ชาวพม่าฉุนขาดนายทุนจีน หลังเห็นคลิป “คนงานยะไข่” ถูกหวดก้นเหตุลอบเล่นไพ่ละเมิดกฎโควิดในสามเหลี่ยมทองคำ – ผู้จัดการออนไลน์

MGR Online – กระแสเกลียดชังจีนของชาวพม่าถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง หลังมีการเผยแพร่คลิปและภาพคนงานชาวยะไข่ถูกลงโทษด้วยการตีก้นอย่างแรง เหตุเพราะฝ่าฝืนระเบียบระหว่างถูกกักตัวดูอาการโควิด-19 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ที่เป็นของนักลงทุนจีนในลาว

เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (9 ก.ค.) สังคมออนไลน์เมียนมาได้มีการเผยแพร่ภาพและคลิป การลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของสถานกักตัวเพื่อรอดูอาการ ของผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว

ภาพและคลิปดังกล่าว เห็นชายในชุด PPE คนหนึ่ง กำลังใช้ไม้เรียวตีลงไปอย่างแรง ที่ก้นของคนงานซึ่งถูกระบุว่าเป็นชาวรัฐยะไข่ 5 คน ที่กำลังยืนรอการลงโทษอยู่ โดยมีทั้งยืนกอดอกให้ตีและถูกสั่งให้นอนคว่ำก่อนตี ชายในชุด PPE พูดเป็นภาษาพม่า ระบุถึงโทษของการไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานกักตัว มีการให้ข้อมูลว่าทั้ง 4 คน แอบเล่นไพ่กันระหว่างการกักตัว ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของสถานกักตัว จึงต้องถูกลงโทษ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังภาพและคลิปถูกเผยแพร่ออกมา ได้สร้างความไม่พอใจแก่ชาวเมียนมาเป็นอย่างมาก เพราะเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เป็นโครงการลงทุนของนักธุรกิจจีน ในพื้นที่ สปป.ลาว การลงโทษลักษณะนี้ ถูกตีความว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวเมียนมา

มีการเผยแพร่ภาพและคลิปเหล่านี้ต่อไปอีกอย่างกว้างขวาง โดย ณ เวลา 11.00 น. วันนี้ เฉพาะจากเพจของสำนักข่าวท่าขี้เหล็กเพียงแหล่งเดียว ภาพข่าวการลงโทษชุดนี้ถูกแชร์ต่อออกไปถึงเกือบ 8 พันครั้ง มีผู้แสดงความรู้สึกโกรธต่อข่าวนี้กว่า 3 พันคน และเสียใจอีกกว่า 2 พันคน ส่วนคลิปการลงโทษ มีผู้แชร์ออกไปแล้วกว่า 5 พันครั้ง ผู้แสดงความรู้สึกโกรธกว่า 2.5 พันคน และเสียใจอีกกว่า 1.9 พันคน

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื้อหา มีมากเกือบ 2 พันคอมเมนท์ ส่วนใหญ่จับโยงเข้าสู่สถานการณ์การเมืองในเมียนมา โดยไม่พอใจและต่อว่าประเทศจีน ซึ่งถูกระบุว่ามีส่วนกับการรัฐประหารของกองทัพพม่า ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีความพยายามสอดแทรกข้อมูลเข้าไปในคอมเมนท์ ถึงสภาพการจ้างและลักษณะงานที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งนายจ้างที่เป็นผู้รับเหมาในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ กระทำต่อคนงานที่เป็นชาวเมียนมา ยิ่งเป็นการกระตุ้นความไม่พอใจให้เกิดมากขึ้น ในกลุ่มผู้ที่เข้ามารับชมภาพและคลิปชุดนี้อีกด้วย

เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยเป็นการลงทุนของบริษัทดอกงิ้วคำ ในเครือคิงส์ โรมัน กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจคาสิโนที่จดทะเบียนอยู่ในฮ่องกง

บริษัทดอกงิ้วคำได้รับสัมปทานจากรัฐบาลลาวเมื่อปี 2550 ให้สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำขึ้นเป็นเมืองใหม่ บนเนื้อที่ 2,173 เฮคเตอร์ หรือ 13,581 ไร่ใช้เงินลงทุนมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ภายในประกอบด้วยแหล่งบันเทิงครบวงจร โดยเฉพาะกาสิโน มีบรรดานักเสี่ยงโชคชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังมีโรงแรม สนามกอล์ฟ ศูนย์การค้า อาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล โรงเรียน วัด และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ระหว่างประเทศขึ้นเองในพื้นที่ เพื่อใช้รองรับลูกค้าที่บินตรงมาจากจีนเพื่อมายังที่นี่โดยเฉพาะ

เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ มีเจ้าเหว่ย นักธุรกิจจากจีนเป็นเจ้าของ โดยนอกจากที่เมืองต้นผึ้งของลาวแล้ว เจ้าเหว่ยยังเคยไปลงทุนสร้างกาสิโนอยู่ในเขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา ชายแดนรัฐฉาน-จีน ตรงข้ามกับเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานอีกด้วย

ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ มีคนงานจากหลายเชื้อชาติเข้าไปทำงาน เฉพาะคนงานที่เป็นชาวเมียนมามีประมาณ 1 หมื่นคน

ช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ในลาวตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้เป็นต้นมา ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ถึงกับทำให้แขวงบ่อแก้วได้ขึ้นเป็นพื้นที่ซึ่งมีการระบาดมากเป็นอันดับที่ 2 ของลาว รองจากนครหลวงเวียงจันทน์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน มีการระดมทีมแพทย์ทั้งจากส่วนกลางและจากประเทศจีน เข้ามาตั้งโรงพยาบาลสนามและสถานกักตัวเพื่อรองรับผู้ป่วยที่นี่โดยเฉพาะ

ผู้ป่วยที่พบในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ มีพนักงานและคนงาน ทั้งที่เป็นชาวลาว ชาวจีน ชาวเมียนมา และชาวไทย ทำให้ฝ่ายบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ ต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมบริษัทที่เข้าไปลงทุน หรือผู้รับเหมาที่เข้าไปทำงานอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯทุกบริษัท ให้ดูแลพนักงานและคนงานของตนเองอย่างเข้มงวด

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหาร เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ได้มีหนังสือแจ้งไปถึงบริษัทและผู้รับเหมาทุกรายที่อยู่ในพื้นที่ ให้รับผิดชอบ และดูแลสุขภาพ การปฏิบัติตนของพนักงานและคนงานของตนเองอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการละเลย จะถูกดำเนินการตามระเบียบของเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ และตามกฏหมายของ สปป.ลาว อย่างเด็ดขาด