“องอาจ” เสนอ “บิ๊กตู่” เปิดค่าย ทหารทำรพ.สนามแล้ว – บ้านเมือง

วันศุกร์ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 11.48 น.

วันที่ 23 ก.ค.2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า เฟซบุ๊กศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบกได้เผยแพร่ข้อมูลระบุว่ากองทัพบกได้เริ่มตั้งศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 เพื่อเป็นสื่อกลางช่วยผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบรักษาไปยังศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิดของรัฐบาล (อาคารนิมิบุตร) หรือสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงช่วยเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ ทั้งโรงพยาบาลสนาม ทบ. 18 แห่ง โรงพยาบาลค่าย ทบ. 29 แห่ง และศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) 17 แห่ง 

รวมถึงมีฌาปนสถานของ ทบ.อีก 4 แห่งไว้รองรับ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่กองทัพบกได้เริ่มเข้ามาช่วยรับ-ส่งฟรี 24 ชั่วโมง ทั้งผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้หายป่วยเคลื่อนย้ายศพและฌาปนกิจศพ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินการสามารถช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้มากขึ้น เพราะแนวโน้มการแพร่ระบาดยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง ตนจึงขอเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ดังนี้ 1.ควรนำค่ายทหารทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายทหารในกรุงเทพฯ มาทำเป็นโรงพยาบาลสนาม และจุดพักคอยเพิ่มขึ้น

          

นายองอาจ กล่าวอีกว่า 2.ควรแปรสภาพศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 ของกองทัพบกให้เป็นศูนย์ของกองทัพไทย รวมถึงประสานให้กองทัพเรือและกองทัพอากาศเข้ามาทำงานช่วยเหลือประชาชนด้วย 3.ควรสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอต่อการทำงานอย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยผู้นำหน่วยไปหางบทำงานกันเอง ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์สามารถทำตามข้อเสนอนี้ได้ จะช่วยผู้ป่วยติดเชื้อและครอบครัวได้อีกจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐดีขึ้นอย่างแน่นอน


ผบ.ทบ.สั่งนำเครื่องบินลำเลียง 295 ส่งผู้ป่วยสีเขียวรักษาโควิดที่บ้านเกิด

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้นำเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 มาใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปส่งยังภูมิลำเนาทั่วประเทศ โดยเน้นส่งผู้ป่วยไปยังจังหวัดพื้นที่ห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร และต้องใช้เวลานาน หากเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งกองทัพบกมีการปรับแต่งระบบต่างๆ ของอากาศยานเพิ่มเติม ปรับปรุงห้องโดยสารให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วยให้สามารถรองรับภารกิจได้ และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยเวชศาสตร์การบินทั้งนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว ที่มีความประสงค์จะกลับไปรักษายังภูมิลำเนา สามารถติดต่อไปยังศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบก (กทม.) หมายเลขโทรศัพท์ 02-270-5685-9 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ทหารช่าง-กองพลพัฒนาที่ 1”  เปิดค่ายสนับสนุนสถานที่พักคอยผู้ติดโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตรค่ายภาณุรังษี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี พลโทสุทิน เบ็ญจวิไลกุล เจ้ากรมการทหารช่าง นำคณะตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมสนับสนุนสถานที่พักคอยสำหรับประชาชน ในพื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี ที่มีผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด – 19 แล้ว ยังรอเตียงจากโรงพยาบาล โดยมีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ ตามที่กองทัพบกได้มีบัญชาให้ทหารในพื้นที่ทุกหน่วยให้การสนับสนุนและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19

 ทางกรมการทหารช่าง จึงได้เตรียมอาคารสำหรับประชาชนในครั้งนี้ เพื่อรองรับได้ถึงประมาณ 80 เตียง รองรับพี่น้องประชาชนได้พร้อมห้องน้ำ สาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้จังหวัดราชบุรีโดยทีมสาธารณสุขจังหวัดจะเข้ามาประเมินสำรวจและดำเนินการทันที ขณะเดียวกันที่กองพลพัฒนาที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนตะโก อ.เมือง ก็มีความพร้อมทั้งกำลังพล และเครื่องมือเครื่องจักรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถรองรับพี่น้องประชาชน 3 ตำบลในเขตอำเภอเมืองราชบุรี คือตำบลดอนแร่ ตำบลห้วยไผ่ และตำบลดอนตะโก ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ด้วย

          

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด–19 (ศบค.) วันนี้จังหวัดราชบุรีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 191 ราย

“สมชัย”แนะ”บิ๊กตู่” สั่งการใช้ค่ายทหารเป็นรพ.สนามรับผู้ป่วยโควิด

ทั้งนี้เมื่อเช้าของวันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า “ค่ายทหารมีไว้ทำไม”ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง โทรมาหาแลกเปลี่ยนความคิดว่า ในภาวะที่โรงพยาบาลขาดเตียง คนป่วยล้น คนติดใหม่เป็นหมื่น คนตายรายวันเป็นร้อย โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามเท่าที่มีอยู่ในภาวะล้นเกินกว่าที่จะรองรับได้อีกแล้ว ทำไมไม่เอาพื้นที่ในค่ายทหาร ซึ่งมีกระจายอยู่ประเทศมาสนับสนุนเป็นโรงพยาบาลสนาม

เลยลองค้นดูว่า ประเทศไทยมีค่ายทหารและหน่วยงานของทหารมิใช่น้อย ดังนี้ ทัพภาค 1 มี 26 ค่ายทหาร ทัพภาค 2 มี 16 ค่ายทหารทัพภาค 3 มี 23 ค่ายทหาร ทัพภาค 4 มี 12 ค่ายทหาร ทั้งนี้ ยังไม่รวม กทม. ที่ยังเป็นที่ตั้ง พล. 1 รอ. พล. ม. 2 รอ. และ เหล่าสนับสนุนการรบ เหล่าช่วยรบ และยังมีสนามกอล์ฟของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

          

“วันนี้ยังไม่เห็นการพยายามใช้ทรัพยากรเหล่านี้เพื่อมาช่วยแก้ปัญหา ผู้ใหญ่ใจดี ท่านเลยตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรให้ประเด็นนี้เป็นอีกทางเลือกหรือไม่ ผมเลยตั้งข้อสังเกตตามไปว่าอาจเป็นวันนี้ นายกรัฐมนตรีอาจยังไม่มีโอกาสคุยกับรมว. กลาโหม เมื่อวาน(20 กรกฎาคม) ในที่ประชุม ครม. ท่านสั่งทุกกระทรวงให้ระดมทรัพยากรมาแก้ปัญหาโควิด สั่งรัฐมนตรีทุกกระทรวง แต่ลืมสั่ง รมว.กลาโหม ” นายสมชัย ระบุ

          

นายสมชัย ระบุทิ้งท้ายว่า”กล้า ๆ หน่อย คุณประยุทธ์”

“บิ๊กตู่”สั่งแล้ว! ปรับสโมสร ตร.และทหาร เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด

ต่อมาวันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 พล.ท.คงชีพ  ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อ 09.30 น.วันนี้ (21ก.ค.)  พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัด กห.ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 

ภาพรวมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ ในพื้นที่ชายแดนยังคงพบจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาจับกุมได้ 288 คน โดยพบชาวลาวและกัมพูชามากขึ้น  สำหรับพื้นที่ชั้นในได้กระจายกำลังกันทำหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลประชาชน ตามมาตรการควบคุมโรคตามข้อกำหนดของ ศบค.ในพื้นที่สีแดงเข้ม จากการตั้งจุดตรวจร่วมตามเส้นทางต่างๆ และชุดสายตรวจเคลื่อนที่ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนด  พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและร่วมมือกันมากขึ้นในการหยุดเชื้อ โดยพบการเดินทางลดลงและมีการทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนมาตรการต่างๆลดลงตามลำดับ 

พล.อ.ชัยชาญ  ได้ย้ำว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กห.ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ประสานกับ สธ. พิจารณาปรับปรุงสโมสรทหารและตำรวจ ในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย หรือ รพ.สนาม ตามความเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่พักคอยและรักษาผู้ป่วย รองรับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่  และให้ กห.ประสานกับ อว. (กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม )  สนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ร่วมกับ รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัย รองรับดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆเสริมไปด้วยกัน

พร้อมกันนี้ นรม.และรมว.กห.ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน” ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จว.โดยให้ประสานทำงานร่วมกับ กทม. ฝ่ายปกครองและและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ทันทีภายใต้มาตรการที่สาธารณสุขกำหนด 

พร้อมกันนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับทุกเหล่าทัพ ให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา ที่สถานการณ์ของโรคระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น และขอให้ ตร.ให้การดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองเข้มในสถานกักควบคุมโรคที่กำหนด ทั้ง 8 แห่งใน 6 จว. พร้อมทั้ง ขอให้ดำรงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การบริจาคโลหิตให้กับผู้ป่วยเจ็บ ที่ยังอยู่ในสภาวะขาดแคลนเลือด  ทั้งนี้ ขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับกำลังพลในพื้นที่ด่านหน้าเป็นลำดับแรก หากได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่ม

กองทัพบก เปิด 37 จุดทั่วประเทศ ช่วยเหลือประชาชน            

กองทัพบก ได้ประชาสัมพันธ์ แจ้งประชาชนผู้ที่เดือดร้อน ติดขัดเรื่องการรักษาพยาบาล การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด การจัดพิธีศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยกองทัพบกได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลค่ายในจังหวัดต่างๆ 37 แห่งทั่วประเทศไว้รองรับผู้ติดเชื้อ

          

ก่อนหน้านี้ กองทัพบกจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 ทบ” เพื่อเป็นสื่อกลางช่วยผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบรักษา ไปยังศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ของรัฐบาล (อาคารนิมิบุตร) หรือสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการประสานศูนย์ควบคุมการเคลื่อนย้าย ศปม.ทบ. ในกรณีที่โรงพยาบาลต้องการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงไปยังโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ ตลอดจนให้การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายของประชาชนในทุกกรณีเมื่อได้รับการร้องขอ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถ ติดต่อได้ที่ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. ตลอด 24 ชม.