นักฟุตบอลสมัยนี้มักไม่ค่อยมีเวลาให้กับสื่อมากนัก พวกเขาจะโฟกัสไปที่การเล่น แต่ก็มีหลายครั้งที่พวกเขาใช้นักข่าวเพื่อระบายความหงุดหงิดหรือความผิดหวังของพวกเขา
ปัจจุบันบรรดานักฟุตบอลมักจะระบายความคับข้องใจของตนลงบนโซเชียล มีเดีย แต่ก็ยังมีบางคนที่ใช้วิธีการแบบเก่าในการสัมภาษณ์แบบเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเพื่อระบายรู้สึกของพวกเขา ในขณะที่นักกีฬาซุป’ตาร์หลายคนมองว่าไม่สะดวกใจที่คุยกับสื่อนัก แต่ก็มีไม่น้อยที่ใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารความคิดของพวกเขาไปยังชาวโลก และบางครั้งสิ่งนี้ก็ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ผู้เล่นหลายคนต้องออกจากสโมสรในเวลาไม่นาน, ทำให้ชื่อเสียงของตัวเองเสื่อมเสีย หรือแม้แต่ตกเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก วันนี้เราขอนำเสอน 7 บทสัมภาษณ์ทิ้งบอมบ์ที่ร้อนแรงที่สุดที่นักฟุตบอลเคยให้ไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
รอย คีน – MUTV
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อมิดเดิ้ลสโบรห์ที่ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยมในปี 2005 พวกเขาแพ้ 4-1 ต่อทีมแห่งตะวันออกเฉียงเหนือและหลายคนก็ไม่พอใจกับฟอร์มการเล่น แน่นอนว่า รอย คีน เป็นหนึ่งในนั้น เขาต้องออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บ หลังการแข่งขัน MUTV ไปสัมภาษณ์เขาและเจ้าตัวก็ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกด้วยการโจมตีผู้เล่นเกือบทุกคนที่ลงสนามในเกมนี้
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ – “เขาน่าจะเซฟลูกนั้นได้ (ประตู 30 หลาจาก กาอิซก้า เมนดิเอต้า) ลูกนั้นเซฟได้นะ”
ริโอ เฟอร์ดินานด์ – “มันเป็นการป้องกันที่แย่ แค่เพราะว่าคุณได้รับเงิน 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์และเล่นได้ดี 20 นาทีกับท็อตแน่ม คุณก็คิดว่าคุณเป็นซุป’ตาร์แล้วเหรอ”
จอห์น โอเชีย – “เขาแค่เดินเล่นไปรอบๆ ตอนที่เขาควรจะพยายามอย่างหนักเพื่อกลับมา”
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ – “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนในสก็อตแลนด์ถึงชื่นชม ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ “
คีแรน ริชาร์ดสัน – “เขาเป็นกองหลังที่เกียจคร้านซึ่งสมควรโดนลงโทษ เขาไม่ได้ทำหน้าที่ของเขา”
อลัน สมิธ – “เขาไปทำอะไรที่นั่น? เขาเดินไปรอบๆ ราวกับว่าเขาหลงทาง เขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่” “เมื่อพวกเขา [ผู้เล่นอายุน้อย] เซ็นสัญญา พวกเขาคิดว่าพวกเขาทำได้แล้ว พวกเขาเป็นหนี้ผู้จัดการทีม ทีมงาน และแฟนๆ พวกเขาคิดว่าพวกเขาทำได้แต่ความจริงแล้วยังไม่ได้”
ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ – Sky Sports
ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ เชื่อมโยงกับการย้ายออกจากเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในเดือนมกราคม 2013 และเจ้าตัวก็สามารถกดดันทีมให้ปล่อยตัวเขาในวันเดดไลน์ตลาดนักเตะเดือนมกราคม กองหน้าชาวไนจีเรียตัดสินใจขับรถเป็นระยะทาง 125 ไมล์ไปยังลอฟตัส โร้ด แต่ปัญหาคือดีลยังไม่ได้มีการตกลงกัน และเมื่อเขามาถึงก็พบว่าดีลการย้ายทีมของตนเองได้ล่มไปเสียแล้ว โอเด็มวิงกี้ จึงได้ให้สัมภาษณ์สุดช็อคผ่านกระจกรถของเขาในขณะนั้น
“เวสต์บรอมคือความหวังของผม แต่มันคือบทใหม่ในชีวิตของผม ผมรักเวสต์บรอมและจะรักตลอดไป” เขากล่าวกับ Sky Sports ในลานจอดรถ “แฟนฟุตบอลทุกคนต่างสนใจที่จะดูว่าผมจะทำมันได้หรือไม่ ผมมองโลกในแง่ดีมากๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เล่นที่ดีบางส่วนมาถึงที่นี่ [คิวพีอาร์] แล้วและผมพอใจกับความไว้วางใจนั้น” เมื่อถูกถามว่าเขาจะเป็นผู้เล่นคิวพีอาร์หรือไม่ เขาตอบว่า: “ตอนนั้นยังไม่แน่นอน แต่ผมหวังว่าเวสต์บรอมจะมีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาได้รับ และแน่นอน พวกเขาหวังว่าจะได้ผู้เล่นสองสามคนด้วยตัวเขาเอง ผมแค่หวังว่าสิ่งต่างๆ จะผ่านไปด้วยดีใน 2-3 ชั่วโมงสุดท้าย”
แต่การย้ายทีมไม่เคยเกิดขึ้นจริงและท่าทีของเขาในครั้งนี้ทำให้สตีฟ คลาร์ก ไม่พอใจจนกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆ ของทีม ฤดูร้อนถัดมา เขาถูกขายให้คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ด้วยราคา 2.25 ล้านปอนด์
ยาย่า ตูเร่ – France Football
ยาย่า ตูเร่ อาจเป็นตำนานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เขาจากสโมสรไปด้วยการทำให้ผู้คนรู้สึกแย่ หลังจากออกจากสโมสรเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2017/18 อดีตกองกลางรายนี้ให้สัมภาษณ์โดยมีการกล่าวหาที่ร้ายแรงต่อบอสของเขาอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขาบอกกับ France Football ว่า “เขาโหดร้ายกับผม คุณคิดจริงๆ เหรอว่าเขาจะเป็นแบบนั้นกับอิเนียสต้า? มันถึงจุดที่ผมถามตัวเองว่าเป็นเพราะสีผิวของผมหรือเปล่า ผมไม่ใช่คนแรก นักเตะบาร์ซ่าคนอื่นๆ ก็ถามคำถามนี้เหมือนกัน”
“บางทีพวกเราชาวแอฟริกันอาจไม่ได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันจากคนบางคนเสมอไป เมื่อคุณเห็นปัญหาที่เขา (เป๊ป) มักมีกับนักเตะแอฟริกัน ทุกที่ที่เขาไป ผมถามคำถามกับตัวเอง เป๊ปฉลาดเกินกว่าจะโดนจับได้ เขาจะไม่มีวันยอมรับมัน (ไม่ชอบชาวแอฟริกัน) แต่วันที่เขาเลือกทีมที่มีชาวแอฟริกันห้าคนเข้ามา ผมสัญญาว่าจะส่งเค้กให้เขา!”
อย่างไรก็ตาม ตูเร่สำนึกผิดกับคำพูดของเขาและกล่าวว่าความพยายามของเขาที่จะคืนดีกับกวาร์ดิโอล่าล้มเหลว “เมื่อมีบางอย่างผิดพลาดและคุณทำผิด หรือมีคนใช้ชื่อของคุณและใช้คุณทำในสิ่งที่ผิด คุณต้องทำให้มันโอเค” ตูเร่กล่าวกับ The Athletic เมื่อปีที่แล้ว “สิ่งนี้มันผิด ผมอยากจะขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ผมอยากจะขอโทษที่ทำอะไรผิดไป” “เราตัดสินใจที่จะสื่อสารกับบุคคลสำคัญบางคนที่สโมสรเพื่อขอโทษ [สำหรับความคิดเห็นที่มีต่อกวาร์ดิโอล่า] และบอกว่าผมทำตัวไม่เหมาะสมกับสโมสรตั้งแต่นั้นมา ผมก็รอคำตอบอยู่นานมากๆ แต่เราก็ไม่ได้” “และแน่นอน ถ้าเขารู้สึกแบบนั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอน ผมได้ติดต่อกับบางคนที่นั่น แต่ผู้บริหารระดับสูง มันเป็นไปไม่ได้”
ลิโอเนล เมสซี่ – GOAL
ลิโอเนล เมสซี่ เขย่าโลกของตลาดนักเตะ เขายอมรับในรายการถ่ายทอดสดว่าเขาต้องการออกจากบาร์เซโลน่าหลังเริ่มเล่นที่นั่นมาตั้งแต่เด็กๆ ในปี 2020 หลังจากสองทศวรรษกับยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังได้พูดคุยกับ Goal โดยอธิบายว่าทำไมเขาถึงต้องการย้าย เมสซี่กล่าวว่า “แน่นอนว่าผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจ มันไม่ได้มาจากผลการแข่งขันกับบาเยิร์น มันมาจากหลายๆ อย่าง” “ผมพูดเสมอว่าผมอยากจบที่นี่ และผมพูดเสมอว่าอยากอยู่ที่นี่ต่อไป ว่าผมต้องการโปรเจ็กต์แห่งชนะและคว้าแชมป์กับสโมสร และอยู่ต่อป” “เพื่อขยายตำนานของบาร์เซโลน่า แต่ความจริงก็คือมันไม่มีโปรเจ็กต์หรืออะไรเลยมานานมากแล้ว พวกเขาเอาแต่เล่นปาหี่และอุดรูตรงนั้นตรงนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ ผมคิดถึงประโยชน์ของครอบครัวและสโมสรอยู่เสมอ”
สโมสรยืนยันว่าเมสซี่ได้ส่งเอกสารแสดงความปรารถนาที่จะใช้เงื่อนไขฉีกสัญญาที่จะยุติสัญญาของเขา แต่ปรากฏว่าที่สุดแล้วเขาก็ลงเอยด้วยการอยู่กับสโมสรต่อไป ก่อนที่ย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแมงในปีต่อมา
ดีน เฮนเดอร์สัน – talkSPORT
ดีน เฮนเดอร์สัน ตราหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทำนองว่าเป็น ‘อาชญากร’ ในการสัมภาษณ์เพื่อระบายความรู้สึกของเขาเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้รักษาประตูรายนี้ซึ่งยังคงมีสัญญากับสโมสรแต่ปัจจุบันถูกปล่อยยืมตัวที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กล่าวพาดพิงสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก ว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเขาอย่างไรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่เขาถูกทิ้งให้นั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ โดยดาบิด เด เคอา ยังคงเป็นมือกาวหมายเลขหนึ่งต่อป เฮนเดอร์สันอ้างว่าสโมสรให้สัญญาที่จะมอบหมายเลข 1 ให้กับเขา แต่หลังจากนั้นก็ให้เขานั่งสำรองตลอดและไม่ปล่อยให้เขาออกจากทีมในเดือนมกราคม
“พูดตามตรงนะ มันอาจจะเป็นเวลา 12 เดือนที่ยากที่สุดในอาชีพค้าแข้งของผม” เฮนเดอร์สันเปิดเผยกับ talkSPORT “มันหนักหนา มันรุนแรง และผมดีใจมากที่ตอนนี้มันจบอีกแบบ” “การสนทนาที่ผมมีหลังกลับมาจากทีม [อังกฤษ] ชุดยูโรคือการที่คุณกลับมาที่นี่เพื่อเป็นผู้รักษาประตูหมายเลข 1 แต่ผมโชคร้ายที่ติดโควิด-19 จากนั้นผมกลับมา ผมควรจะยังคงเป็นมือ 1 แต่แล้วก็ไม่มีใครทำตามที่พวกเขาบอกผม” “มันน่าหงุดหงิดเหมือนกัน เพราะผมปฏิเสธการยืมตัวดีๆ มากมายเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วด้วยเหตุผลนั้น (ให้สัญญาว่าจะเป็นมือหนึ่ง) และพวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยผมไป” “การนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 12 เดือน มันเป็นอาชญากรรมชัดๆ กับคนอายุเท่าผม ผมโมโหมาก ผมบอกกับทีมว่า ผมต้องการเล่นฟุตบอลและปล่อยผมไป”
โรเมลู ลูกากู – Sky Italia
โรเมลู ลูกากู กลับมาค้าแข้งกับเชลซีอีกครั้งในซัมเมอร์ปี 2021 หลังจากห่างหายจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ไป 7 ปี กองหน้าที่เพิ่งมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่อินเตอร์กับการซัดไปถึง 30 ประตูจาก 44 เกมสำหรับทีมที่ตอนนั้นเป็นของอันโตนิโอ คอนเต้ ดังนั้นเดอะ บลูส์ จึงรู้สึกมั่นใจมากพอที่จะจ่ายค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสรที่ 97.5 ล้านปอนด์เพื่อนำกองหน้ารายนี้กลับมาสู่พรีเมียร์ ลีก แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่หลายคนหวัง แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดนวิจารณ์หนักมาก็คือบทสัมภาษณ์ทิ้งบอมบ์ที่เผยแพร่โดย Sky Italia ในปี 2021
“ตอนที่ผมอยู่ที่อินเตอร์ เมื่อสิ้นปีแรก ผมปฏิเสธข้อเสนอจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งสูงกว่าของเชลซีในช่วงซัมเมอร์นี้” ลูกากู กล่าว “ในความเห็นของผม สามทีมระดับท็อปอย่างแท้จริงในวงการฟุตบอลก็คือเรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิค นักเตะทุกคนใฝ่ฝันที่จะเล่นให้กับหนึ่งในนั้นในสักวันหนึ่ง ดังนั้นผมคิดว่าหากผมมีโอกาสนั้น ผมจะเซ็นสัญญาใหม่กับอินเตอร์แล้วไปที่นั่น” “แต่มันไม่เกิดขึ้น ผมเลยบอกตัวเองว่ามีเพียงทีมเดียวที่จะได้เห็นตัวเองอยู่ที่นั่น ทีมนั้นก็คือเชลซี ผมไม่เคยคิดที่จะไปที่นั่น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็เข้ามาหาผม ผมก็เลยขอ [ซิโมเน่] อินซากี้ (กุนซืออินเตอร์) ย้ายทีม” “ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้พยายามให้ผมเซ็นสัญญาฉบับใหม่ทำให้ผมหงุดหงิดเล็กน้อย มันทำให้ผมเจ็บปวดด้วยซ้ำ ถ้าอินเตอร์เสนอสัญญาใหม่ให้ผม ผมก็จะอยู่ต่อ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย”
หลังจากปีที่ย่ำแย่ที่เชลซีกับการทำไป 15 ประตูจาก 44 เกม ลูกากูก็ถูกส่งตัวกลับไปยืมตัวอินเตอร์ทีมอันเป็นที่รักรักของเขา ดูเหมือนเป็นไปได้ว่าเขาจะไม่เล่นให้สิงห์บลูส์อีก
แฮร์รี่ เคน – The Overlap
แฮร์รี่ เคน ทำให้แฟนๆ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ช็อคเมื่อเขาพูดถึงอนาคตของเขากับแกรี่ เนวิลล์ ในช่องยูทูบ Overlap ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินอยู่ในสนามกอล์ฟ นักเตะทีมชาติอังกฤษกล่าวว่า “สำหรับผม ผมไม่ต้องการที่จะจบอาชีพการค้าแข้งด้วยความรู้สึกเสียใจใดๆ ดังนั้นผมต้องการทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเคยพูดมาก่อนหน้านี้ ว่าผมไม่เคยพูดว่า ผมจะอยู่กับสเปอร์สตลอดช่วงที่เหลือของอาชีพค้าแข้ง และผมก็ไม่เคยพูดว่า ผมอยากจะอำลาสเปอร์สเช่นกัน ผมอยู่ในช่วงเวลาที่ผมสามารถพูดได้แล้ว ผู้คนอาจจะมองว่า ผมกระสันแชมป์ ผมอยากได้แชมป์”
“ผมแค่รู้สึกว่า ยังมีเส้นทางการค้าแข้งให้ผมเล่นอยู่ ผมน่าจะมีเวลาอีกสัก 7 หรือ 8 ปี ซึ่งก็นานพอๆ กับที่ผมค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก มาแล้ว ดังนั้นผมคงไม่เร่งอะรหรอก ผมไม่กระสันที่จะทำอะไรหรอก แต่แน่นอนว่าผมอยากเป็นตัวผมเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ผมรู้สึกว่าผมยังสามารถมอบอะไรได้อีกมากมายอย่างแน่นอน ผมยังรู้สึกว่าผมสามารถเก่งขึ้นไปได้มากกว่านี้ ผมสามารถมอบตัวเลขที่ดีกว่าที่ผมสามารถมอบออกมาในตอนนี้ได้”
ฤดูร้อนต่อมาคือบททดสอบครั้งใหญ่ของสเปอร์สจากแมนฯ ซิตี้ ที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาสำหรับตัวแข้งรายนี้ แต่ทุกอย่างกลับออกมาดี เคนยังคงอยู่ที่สเปอร์สซึ่งกลับมาเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็ได้เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ไปร่วมทีมแล้ว