ปฏิรูปลุมพินี

นี่คือนโยบายของ “เสธ.แดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี ที่รับประกาศิตมาจาก “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในการจัดระเบียบสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่ให้สังคมมวยเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปไม่ใช่แค่แฟนมวย

บอกเลยถือเป็นเรื่องที่ตรงจุดและก่อเกิดประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเวทีมวยจากเดิมที่เคยถูกตราหน้าว่ามีแต่ “การพนัน” ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อสังคมอย่างแท้จริง

พร้อมกับตั้งสถาบันหรือโรงเรียนมวยไทยเพื่อเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้กับเยาวชนรวมถึงประชาชนทุกเพศทุกวัยได้มาเรียนเพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันตัว

ส่วนหัวใจหลักในเรื่องการทำเวทีมวยให้ปราศจากการพนันหรือให้มีการพนันน้อยลงนั้น “เสธ.แดง” ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าต้องใช้เวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่การหักด้ามพร้าด้วยเข่าหรือแบบเผด็จการ

โดยจะเชิญทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคมมวยทั้งระบบมาร่วมหารือถึงข้อดีข้อเสียจากนั้นจะให้เวลากับทุกคนในการปรับตัวเพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับกันได้ทั้งระบบ

รวมถึงการวางแนวทางให้กับกรรมการของลุมพินีทุกคนต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกันคงไว้ซึ่งความยุติธรรมและมีเหตุผล ซึ่งจะเป็นกฎกติกาเดียวกับทางต่างประเทศ

ทุกคนต้องอยู่ในแนวทางการตัดสินที่เป็นของลุมพินี ไม่ใช่ขึ้นอยู่ที่ “เซียน” เพื่อเป็นการทำให้ปัญหาการล้มมวยหมดสิ้นไป

สิ่งที่แฟนมวยชื่นชอบน่าจะเป็นเรื่อง “การแพ้ชนะ” เพราะจากนี้ไปมวยที่บุกจะไม่ชนะเสมอไปอยู่ที่ว่าใครออกอาวุธได้มากกว่า รุนแรงกว่า และ สร้างความบอบช้ำให้คู่ต่อสู้ได้มากกว่าจนคู่ต่อสู้มีอาการในยกนั้นคือผู้ชนะ

การชกในรูปแบบการชกแบบเดิมๆ เช่น การวิ่งหนีในยกสุดท้ายโดยไม่ออกอาวุธจะโดนลงโทษด้วยการตัดคะแนนหรือไล่ลงทันที

ที่สำคัญทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงนายสนามห้ามเล่นการพนันอย่างเด็ดขาดหากจับได้ว่าใครเล่นโดนไล่ออกทันที

แค่นโยบายคร่าวๆ ที่ “เสธ.แดง” เกริ่นไว้ก็น่าชื่นชม จากนี้ไปคงต้องให้เวลา เพราะการจัดระเบียบครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยเหลือค่ายมวยและตัวนักมวยอย่างแท้จริง

ตลอดระยะเวลาการเดินทาง 6 เดือนของ “เสธ.แดง” อาจมีขวากหนามบ้าง มีมารมาคอยรบกวนสร้างความรำคาญใจบ้าง คงต้องทนเพื่อให้เป้าหมายที่วางไว้ลุล่วง

ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้นโยบายที่วางไว้สัมฤทธิผล.

โจโจ้