คอลัมน์การเมือง – บุคคลแนวหน้า : 24 มกราคม 2566

“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้รู้เท่าทันนักการเมืองชังชาติเสียชาติเกิด ทรราชทุนสามานย์ติ่งสัมภเวสีเจ้าเล่ห์อย่างเท่าเทียม”

nn เริ่มต้นฉบับนี้ด้วยสถานการณ์สงครามการเมืองที่กลุ่มแก๊ง ก๊วนการเมืองชิงพื้นที่และสถานการณ์ฉลอง “เทศกาลตรุษจีน” ของพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราช จนอึกทึก “เอะอะดังกลองเพล” ทั้งขบวนหาเสียงของพรรคก้าวไกล ทั้งขบวนหาเสียงของ “ลุงตู่ –พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ขบวนหาเสียงของ “ลุงป้อมตั่วเฮีย – พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” ที่แม้นจะชิงปาดหน้าลงพื้นที่ก่อนขบวนอื่น นี่แหละการเมืองและนักการเมืองไทยที่ให้ความสำคัญประชาชนคนรากหญ้า เพียงเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง นี่คือเวลาที่ประชาชนคนรากหญ้าจะผงาดเท่าเทียมชนชั้นนายทุน, นักธุรกิจ, ผู้ประกอบการ…แต่ที่น่าสมเพชสำหรับนักการเมืองเสียชาติเกิดชังชาติบางคนบางกลุ่มก๊วนมาเดินหาเสียงในพื้นที่คนไทยเชื้อสายจีนอย่างไร้ยาง ด้วยเสื้อผ้าสีแดงกลมกลืนคนในพื้นที่ทั้งที่เมื่อ 2-3 ปีก่อนออกมายืนหน้าต่อต้าน “วัคซีนไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19)” ยี่ห้อ “ซิโนแวค” ของ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” อย่างรุนแรงจนกระทั่ง “เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย” ต้องร่อนแถลงการณ์แสดงเหตุผลและความตั้งใจในความช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างแสบสัน…


nn รู้สึกอึ้งกับพฤติกรรมและเป้าหมายของ “เซียมซู–เทพคางคก”ที่มั่งคั่งร่ำรวยนาม “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตสส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(เสื้อแดงนปช.) ที่ได้ดีกับ “พรรคการเมืองในระบอบทักษิณ” แค่ “เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม – ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์” ที่คนเดือนตุลาน่าจะจำชื่อ “ไอ้ก้านยาว – ประพัฒน์ แซ่ฉั่ว”เสียมากกว่า ไร้วาสนาที่จะได้เป็นเสนาบดีอย่างเพื่อนซี้ร่วมอุดมการณ์อย่าง “เต้น – ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”ที่ตะเกียกตะกายจนได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีในตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลนารีขี่ม้าขาว – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ดูแลโครงการรับจำนำข้าวที่ถือเป็นเก้าอี้ “ทุกขลาภ”อย่างสุดรันทดแสนสาหัส และได้ดิบได้ดีในวันนี้ที่เก้าอี้ “ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย” ทำหน้าที่อวยช่วย “ดีเอ็นเอนายใหญ่”ให้ชินกับสรรพนามเรียกขาน “ท่านนายกฯ”

nn วาทกรรมที่ว่า “ถ้าวันนี้เรายังติดกับดักแบบเดิมๆ คือเอาคำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเจ้าของผูกขาดประชาธิปไตย ผมเห็นว่า พรรคเพื่อไทยละเลงประชาธิปไตยจนเละเทะไปหมด” … หมายความดังที่พูดอย่างนั้นหรือ!?!?!…

nn “จตุพร”ให้ความเห็น “ประเทศไทยต้องไปต่อ” จุดเปลี่ยนประชาชนเป็นใหญ่ แต่คนไม่แสวงหาความถูกต้อง แต่แสวงหาความถูกใจมากกว่า 90 ปี ซึ่งน่าจะหมายถึงแต่เมื่อครั้ง “ปฏิวัติสยาม” ที่หลายคนบอกว่า “คณะราษฎรชิงสุกก่อนห่าม” ทำให้ประชาธิปไตยไทยวนเวียนอยู่กับอาการพวกมากลากไปเกิดความชอบใจเป็นความชอบธรรมมากกว่าความถูกต้อง … มองจากตรงนี้“เซียมซู”ถอดเสื้อแดงมาใส่เสื้อดำขยำขยี้คนกันเองด้วยอุดมการณ์ที่แปรเปลี่ยนหรือสำรอกกรรโชกขออาหารเจ้าของ “คอกจันทร์ส่องหล้า”อย่างไม่ยี่หระ!?!?!…

nn พูดถึง “เซียมซู – เทพคางคกผู้มั่งคั่ง”อดนึกถึงพี่ชาย “ไม้หน้าสาม” ที่เคยคว้าตำแหน่ง “คู่กัดแห่งปี” ของชมรมผู้สื่อข่าวรัฐสภาเมื่อปี 2554 “อรรถพร พลบุตร”อดีตผู้สื่อข่าวดีกรีระดับบรรณาธิการข่าว อดีตสส.เพชรบุรี 2 สมัย ที่ผ่านการเมืองมาอย่างโชกโชนทุกระดับชั้น ที่พลาดท่าเสียเก้าอี้ไปเมื่อการเลือกตั้ง 26 มีนาคม 2562 มาเลือกตั้งครั้งนี้ “บิ๊กเจี๊ยบ – อรรถพร พลบุตร” เตรียมตัวกลับมารับใช้ชาวเพชรบุรีอีกครั้งอย่างมั่นอกมั่นใจคู่กับ “นักการเมืองเจ้าโปรเจกท์– อลงกรณ์ พลบุตร”ผู้พี่ชายอดีตสส.เพชรบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลุยงานทฤษฎี “สมาร์ทฟาร์มเมอร์”จนประสบความสำเร็จ วันนี้ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ประสบความสำเร็จกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ทำให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้นตามอัตภาพ จะทำให้ “พรรคประชาธิปัตย์”คว้าเก้าอี้ท่านผู้ทรงเกียรติจังหวัดเพชรบุรีได้ยกจังหวัดเหมือนเมื่อ 10-20 ปีก่อนได้หรือไม่…

nn “ไม้หน้าสาม”มีโอกาสไปร่วมงานวันเกิด“เสธ.ณัฐ – พลเอกณัฐ อินทรเจริญ” อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่7 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นผู้มากบารมีในจังหวัดกาญจนบุรีคลาคล่ำ ว่ากันว่าในงานดังกล่าวจะมีการเปิดตัวผู้สมัครสส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 5 เขตเนื่องจาก “เสธ.ณัฐ”ซึ่งถือเป็น “มือขวามือทำงานตรง”ให้กับ“ตั่วเฮียป้อม” รับผิดชอบในการคัดสรรบุคลากรลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.กาญจนบุรีแทนอดีตสส.พรรคพลังประชารัฐที่เป็นคนในตระกูล “กำนันเซี๊ยะ – ประชา โพธิพิพิธ”อดีตบ้านใหญ่ทิศประจิมย้ายสังกัดไปซบ “หมอหนู – อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยถึง 3 ใน 4 ที่นั่ง … เสธ.ณัฐ จัดทัพครั้งนี้ได้น่าเกลียดน่าชังมิใช่น้อย โดยเขตหนึ่ง ส่งอดีตพ่อเมืองที่อยู่ในตำแหน่ง 5 ปี สร้างความเจริญให้แก่จังหวัดกาญจนบุรีจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชน เป็นที่รักใคร่ของราษฎรอย่างแท้จริง “จิระเกียรติภูมิสวัสดิ์”ลงสนามสู้กับ “กอล์ฟ-อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์” นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง คนรุ่นใหม่ ที่หวังสร้าง “ประวัติศาสตร์แลนด์สไลด์”ดุนทายาทสัมภเวสีวัย 36 กะรัต ขึ้นมาบริหารประเทศและใช้กลไกทางกฎหมายนำ “สัมภเวสีแดนไกล-ผู้พ่อ”กลับประเทศโดยไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษาศาล … เขตสามใช้ผู้สมัครคนเดิมที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแต่ยังคงดูแลพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนไม่ได้ขาดอย่าง “พลตำรวจตรีกมลสันติ กลั่นบุศย์”ลงทำศึกอีกครั้ง เขตสี่ คาดว่าจะให้อดีตนายทหารคนสนิทของ “นายพลประชาธิปไตย – พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 – พลตรีศรชัย มนตริวัต”เสธ.นิด อดีตสส.คนพื้นที่กาญจนบุรีลงสนามปะฉะดะกับอดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่สะบัดก้นไปสังกัดพรรคพูดแล้วทำ ส่วนเขต 5 ส่ง “ประเทศ บุญยงค์” อดีตนายกอบต.ทองผาภูมิลงสู้ศึก นับเป็นสนามเลือกตั้งที่น่าจับตามองอย่างมาก การที่ตั่วเฮียป้อม ส่งมือขวาลงมารบตามตำราพิชัยยุทธเยี่ยงนี้มีหรือที่จะยอมให้ที่นั่งท่านผู้ทรงเกียรติในจังหวัดกาญจนบุรีเดิมที่เป็นของพรรคพลังประชารัฐลดลงไปจากเดิม “ไม้หน้าสาม”ไม่ใช่โหรแต่ “โหงพราย ขุนแผน”มากระซิบบอกว่า “ถ้าไม่ได้ยกจังหวัดก็ต้องได้ที่นั่งเท่าเดิมปิดช่องทางแลนด์สไลด์”นำสัมภเวสีที่ไร้ “ธัมมชโย”จูงนำหน้ากลับบ้าน…nn

ไม้หน้าสาม