหรือล้มตายไปทีละคน และเมื่อเป้าหมายชีวิตที่คู่ควรแก่การสู้ตายมาถึง เขาจะต้องรับมือมันอย่างไร คุณจะได้ค้นหาคำตอบนี้ตลอดระยะเวลาการเล่นหลายสิบชั่วโมง ค่อยๆ ทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของ Arthur ทำความคุ้นเคยกับม้าคู่ใจของเขา และตีสนิทกับสหายรอบตัวเขา นั่นทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากลา คุณอาจจะกลั้นน้ำตาให้กับคาวบอยผู้นี้ไม่อยู่ก็เป็นได้
ปวดใจอันดับ 2: A Plague Tale: Requiem
โรคระบาดและกองทัพหนู หรือจะสู้ความเลวร้ายที่เด็กๆ ต้องเผชิญในยุคมืด
ลองจินตนาการถึงการ์ตูนที่ขมขื่นที่สุดจากค่ายจิบลิเรื่อง “สุสานหิ่งห้อย (Grave of the Fireflies)” ทีนี้เปลี่ยนฉากหลังให้เป็นช่วงยุคมืดของประเทศฝรั่งเศสราวๆ ค.ศ.1300 แล้วก็ใส่กองทัพหนูกินคนเข้าไปอีกประมาณล้านตัว เขย่าให้เข้ากัน คุณก็จะได้เกมนี้ออกมา โดยเกมเมอร์จะต้องสวมบทเป็นหญิงสาววัยรุ่น Amicia de Rune ที่ต้องพาน้องชายชื่อว่า Hugo ฟันฝ่าช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสงครามและโรคระบาด หาทางรักษาโรคทางกรรมพันธุ์ให้น้อง รวมทั้งหยุดต้นตอของกองทัพหนูกินคนที่เป็นพาหะของโรคร้ายแห่งยุค อย่างไรก็ตาม เส้นทางการผจญภัยของเธอไม่เคยง่าย ผู้คนที่เธอต้องเผชิญหน้าต่างเต็มไปด้วยความโง่เขลา ป่าเถื่อน และโหดเหี้ยมไม่เว้นแม้แต่กับเด็ก ตลอดระยะเวลาที่เล่น คุณจะต้องลอบเร้นหรือลงมือฆ่าเพื่อปกป้องน้องชาย ยิ่งเล่นไปคุณก็จะยิ่งรู้สึกผูกพันธ์กับทั้งตัวนางเอกและน้องของเธอ ได้เห็นโมเมนต์ที่ทั้งคู่ได้กลับไปเป็นเด็กไร้เดียงสาบ้าง ได้สัมผัสถึงความห่วงใยที่ทั้งคู่มีให้กัน และได้เห็นว่าพวกเขามีความสุขกันได้เพียงแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ต้องกลับมาพบกับความวายป่วงในชีวิตอีกแล้ว โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน (แถมส่วนใหญ่ก็มักจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ) จะยิ่งทำให้เราอยากเชียร์ให้พี่น้องคู่นี้ผ่านมันไปให้ได้ แม้ตอนจบมันคงยากที่จะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ขอแค่เป็นความสุขแบบหวานอมขมกลืนให้เค้าหน่อยก็ยังดีล่ะวะ
ปวดใจอันดับ 1: The Last of Us: Part 2
วงเวียนแห่งการล้างแค้นที่ขมขื่นจนอยากเขวี้ยงจอย
เกมที่ขึ้นชื่อจากเนื้อเรื่องสุดดราม่ากระแทกใจจนช่อง HBO ถึงกับเอาไปสร้างเป็นซีรีส์คนแสดง ซึ่งเกมภาคต่อก็กลับมาผงาดได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยการเอาไม้กอล์ฟตีกระหน่ำหัวใจคนเล่นให้ชีช้ำกันตั้งแต่เปิดเกม ในขณะที่ภาคแรกจะชูประเด็นเรื่องการเปิดใจให้ใครสักคน และราคาที่คุณต้องจ่ายเพื่อปกป้องคนที่รัก ประเด็นที่เกมภาค 2 เขาเน้นจะเป็นเรื่องการแก้แค้น ซึ่งทำให้โทนเรื่องมันหดหู่ยิ่งกว่าเดิมอีก คุณจะต้องรับบทเป็น Ellie ที่เติบโตจากเด็กน้อยในภาคแรกมาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ท่ามกลางโลกหลังหายนะที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เธอกลับเลือกเดินบนเส้นทางการล้างแค้นแก๊งต่างถิ่นที่บุกเข้ามาพรากของสำคัญของเธอไป เกมจะเล่าเรื่องอย่างมีกึ๋นด้วยการสลับเหตุการณ์ไปมา โดยไม่บอกภาพรวมทั้งหมดของเรื่องให้ผู้เล่นตั้งแต่แรกจนทำให้เราจับต้นชนปลายไม่ถูก แถมเกมยังจะสลับมุมมองให้เห็นเหตุการณ์ผ่านสายตาตัวละครที่เราอาจเรียกได้ว่าเป็น “ตัวร้ายหลัก” ในช่วงกลางเรื่อง ให้ผู้เล่นได้เข้าใจถึงที่มาที่ไป ให้คุณได้เห็นวงจรอุบาทว์ของการไล่ล่าแก้แค้นกันไปมา และเห็นถึงผลข้างเคียงอันเลวร้ายที่มันทิ้งไว้ตามทาง ที่สำคัญคือเกมมักจะให้คุณเป็นคนลงมือกระทำเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ด้วยตัวเอง ในตอนจบ นอกจากคุณจะทั้งอึดอัดทั้งน้ำตาคลอเบ้าจากสิ่งที่น้อง Ellie ต้องเผชิญ (จนแทบอยากจะปาจอยเกมใส่ทีวี) คุณยังจะได้บทเรียนราคาแพงว่าโลกใบนี้ไม่มีพระเอก นางเอก หรือวายร้ายที่เป็นสีขาวสีดำชัดเจนหรอก ขึ้นอยู่กับว่ามันถูกมองผ่านสายตาของใครต่างหาก.
ภาพ: Steam, PlayStation