ทุกชีวิตเท่าเทียม – เดลีนีวส์

นี่คือครอบครัวหนึ่งของประชากร 1,300 ล้านคนของประเทศอินเดีย และผู้ป่วยอีกหนึ่งรายที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดรุนแรง ซึ่งมีคนติดเชื้อรายใหม่วันละกว่า 2 แสนราย โดยการแพร่ระบาดรุนแรงในอินเดีย เกิดขึ้นช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

ครอบครัวนักการทูตอัมโรฮิส พบว่า ต้องหาทางรักษาหัวหน้าครอบครัวมีชีวิตต่อไปให้ได้ ทั้งที่ระบบสาธารณสุขของประเทศแทบจะล่มสลาย และรัฐบาลก็ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้รองรับการแพร่ระบาดรุนแรงเลย จนขณะนี้ระบาดไปทั่วประเทศแล้ว หลายครอบครัวต้องวิ่งวุ่นหาทางตรวจหาเชื้อ หรือไม่ก็หายารักษา รถพยาบาล ออกซิเจนและเตียงรักษาผู้ป่วย และเมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดังหวัง ก็ต้องรับมือกับการจัดการศพผู้เสียชีวิต

ความเลวร้ายถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นิวเดลีพบการแพร่ระบาดรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วก็วิกฤติรุนแรงที่สุดช่วงปลายเดือน ตามมาด้วยเมืองเบงกาลูรู ในอีกสองสัปดาห์ต่อมา ตัวเลขการติดเชื้อพุ่งสูงสุดในอีกหลายเมืองเล็ก ๆ และติดกันไปทั่ว

เมื่อเผชิญกับการระบาดใหญ่ ทุกชีวิตจึงเท่าเทียม ทั้งคนยากไร้และคนมีอันจะกิน หรือแม้กระทั่งข้าราชการผู้มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น คนทำความสะอาดสิ่งปฏิกูล นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ต่างร้องหาเตียงรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่รัฐผู้ทรงอิทธิพลก็ยังส่งข้อความทางทวิตเตอร์ขอออกซิเจน ครอบครัวคนชั้นกลางหาไม้มาทำเป็นฟืนเพื่อเผาศพตามประเพณี และเมื่อไม่มีไม้ฟืน พวกเขาก็ทิ้งศพลงในแม่น้ำคงคา พบมีหลายร้อยศพลอยขึ้นอืด



Wall Street Journal

คนมีฐานะและสายสัมพันธ์ที่ดียังมีเงินและการติดต่อ เพื่อหาเตียงผู้ป่วยหนักห้องไอซียูและถังออกซิเจนได้ แต่คนรวยและคนจนก็เหมือนกันอีกอย่าง คือหายใจลำบากเมื่อติดเชื้อเข้าไปแล้ว รออยู่ด้านนอกโรงพยาบาลซึ่งเต็มล้นไปหมดแล้ว นี่กลายเป็นเหตุปกติไปแล้ว ทุกคนวุ่นวายไปหมด เพื่อหาทางรักษาชีวิตคนในครอบครัวเอาไว้ให้ได้

เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย เคยประกาศชัยชนะเหนือโควิด-19 แต่พอถึงเดือน มี.ค. รัฐมนตรีสาธารณสุข ดร.หรรษ วรรธน บอกว่า อินเดียกำลังอยู่ในช่วงตอนจบของการระบาดใหญ่

ตอนนั้นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้รับคำเตือนมาหลายสัปดาห์แล้วว่า ให้ระวังไวรัสระบาดระลอกใหม่ แต่รัฐบาลก็เพิกเฉยต่อคำเตือน ปล่อยให้มีเทศกาลทางศาสนาอย่างมหากุมภะ เมลา ดำเนินต่อไปได้ คนเป็นล้านคนมาร่วมพิธีอย่างคับคั่งเต็มฝั่งแม่น้ำคงคา แล้วยังมีคนอีกเป็นแสนออกมาชุมนุมทางการเมือง

อโศก อัมโรฮิส เคยเป็นแพทย์มาก่อนแล้วย้ายมาเป็นนักการทูต เดินทางมาแล้วทั่วโลก เคยเป็นทูตอินเดียประจำแอลจีเรีย โมซัมบิกและบรูไน เมื่อเกษียนแล้วกลับไปอยู่ที่เมืองคุรุคราม นอกกรุงนิวเดลี ใช้ชีวิตพักผ่อนด้วยกอล์ฟและเล่นเปียโน ถือเป็นบุคคลในครอบครัวคนชั้นกลาง-สูง ซึ่งได้รับการศึกษาและการยอมรับจากสังคม เขาบอกว่า ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดตอนรู้สึกเจ็บคอและไอเมื่อวันที่ 21 เม.ย. หลังจากนั้นเขากับภรรยาก็ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม

แล้วถ้าเป็นเวลาปกติ หากป่วยเช่นนี้ เขาสามารถหาเตียงรักษาพยาบาลได้ แต่เมื่ออาการป่วยคือไข้หายไป กลับมีอาการหายใจลำบาก ออกซิเจนลดลง สงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ภรรยาพยายามขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ตัว เช่น น้องสาวหาถังออกซิเจนได้ รักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อระดับออกซิเจนลดลง ครอบครัวตัดสินใจพาส่งโรงพยาบาล หาเตียงรักษาให้ได้ ทั้งที่เตียงแทบไม่มีเหลือแล้ว เพื่อนนักเรียนแพทย์สมัยก่อนรับปากว่า จะช่วยหาเตียงให้ และก็สำเร็จหาได้

วันนั้น 26 เม.ย. เป็นฤดูร้อนอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ครอบครัวคือภรรยาและบุตรชายคนโตพาพ่อขึ้นรถเอสยูวีมาถึงโรงพยาบาลตอนทุ่มครึ่ง แต่ก็ต้องรอก่อน เพราะเอกสารส่งตัวไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลงานวุ่น พวกเขาได้แต่รออยู่หน้าตึกว่าเมื่อไหร่จะได้ส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ระดับออกซิเจนลดลง สองชั่วโมงต่อมามีเจ้าหน้าที่มาตรวจ (swab) หาเชื้อ พบผลตรวจเป็นบวก ก็ยังต้องรอการส่งตัว พวกเขารอจน 5 ชั่วโมงก็ยังไม่ได้เข้าห้องผู้ป่วย จนหลังเที่ยงคืน อาการเขาทรุดหนัก จนกระทั่งเสียชีวิต

หลังเสียชีวิตครอบครัวต้องนำศพใส่ถุงห่อศพขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ แล้วก็ยังมีคิวยาวรอเผาศพอีก พวกเขาก็ยังต้องรอเพื่อประกอบพิธี เช้าวันรุ่งขึ้นลูกชายเป็นคนไปเก็บอัฐิ.

——————-

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AP