‘เดอแชมโบ-ลาฮิรี’ เชื่อมั่น ‘ลิฟ กอล์ฟ’ ตอกย้ำศักยภาพวงการกอล์ฟเอเชีย
การแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ ถือเป็นรายการกอล์ฟระดับโลกที่เป็นที่จับตามอง ซึ่งจะจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในแถบอาเชียนในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ที่สนามสโตนฮิลล์ ตอกย้ำศักยภาพของทวีปเอเชีย ในฐานะการแข่งขันกอล์ฟระดับโลกในภูมิภาคที่ได้รับเกียรติบรรจุในตารางการแข่งขันระดับนานาชาติ
ยอดนักกอล์ฟ 48 คนจากทั่วโลก รวมถึงแชมป์เมเจอร์ 12 คน และอดีตผู้เล่นอันดับ 1 ของโลกถึง 4 คน จะเดินทางมาร่วมการแข่งขันที่สนามสโตนฮิลล์ สนามกอล์ฟแห่งใหม่ล่าสุดของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นสนามแข่งขันแห่งแรกในทวีปเอเชียในฤดูกาลนี้ ก่อนที่จะไปจัดการแข่งขันที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และเป็นการแข่งขันรายการที่ 7 จากจำนวน 8 รายการทั้งสิ้นในฤดูกาลแรกนี้ และในฤดูกาลหน้าจะมีการแข่งขันมากถึง 14 รายการ ในเอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นจุดหมายสำคัญของการแข่งขันลิฟ กอล์ฟ นอกจากนี้ ยังมีการจัดการแข่งขันในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ออสเตรเลีย และทวีปยุโรป
ลิฟ กอล์ฟ ได้ทุ่มทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในทวีปเอเชียสำหรับการจัดการแข่งขันในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยมีเงินรางวัลที่สูงขึ้นร่วมกับ เอเชี่ยน ทัวร์ ครอบคลุมประเทศไทย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อียิปต์ โมร็อกโก และอังกฤษ ในฤดูกาลนี้ โดยนักกอล์ฟชั้นนำของ ลิฟ กอล์ฟ ต่างออกมาพูดถึงความเชื่อมั่นในและให้ความสำคัญของการพัฒนากีฬากอล์ฟไปทั่วโลก
ไบรสัน เดอแชมโบ แชมป์ยูเอส โอเพ่น 2020 และกัปตันทีม Crushers กล่าวว่า กอล์ฟเป็นกีฬาของคนทั่วโลก และหลังจากที่ได้เดินทางแข่งขันที่ดูไบ และได้มีโอกาสได้คว้าแชมป์ต่างๆ ทั่วโลก ได้มีโอกาสได้เล่นในสหราชอาณาจักร และทำผลงานที่ดี แม้กระทั่งช่วงที่ยังเป็นมือสมัครเล่นในระดับมหาวิทยาลัย ก็ยังได้มีโอกาสได้เข้าแข่งขันรายการ เวิร์ด อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่น
“ผมได้มีโอกาสเข้าแข่งขันในรายการออสเตรเลียน มาสเตอร์ และออสเตรเลียน โอเพ่น ในระดับสมัครเล่น ผมรู้ทันทีว่ากีฬากอล์ฟนี้ไม่ได้เป็นกีฬาเล็กๆ อีกต่อไป โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกากีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมระดับโลก”
โดยในฤดูกาลนี้ สมาชิกทีม Crushers ได้รวมเอาดาวดังของวงการกอล์ฟระดับนานาชาติมาไว้ด้วยกัน อาทิ พอล เคซีย์ และ ริชาร์ด แบลนด์ จากประเทศอังกฤษ, อนีร์บาน ลาฮิรี จากอินเดีย, ฌอน นอริส กับ จัสติน ฮาร์ดิ้ง 2 โปรหนุ่มดาวรุ่งแอฟริกาใต้ และ เทรวิส สมิธ มือดีจากออสเตรเลีย ซึ่ง เดอแชมโบ เชื่อว่าการรวมนักกอล์ฟชั้นนำจากนานาชาติไว้ในทีม จะเปิดตลาดผู้รับชมให้หลากหลายยิ่งขึ้นและสามารถยกระดับกีฬากอล์ฟให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก
“ผมมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่ผมมีลาฮีรี และเคซีย์เป็นผู้เล่นในทีม ผู้เล่นทั้งสองคนเป็นนักกอล์ฟระดับโลก และนี่จะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายในการพัฒนากีฬากอล์ฟได้ ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่รู้จักกีฬากอล์ฟ ผมอยากจะสร้างปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านั้น ผมต้องการสร้างโอกาสที่จะนำพากีฬานี้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งผมคิดว่าทีม Crushers และลิฟ กอล์ฟ จะสามารถให้กีฬากอล์ฟประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายของเรา” เดอแชมโบ กล่าว
ด้าน อนีร์บาน ลาฮิรี ดาวรุ่งจากประเทศอินเดีย กล่าวถึงความน่าตื่นเต้น และความสนุกสนานที่เขาสามารถสัมผัสได้ในประเทศอินเดียและในทวีปเอเชีย หลังจากที่ได้เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของลิฟกอล์ฟเพียงหนึ่งเดือน โดย ลาฮิรี ซึ่งพ่ายเพลย์ออฟในการเล่น 3 คนกับ ดัสติน จอห์นสัน จากสหรัฐฯ และจาคิน นีมันน์ จากประเทศชิลี ในรายการ ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นแนล ที่บอสตัน กล่าวว่า มุมมองของคนดูจากประเทศอินเดียคือพวกเขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ชมและเชียร์นักกอล์ฟที่มาจากประเทศของเขาในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแข่งขันนี้จะจัดขึ้นในทวีปเอเชีย
“เท่าที่ผมทราบมีเพื่อนผมอย่างน้อย 20 คนจะบินจากประเทศอินเดียไปชมการแข่งขันที่กรุงเทพฯ นี่ยังไม่รวมถึงแฟนๆ จากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และที่อื่นๆ กอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแท้จริงในทวีปเอเชีย แฟนกีฬากอล์ฟมองว่านี่เป็นโอกาสที่สำคัญอย่างมากที่จะผลักดันให้กีฬากอล์ฟได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต ไม่ใช่เพียงพัฒนาการของ เอเชี่ยน ทัวร์ แต่พวกเขายังจะได้เห็นนักกอล์ฟที่เขาชื่นชอบ และชมบรรยากาศอันสนุกสนานของการถ่ายทอดสดของการแข่งขัน ผมดีใจมากที่ทุกคนจะสัมผัสบรรยากาศของการแข่งขันกอล์ฟในรูปแบบใหม่นี้”
ลาฮิรี ยังได้กล่าวถึงแนวทางของการถ่ายทอดสดผ่านทางยูทูป ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟนกีฬากอล์ฟได้ชม และเชียร์ผู้เล่นที่ตนชื่นชอบได้ใกล้ชิดมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมในระดับนานาชาติต่อไปในอนาคต
“ถึงแม้ผมกำลังแข่งอยู่ ณ จุดใดในสนาม ผู้ชมสามารถเห็นการเล่นของผมได้ และจะมีคำบรรยายประกอบกับการเล่นของเราด้วย ถ้าคุณติดตามทีมของเรา ผู้ที่ติดตามผมก็มักจะติดตามทีมของผมด้วย และนี่คือสิ่งสำคัญมากสำหรับทีมทุกทีมที่จะมีฐานแฟนผู้ติดตามมากขึ้น มันเป็นกลไกที่เยี่ยมยอดโดยเฉพาะในประเทศที่กีฬากอล์ฟกำลังได้รับความนิยมสูง คนส่วนใหญ่พยายามจะมีส่วนร่วมมากขึ้นกับกีฬากอล์ฟ และนี่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีมากในการสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและกีฬากอล์ฟ” ลาฮิรี กล่าว
สำหรับแฟนกีฬากอล์ฟสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นแนล แบงคอก ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ ได้แล้วที่ LIVGolf.com หรือ thaiticketmajor.com โดยบัตรเข้าชมทั่วไป แพคเกจ 1 วัน ราคา 800 บาท แพคเกจ 3 วันราคา 1,600 บาท นอกจากนี้ แพคเกจพิเศษ 1 วัน และ 3 วัน สำหรับโซนคลับ 54 และ แกลเลอรี่ คลับ