เอสซีจี ประกาศสนับสนุนทัพนักกีฬาไทย “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แชมป์โลก และมือ 1 คู่ผสมโลก รวมถึงทีมเอสซีจี แบดมินตันอะคาเดมี่ และ 4 โปรกอล์ฟสาวไทย เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล, อาฒยา ฐิติกุล และ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ต่อเนื่อง รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ยันเดินหน้าวิทยาศาสตร์เสริมแกร่งนักกีฬาเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างผลงานระดับโลกในปี 2022 พร้อมปั้นนักกีฬาคลื่นลูกใหม่สานต่อความสำเร็จ ด้าน”บาส-ปอป้อ” ตั้งเป้าปี 2565 ป้องกันแชมป์โลก รวมถึงล่าแชมป์ออลอิงแลนด์ และเอเชียนเกมส์ ส่วน 4 สวิงสาวยันพร้อมมุ่งมั่น พัฒนาตัวเองเพื่อสร้างผลงานให้ดีที่สุดในทุกๆรายการที่ลงสนาม
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เป็นประธานในงานแถลงข่าวสนับสนุนนักกีฬาไทย จากเอสซีจี แบดมินตันอะคาเดมี่ นำโดย “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เจ้าของแชมป์โลกคู่ผสม 2021 และแชมป์ 8 รายการ คู่ผสมมือ 1 ของโลก และ 4 โปรกอล์ฟหญิงฝีมือระดับโลก “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล, “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล และ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ที่เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ เมื่อ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส เผยว่า เอสซีจี ยินดีกับความสำเร็จของนักแบดมินตัน และโปรกอล์ฟ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย จากผลงานการคว้าแชมป์ระดับโลกอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ “บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นคู่ผสมคู่แรกของไทยที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ อีกทั้งยังผงาดขึ้นมาเป็นคู่มืออันดับ 1 ของโลก หลังจบปีปฏิทินการแข่งขัน 2021 ด้วย ซึ่งความสำเร็จนี้ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เดินตามความฝัน สร้างความสำเร็จในระดับโลกเช่นเดียวกัน โดยตนอยากขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ทั้งผู้ฝึกสอนและทีมงานที่เตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างเต็มรูปแบบเพื่อช่วยยกระดับทักษะความสามารถของนักกีฬาไทยให้ก้าวขึ้นมาทัดเทียมระดับโลก
ด้าน “ปอป้อ” ทรัยพ์สิรี แต้รัตนชัย เผยว่า อยากขอขอบคุณเอสซีจี และคนไทยทุกๆคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจตนกับบาส และนักกีฬาไทยทุกคนมาโดยตลอด สำคัญที่สุดคืออยากขอบคุณทีมงานเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ที่ออกแบบวางแผนพัฒนาร่างกายควบคู่กับการยกระดับเทคนิค และปรับสภาพจิตใจ ภายหลังจบการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งแผนพัฒนาดังกล่าว ทำให้พวกเรานิ่งขึ้น และมีสมาธิมากขึ้น ซึ่งก็ช่วยได้เป็นอย่างมากในยามที่ต้องเล่นในแต้มสำคัญทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงไปถึงเป้าหมายแชมป์โลกที่เราทำได้สำเร็จด้วย
ขณะที่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ เปิดเผยว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ตนและพี่ปอป้อ ใช้ร่างกายและพลังงานเยอะมากจากต้องลงแข่งขันแบบติดๆกันมานับ 3 เดือน ซึ่งวิทยาศาสตร์การกีฬาของทีม ศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ มาช่วยเสริม ก็ถือว่าทำให้ร่างกายมีความสดชื่น มีความฟิตพร้อม
สำหรับลงเล่นในทุกๆแมตช์ สำหรับปี 2565 เราทั้งคู่ก็ตั้งเป้าพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเราทั้งคู่ก็วางเป้าหมายร่วมกันว่าอยากจะป้องกันแชมป์โลกให้ได้ และอยากจะคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ รวมถึงแชมป์รายการเก่าแก่ระดับตำนาน อย่าง ศึกออลอิงแลนด์ ที่อังกฤษ ให้ได้
ด้าน “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมือ 23 ของโลก เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาตนได้เห็นรุ่นน้องที่มีผลงานที่โดดเด่น จนเป็นแรงผลักดันที่ให้ตนอยากทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในการพักผ่อนช่วงปิดซีซั่น นอกจากการฝึกซ้อมกอล์ฟแล้ว ตนยังมีเวลาให้กับการออกำลังกายมากขึ้นด้วย ซึ่งส่วนนี้ตนถือว่าสำคัญมาก เพราะถือเป็นการพัฒนาร่างกายให้แข็งแกร่ง พร้อมกับการแข่งขันในแอลพีจีเอทัวร์ เกือบๆ 30 ทัวร์นาเมนต์ ที่ตนวางโปรแกรมจะลงแข่งขัน ส่วนปีนี้ ตนตั้งใจจะกลับมาคว้าแชมป์รายการใหญ่ให้ได้ ทำอันดับโลกให้ดีกว่าเดิม
ส่วน “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล มือ 34 ของโลก เผยว่า การทำให้ตัวเองให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ไม่ได้หมายถึงแค่ทักษะการเล่น แต่ยังหมายรวมถึงเรื่องจิตใจด้วย “โม” อยู่ในทัวร์มาหลายปี เรื่องสำคัญที่บอกตัวเองเสมอคือเรื่องการรักษาความมุ่งมั่น บอกตัวเองเสมอว่า นี่คือเกมที่เรารัก เกมที่เรามี “แพชชั่น” เป็นทั้งชีวิตและจิตใจเรา ส่วนเรื่องการพัฒนาทักษะ ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญในทุกๆจุด และที่ผ่านมามีการวิเคราะห์ตัวเอง ว่าดีตรงไหนและขาดตรงไหนบ้าง
ขณะที่ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยวัย 19 มืออันดับ 20 ของโลก เปิดเผยว่า ปี 2021 ถือเป็นปีที่ดีสำหรับตนเองมากๆ อะไรที่ดีอยู่แล้ว ตนก็จะรักษาเอาไว้และพัฒนาในสิ่งที่ยังมีจุดบกพร่องให้ดียิ่งๆขึ้นต่อไป ส่วนการได้ทัวร์การ์ดของแอลพีจีเอ 2022 ซึ่งถือเป็นทัวร์อันดับ 1 ของโลก เราอยากไปพิสูจน์ตัวเอง จะทำได้ดีแค่ไหน สำหรับตนมองว่านี่เป็นจุดเริ่มต้น การเล่นในยุโรปปีที่้ผ่านมา ถือว่าทำให้ตนเองได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง ทำให้เราสามารถพัฒนาแนวทางการเล่นได้ถูกต้อง เพื่อให้เกมนั้นมีคุณภาพขึ้นซึ่งในปีนี้ตนก็มองว่ายากและท้าทายกว่าเดิมด้วย
ปิดท้ายที่ “โปรเมียว” ปาจารีย์ อนันต์นฤการ สวิงสาวมือ 76 ของโลก เปิดใจว่า กอล์ฟถือเป็นกีฬาที่สอนให้ตนเองได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเสมอ ปีที่ผ่านมา ถือว่าตนได้พัฒนาเรื่้องการวางแผนและทัศนคติในสนามมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้เกมโดยรวมนั้นดีขึ้น ซึ่งแชมป์แรกทัวร์เมื่อปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นกำลังใจอย่างดี ในการเดินหน้าเป้าหมายของตนในปี 2565 ซึ่งปีนี้ก็จะพยายามโฟกัสกับเกม ตีให้อยู่ในแฟร์เวย์มากขึ้น เพื่อให้สามารถไปต่อในเกมการเล่นช็อตต่อๆไปของตัวเองได้
Add friend ที่ @Siamsport