หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีชุดไหนบ้างที่ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อได้ พร้อมเช็กอัตราดอกเบี้ยของแต่ละรุ่น
หุ้นกู้ หรือ ตราสารหนี้เอกชน ส่วนใหญ่จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ แต่ก็มีหลายบริษัทที่ออกหุ้นกู้เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป และมักจะเต็มภายในเวลารวดเร็ว เพราะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากทั่วไป ดังนั้น ถ้าใครสนใจลงทุน ประเภทนี้ควรศึกษาข้อมูลเอาไว้ก่อน พร้อมเช็กหน่อยว่า หุ้นกู้ออกใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ให้คนทั่วไปจองซื้อได้มีรุ่นไหนบ้าง
หุ้นกู้ คือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทภาคเอกชน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Corporate Bond หรือ Debenture มีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในกิจการต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การลงทุนขยายกิจการ หรือซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เมื่อซื้อหุ้นกู้แล้วผู้ซื้อก็จะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วนบริษัทที่ออกหุ้นกู้จะมีฐานะเป็นลูกหนี้ โดยที่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะต้องชำระดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ตลอดช่วงอายุของหุ้นกู้ และชำระเงินต้นคืนในวันที่ครบกำหนดอายุของหุ้นกู้
ในประเทศไทยนั้น หุ้นกู้จะมีมูลค่าหน่วยละ 1,000 บาท และส่วนใหญ่จะกำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 100 หน่วย หรือ 100,000 บาท โดยติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายตามประกาศของหุ้นกู้แต่ละบริษัท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีการเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิทัลที่สามารถซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งหุ้นกู้บางรุ่นให้เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000-5,000 บาท
หุ้นกู้จะมีอยู่หลายลักษณะ ได้แก่
โดยหากจัดอันดับสิทธิ์ในการเรียกร้องสินทรัพย์ หรือการได้รับคืนเงินต้นจากผู้ออกตราสารเมื่อกิจการล้มละลาย จะเป็นดังนี้
– ลำดับที่ 1 หุ้นกู้มีประกัน
– ลำดับที่ 2 หุ้นกู้ไม่มีประกัน
– ลำดับที่ 3 หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
– ลำดับที่ 4 หุ้นบุริมสิทธิ
– ลำดับที่ 5 หุ้นสามัญ
การซื้อหุ้นกู้คือการให้บริษัทกู้ยืมเงิน ดังนั้นจึงควรดูให้แน่ใจก่อนว่าบริษัทมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ฐานะการเงินเป็นอย่างไร จะมีเงินจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้เราได้หรือไม่ โดยสามารถพิจารณาได้จากอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่จัดทำโดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไปจนถึง AAA จัดเป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) เพราะออกโดยบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการดี มีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนค่อนข้างต่ำ
แต่หากเป็นหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา จนถึง D จะเป็นหุ้นกู้ในกลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน (Non-Investment Grade) นอกจากนี้ที่ต้องระวังในการลงทุนคือ หุ้นกู้ในกลุ่มไม่มีเรตติ้ง (Unrated) ที่แม้จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้เงินลงทุนคืนกลับมาสูงตามไปด้วย
หุ้นกู้จะกำหนดอายุเอาไว้ เช่น 1 ปี 6 เดือน , 4 ปี, 10 ปี เป็นต้น เมื่อครบกำหนดบริษัทจะคืนเงินต้นให้กับผู้ลงทุน ซึ่งควรเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุสอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องการลงทุน แต่ก็มีหุ้นกู้ประเภทที่มีเงื่อนไขสามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้อยู่ 2 กรณี คือ บริษัทสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด หรือการที่ผู้กู้ขอคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด และอีกกรณีคือ ผู้ถือหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด หรือการที่ผู้ให้กู้ขอเงินกู้คืนก่อนครบกำหนด
โดยทั่วไปแล้วหุ้นกู้จะมีรูปแบบการจ่ายดอกเบี้ย 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ แบบกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ตายตัวตลอดระยะเวลาของหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี กับแบบกำหนดเป็นขั้นบันได ซึ่งปกติจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น เช่น หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 3% ต่อปี และปีที่ 3 เท่ากับ 4% ต่อปี ทั้งนี้ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของหุ้นกู้ หรืออายุของหุ้นกู้ นอกจากนี้ดอกเบี้ยที่ได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ด้วย
บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะเสนอขายหุ้นกู้ตามกลุ่มนักลงทุน ดังนั้นก่อนซื้อต้องศึกษาให้ดีว่าเรามีสิทธิ์ซื้อหรือไม่ โดยแบ่งกลุ่มผู้ลงทุนออกเป็น 4 ประเภท คือ
แต่ในกรณีที่มีฐานะทางการเงินไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาคุณสมบัติด้านความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนเพิ่มเติม โดยหากเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ก็สามารถเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ได้
4. ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering : PO) คือ ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหุ้นกู้ได้
ความเสี่ยงของหุ้นกู้หลัก ๆ นั้นจะมีอยู่ 3 ด้าน คือ
นอกจากนี้ หากผู้ออกหุ้นกู้ประสบปัญหาทางการเงิน อาจจะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหรือคืนเงินต้นให้เราได้ เท่ากับผิดนัดชำระหนี้ (Default) ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป
หุ้นกู้ทุกประเภทจะกำหนดกลุ่มผู้ซื้อไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดให้ผู้ลงทุนรายใหญ่หรือผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อ แต่ก็ยังมีหุ้นกู้บางตัวที่เปิดให้นักลงทุนทั่วไป (PO) สามารถซื้อได้ อย่างที่เรารวบรวมข้อมูลมาบอกกัน
ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์เสนา, นิช โมโน, เฟล็กซี่ และยังมีธุรกิจในเครืออีกมากมาย ทั้งเสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่, เสนาเฟสท์, สนามกอล์ฟพัทยา คันทรี คลับ ฯลฯ เปิดให้จองหุ้นกู้ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 1 ชุด
อายุและอัตราดอกเบี้ย : อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB แนวโน้มลบ
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
วันที่เปิดจอง : 31 มกราคม และ 1-2 กุมภาพันธ์ 2566
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร รวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลายด้าน ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรม โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ให้เช่าศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจบันเทิง และธุรกิจจัดจำหน่าย เปิดให้จองหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ (Perpetual Bond) จำนวน 1 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ประเภทหุ้นกู้ : หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียวเมื่อเลิกบริษัท หรือเมื่อผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใด ๆ ได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
อัตราดอกเบี้ย :
ปีที่ 1-5 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.10% ต่อปี
ปีที่ 6-25 : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 0.25% ต่อปี
ปีที่ 26-50 : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 1.00% ต่อปี
ปีที่ 51 เป็นต้นไป : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Intial Credit Spread 4.20% ต่อปี + 2.00% ต่อปี
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 6 เดือน
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
ระดับความเสี่ยง : 7 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : บริษัทมีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
วันที่เปิดจอง : 7-9 กุมภาพันธ์ 2566
ช่องทางการขาย : ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า
ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ ทรูมูฟ เอช เสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด ดังนี้
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568
อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
อายุ 5 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.05% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มบวก
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
การไถ่ถอนก่อนกำหนด :
ชุดที่ 1-2 ไม่มี
ชุดที่ 3-4 ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
วันที่เปิดจอง : 13-15 กุมภาพันธ์ 2566
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารทหารไทยธนชาต (สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อโฉนดที่ดินและสินเชื่อส่วนบุคคลแก่ลูกค้ารายย่อย ออกหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
อายุและอัตราดอกเบี้ย :
อายุ 1 ปี 6 เดือน 6 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2567
อายุ 2 ปี 24 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568
อายุ 3 ปี 23 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2569
อายุ 4 ปี 22 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
อายุ 5 ปี 21 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2571
จ่ายดอกเบี้ย : ทุก 3 เดือน
อันดับความน่าเชื่อถือ : BBB+ แนวโน้มคงที่
ระดับความเสี่ยง : 5 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน (เฉพาะบุคคลธรรมดา) และผู้ลงทุนรายใหญ่
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
วันที่เปิดจอง : 16-17 และ 20 กุมภาพันธ์ 2566
ช่องทางการขาย : ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า
ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ ภายใต้แบรนด์ 7-Eleven ในประเทศ เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
อายุ 4 ปี รอประกาศอัตราดอกเบี้ย (คาดว่า 2.95-3.10% ต่อปี) ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570
อายุ 7 ปี รอประกาศอัตราดอกเบี้ย (คาดว่า 3.55-3.75% ต่อปี) ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2573
อายุ 12 ปี รอประกาศอัตราดอกเบี้ย (คาดว่า 4.20-4.35% ต่อปี) ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2578
อันดับความน่าเชื่อถือ : A+แนวโน้มคงที่
ระดับความเสี่ยง : 3 (จากทั้งหมด 8 ระดับ)
การไถ่ถอนก่อนกำหนด : ไม่มี
ผู้มีสิทธิ์จองซื้อ : ประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ : 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
วันที่เปิดจอง : คาดว่า 20-22 กุมภาพันธ์ 2566
ช่องทางการขาย : ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร
ภาพจาก : Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
บริษัทประกอบธุรกิจพลังงาน ทั้งธุรกิจค้าและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว แอมโมเยีน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่น ๆ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ผลิตและจำหน่ายเอทานอล ธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวในต่างประเทศ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และธุรกิจให้บริการเช่าคลังเก็บสินค้าเหลวและท่าเทียบเรือน้ำลึก เสนอขายหุ้นกู้ 1 ชุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
สำหรับใครที่ต้องการทราบรายละเอียดของข้อมูลหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขายในเดือนนี้ ก็สามารถเข้าไปดูรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือ เฟซบุ๊ก ThaiBMA อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจนะคะ
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thaibma : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (1), (2), (3), (4), (5)
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (1), (2), (3), (4), (5), (6), Youtube ThaiBMAChannel
เผยแพร่: 31 พ.ค. 256…
This website uses cookies.