บทความโดย: รัตณษร อุ่นจิตร และเพ็ญพิชชา ขุนสุทน
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่มหาเศรษฐี จะจ่ายภาษีในอัตราที่ ‘เท่าเทียม’ กับคนทั่วไป | TAX THE RICH ep.1
บทบาทของคนรวยที่เห็นได้บ่อยคือการบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม อย่างในช่วงโควิดก็มีการบริจาคของมหาเศรษฐีทั่วโลก และส่วนใหญ่มักจะมีองค์กรการกุศลเป็นของตัวเอง ตัวอย่างมูลนิธิของบรรดามหาเศรษฐี เช่น
ในไทยเองก็มีมูลนิธิพุทธรักษา ของครอบครัวเจียรวนนท์ มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เมื่อก่อนใช้ชื่อว่ามูลนิธิ คิงเพาเวอร์ หรือจะเป็นการบริจาคของพิมรี่พายหลายแสนบาทให้กับเด็กในอำเภออมก๋อยจนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมไทยช่วงที่ผ่านมา
ในบรรดาเหล่าผู้ใจบุญ ผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดในโลกคือ “บรรดาเศรษฐีในสหรัฐ” ตามมาด้วย “เศรษฐีอังกฤษ”
ดูจากสถิติ ลำพังเพียงมูลนิธิบิลเกตส์เพียงเจ้าเดียวก็บริจาคไปแล้ว 5 พันล้านปอนด์เมื่อปี 2018 (ประมาณ 2 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่างบบริจาคของหลายประเทศ
เงินเกือบ 1 ใน 5 ที่บริจาคให้คนยากไร้ ส่วนใหญ่บริจาคเพื่อสนับสนุนศิลปะ ทีมนักกีฬา และกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมอื่นๆ
เว็บไซต์ The Guardian ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความใจบุญว่า ถึงที่สุดแล้ว การบริจารก็ถือเป็นประโยชน์กับคนรวยได้เช่นกัน
จากข้อมูลพบว่า เงินบริจาคก้อนใหญ่ที่สุดในการสนับสนุนการศึกษาในอังกฤษปี 2019 กลับถูกบริจาคให้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนของชนชั้นนำซึ่งเป็นสถาบันที่ลูกหลานผู้บริจาคศึกษาอยู่
ในอังกฤษช่วงปี 2007 – 2017 เงินบริจาคมากกว่า 2 ใน 3 ถูกบริจาคให้กับระดับอุดมศึกษา และครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินได้บริจาคให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Oxford และ Cambridge
นอกจากนี้ การทำบุญมักเป็นการแสดงออกถึงอำนาจเสมอ เพราะการให้มักจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของบรรดาเศรษฐี ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับการจัดลำดับความสำคัญทางสังคม
จนมักเกิดคำถามว่า สุดท้ายแล้วการบริจาคนั้น ลึกๆ แล้วเป็นการตอบสนองความต้องการของคนรวยเองหรือไม่? หรือที่หลายคนอาจจะพูดว่า การบริจาคก็เป็นเพียงการสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมของคนรวยนั่นเอง … ไม่มากก็น้อย
ในสหรัฐอเมริกา งานวิจัยชี้ว่าคนที่ยิ่งรวยมากขึ้นจะยิ่งพยายามหลีกเลี่ยงภาษีจากการบอกรายได้ที่ไม่ครบมากขึ้น
งานวิจัยของ Internal Revenue Serivice (IRS) ชี้ว่า คนที่มีรายได้ตั้งแต่ฐานรากของสังคม 90% มีเพียงแค่ 5-10% เท่านั้นที่ส่งภาษีไม่ครบ ในขณะที่คนที่มีรายได้สูง 10% บนของสังคม มีมากถึง 20% ที่กรอกรายได้ภาษีไม่ครบ
โดยคนกลุ่ม 5% ที่ส่งรายได้ไม่ครบ เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 6.4 ล้านบาท) และเป็นที่มาของ 1 ใน 3 ของเงินที่กรมภาษีต้องเก็บต่อปี การรายงานรายได้ที่ไม่ครบทำให้รายได้ของรัฐบาลได้รับผลกระทบชัดเจน
ในหลายประเทศทั่วโลก มักจะยอมให้ทั้งบุคคลทั่วไปและนิติบุคคลลดหย่อนภาษีได้ด้วยการบริจาคให้การกุศล แต่ถึงที่สุดแล้ว เงินที่ควรจะนำไปใช้พัฒนาสังคม บางทีก็เป็นแค่การเลี่ยงภาษีของคนรวยเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น
ในอีกด้านหนึ่ง ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยคนรวยในการเลี่ยงภาษี เช่น
ทางด้านคนรวยที่เป็นเจ้าของบริษัทก็อาจจะใช้วิธีเลี่ยงภาษีอื่นๆ ที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย เช่น
ถึงแม้ว่าจะมีเงินบริจาคจำนวนมากในสังคมทุกปี แต่การที่เงินไม่ได้ถูกจัดสรรไปอย่างเท่าเทียมอาจจะยิ่งเป็นการเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำ และยังคงต้องตั้งคำถามกับประเด็นการบริจาคเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการเป็นคนดีของสังคม
ที่มา: The Guardian, Washington Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
เผยแพร่: 31 พ.ค. 256…
This website uses cookies.