เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกเกมส์” จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ แม้ครั้งนี้มันจะดูแปลกๆไปสักหน่อยกับ “โตเกียวเกมส์” ที่ได้รับผลกระทบ จังเบ้อเร่อจากเจ้าโควิด-19
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่า มนุษย์เราไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรคใดๆ แม้มันจะหนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม ขอต้อนรับเข้าสู่ “ฟอลโลว์ โตเกียวเกมส์” คอลัมน์เฉพาะกิจของกราวกีฬาไทยรัฐฯ
วันนี้ถือเป็นวันประเดิมเขียนของผม เลยอยากจะเริ่มต้นด้วยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้โดยสังเขป ก่อนที่พิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 ก.ค.นี้
โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 32 ในประวัติศาสตร์ และประเทศญี่ปุ่นได้รับเกียรติให้วนมาเป็นเจ้าภาพรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 18 เมื่อปี 1964
ว่ากันว่าญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณราวๆ 5 แสนล้านบาท เพื่อเนรมิตการแข่งขัน “โตเกียวเกมส์ 2020” ซึ่งมีการแข่งขันทั้งหมด 33 ชนิดกีฬา ชิงชัย 339 เหรียญทอง โดยการแข่งขันจะจัดให้มีขึ้นที่สนามกีฬา 43 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น
โดยมีกีฬาที่ได้รับการบรรจุใหม่ หรือได้รับการบรรจุกลับเข้ามา 5 ชนิด อันประกอบด้วย 1.เบสบอล (ชาย) และซอฟต์บอล (หญิง) 2.ปีนหน้าผา (sport climbing) 3.คาราเต้ (Karate) 4.กระดานโต้คลื่น (surfing) 5.สเกตบอร์ด (skateboarding)
สถานที่จัดการแข่งขัน 28 จาก 33 กีฬา จะจัดการแข่งขันในกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ภายใน 8 กิโลเมตร (5 ไมล์) ของหมู่บ้านนักกีฬา และมีการ สร้างสนามขึ้นมาใหม่ถึง 11 สนามด้วยกัน ครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดประมาณ 11,100 คน จาก 206 ชาติสมาชิกทั่วโลก
โดยนักกีฬาจากประเทศไทยได้โควตาไปร่วมชิงชัยทั้งหมด 41 คน จาก 15 ชนิดกีฬา แบ่งเป็นชาย 15 คน และหญิง 26 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ทีมมี 33 คน แยกเป็นผู้จัดการทีม 15 คน ผู้ฝึกสอน 13 คน และอื่นๆเฉพาะกีฬาอีก 5 คน
จากข้อมูลที่ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) วิเคราะห์ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย คาดว่าทัพนักกีฬาไทยมีโอกาสที่จะคว้ามาได้ 1-3 เหรียญทอง จาก 5 ชนิดกีฬา
จัดแยกเป็นกลุ่มเป้าหมาย 2 ชนิดกีฬา ประกอบด้วยเทควันโดกับมวยสากลสมัครเล่น และกลุ่มที่มีโอกาสสูงได้แก่ กอล์ฟ ยิงเป้าบิน และแบดมินตัน
แน่นอนว่า “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวนักเทควันโดแรงกิ้งอันดับ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง เป็นความหวังเหรียญทองสูงสุดของไทย
เธอจะลงแข่งขันในวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่จะลงชิงเหรียญเสียด้วย แม้จะแบกรับความกดดันเอาไว้มหาศาล แต่หลายฝ่ายรวมทั้งตัวของเธอเองก็ยังคงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
แฟนกีฬามาช่วยลุ้นกันอีกแรงครับ ถ้าได้เข้าชิงฯเปิดหน้าจอรอไว้เลย ทุ่มตรงวันเสาร์นี้.
พาวเวอร์บอมบ์
เผยแพร่: 31 พ.ค. 256…
This website uses cookies.