แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา…nn ที่เป็นห่วงนั้น เพราะแม้ในเวลา 2 ปีที่เป็นปีกาญจนาภิเษก ก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่าประชาชนยังมีความเดือดร้อนมาก และมีสิ่งที่ควรจะแก้ไขและดำเนินการต่อไปทุกด้าน มีภัยจากธรรมชาติกระหน่ำ ภัยธรรมชาตินี้เราคงสามารถที่จะบรรเทาได้หรือแก้ไขได้ เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาพอใช้ มีภัยที่มาจากจิตใจของคน ซึ่งก็แก้ไขได้เหมือนกัน แต่ว่ายากกว่าภัยธรรมชาติ ธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งนอกกายเรา แต่นิสัยใจคอของคนเป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน อันนี้ก็เป็นข้อหนึ่งที่อยากให้จัดการให้มีความเรียบร้อย แต่ก็ไม่หมดหวัง… (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัยวันที่ 4 ธันวาคม 2539)…
nn ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ผสมกับการคาดเดาไปต่างๆ นานาสารพัดว่า ในท้ายที่สุดแล้ว ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้กลับมานั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญจะพิพากษาอย่างไรกับประเด็นครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแปดปี ศาลรัฐธรรมนูญจะยึดหลักการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประยุทธ์ โดยอ้างอิงรัฐธรรมนูญฉบับไหน ระหว่างฉบับ พ.ศ. 2550 กับฉบับ 2560 แล้วก็ยังมีข้อสังเกตอีกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก(5 ต่อ 4) ที่ลงความเห็นให้ประยุทธ์พักการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว มาจากสายรัฐศาสตร์ ส่วนเสียงข้างน้อยนั้นมาจากสายนิติศาสตร์ คำถามก็เลยเกิดขึ้นอีกว่า สรุปแล้วสายรัฐศาสตร์กับสายนิติศาสตร์อ่านรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันแล้วตีความกันไปคนละทิศละทาง เช่นนั้นหรือ…
nn กระแสสังคม โดยเฉพาะฟากฝั่งที่ไม่ปลื้มประยุทธ์ จันทร์โอชา วิเคราะห์ว่าสุดท้าย ท้ายสุดนั้นประยุทธ์ไม่น่าจะได้กลับมากินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก ส่วนฝั่งที่ปลื้มประยุทธ์ก็มองตรงกันข้าม และยังมั่นใจว่าประยุทธ์จะกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามเดิมจนหมดวาระของรัฐบาลนี้…
nn หลังจากประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่งได้รับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ดูเสมือนว่าประวิตรจะแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าตนเองนั้นมีความแข็งแรงมากกว่าสมัยเป็นรองนายกฯ เพราะเดินเหินได้เอง โดยไม่ต้องมีทหารคอยเข้าไปประคองกาย แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้พยายามสังเกตว่าแล้วประวิตรยังนั่งหลับคอพับคออ่อนในเวลาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะภาพประวิตรหลับแบบหมดสภาพในการประชุมยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของคนทั่วไป…
nn มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ประวิตรไม่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยปล่อยให้เก้าอี้นายกฯ ว่างไว้ ส่วนตัวประวิตรก็ยังคงนั่งในเก้าอี้เดิม คำถามคือทำไมประวิตรไม่นั่งเก้าอี้นายกฯ คำตอบคือ เพราะปัจจุบันประวิตรเป็นแค่เพียงผู้รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ยังไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริง แล้วนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ยังไม่ได้ล้มหายตายจากไป ส่วนที่มีคำถามว่าแล้วประวิตรจะใช้อำนาจผู้รักษาการตำแหน่งนายกฯ ยุบสภาหรือไม่ หลังจากมีการเพิ่มอำนาจให้ประวิตรเป็นกรณีพิเศษ เรื่องนี้ก็ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วประวิตรจะกล้าออกคำสั่งยุบสภาหรือไม่ แต่อย่าประมาทประวิตรเป็นอันขาด เพราะไม่มีอะไรที่ประวิตรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้…
nn มีคำถามอีกว่า ประวิตรกับประยุทธ์ยังพูดจาหารือกันในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ คำตอบนี้ตอบยาก เพราะหากทั้งสองจะคุยกันจริงๆ เขาก็ไม่ได้บอกข่าวนี้
กับประชาชน แม้เขาจะอ้างว่าไม่มีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ต้องไม่ลืมว่า เมื่อครั้งที่ประยุทธ์ออกคำสั่งฟ้าผ่าปลดผู้กองตุ๋ย-ธรรมนัส
พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในครั้งนั้นประวิตรอ้างกับสังคมว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะประยุทธ์ไม่ได้บอกเรื่องนี้ก่อน ดังนั้นก็ต้องอย่าลืมว่า บัดนี้ประวิตรมีอำนาจมากกว่าเดิมในเชิงนิตินัย ดังนั้นประวิตรก็อาจไม่ต้องหารือกับประยุทธ์ก็ตัดสินใจทำการใดๆ ก็เป็นได้ ส่วนเรื่องโผตำรวจ โผทหารนั้น ก็ต้องจับตามองให้ลึกซึ้ง อย่าคิดว่าประวิตรจะไม่เข้าไปจัดการกับโผทหารตำรวจ เพราะประวิตรไม่มีวันปล่อยให้โผตำแหน่งสำคัญๆ ของกองทัพและตำรวจหลุดไปจากมือของตนเองอย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองแอบไปดูที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ก็แล้วกัน ได้ข่าวว่าทั้งทหารตำรวจเข้าไปพบแบบหัวกระไดไม่แห้งเลย…
nn จากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกที่ประวิตรนั่งหัวโต๊ะในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่ามีการอนุมัติเงิน 6.3 พันล้านบาท เพื่อกระจายไปในท้องถิ่นสำหรับซ่อมสร้างถนนและแหล่งน้ำ พร้อมกับจ่ายเงินพิเศษให้กับ อสม. และ อสส. โดยเป็นข้ออ้างว่าเพื่อตอบแทนในการดูแลและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับภาคที่ได้รับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้มากที่สุดได้แก่ภาคอีสาน เพราะว่าได้เงินสำหรับการนี้ไปประมาณ 1,900 ล้านบาทจากงบฯ ก้อนกลมๆ ประมาณ 5,300 ล้านบาท…
nn การอนุมัติงบฯ ในการประชุมครม. ที่มีประวิตรเป็นหัวหน้าในครั้งนี้ ถูกวิพากษ์ว่ามีนัยสำคัญทางการเมืองก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงต้นปีหน้า แต่เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการหาคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะรัฐบาลไหนๆ ก็มักใช้วิธีการทำนองนี้ไม่ต่างกัน เพราะการใช้งบประมาณประเทศเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับตนเองและพรรคการเมืองของตนเองเป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนและทุกพรรคที่มีอำนาจรัฐกระทำกันมาโดยตลอด…
nn ระยะหลังๆ นี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และเหล่าบรรดาทีมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เช่น ทวิดา กมลเวชช ศานนท์ หวังสร้างบุญ (ส่วนวิศณุ ทรัพย์สมพลและจักกพันธุ์ ผิวงาม นั้นไม่ค่อยช่างจำนรรจาเท่าสองคนแรก) ดูค่อนข้างจะสงวนปากสงวนคำมากกว่าช่วงที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ๆ เพราะว่าเมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้ว สาธารณชนพบได้ชัดเจนว่า สารพัดเรื่องราวที่ผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ กรุงเทพฯคุยโวไว้นั้น ล้วนแล้วแต่เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น…
nn ความจริงเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนสุดๆ คือ หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯถูกน้ำท่วม ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯก็ยังคงหนักหนาสาหัส ค่ารถไฟฟ้าที่คุยไว้หนักหนาว่าจะลดราคาลงมา ก็ยังคงไม่สามารถลดลงมาได้ ส่วนเรื่องสายไฟ สายระบบสื่อสารที่พันกันจนยุ่งเหยิงดูน่าเกลียดในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ก็ยังคงแสดงความน่ารังเกียจต่อไป แต่ที่ชัดๆ ก็คือ คำหาเสียงของผู้ว่าฯ กรุงเทพ เป็นได้แค่เพียงลมปากที่หาสาระและหาความจริงมิได้แม้แต่น้อย…
nn ส่วนเรื่องทราฟฟีฟองดูว์นั้น หลายคนประจักษ์แล้วว่าก็ได้แค่เพียงการส่งข่าวไปในระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ให้ได้ แต่ที่อุบาทว์ยิ่งกว่าคือ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ว่านั้นยังโกหกอย่างน่าสมเพชว่า แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ปัญหายังคงดำรงอยู่เหมือนเดิมทุกประการ เรื่องแบบนี้จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยผิดหวังในตัวผู้ว่าฯกรุงเทพ…
nn คนกรุงเทพถามหาด้วยว่า ทีมที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กรุงเทพ ที่มีมากมายถึง 9 คน อาทิ ต่อศักดิ์ โชติมงคล นิพัทธ์ ทองเล็ก เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หายหน้าหายตาไปไหน เพราะไม่เห็นเคยเป็นข่าว ส่วนเลขานุการผู้ว่าฯ คือ ภิมุข สิมะโรจน์ และโฆษกประจำตัวผู้ว่าฯ คือเอกวรัญญู อัมระปาล ก็หายหน้าหายตาไปเช่นกัน หลายคนฝากถามว่าปัจจุบันภิมุขยังต้องตื่นตีสี่แล้วรีบไปประชุมกับผู้ว่าฯ ในเวลาตีห้าอีกหรือไม่ ส่วนโฆษกนั้น มีคนฝากถามว่าตกลงได้เคยทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนผู้ว่าฯ บ้างไหม เพราะอันที่จริง ผู้ว่าฯ กรุงเทพคนนี้ไม่จำเป็นต้องมีโฆษกก็ได้ เนื่องจากทำตัวเองเป็นข่าว(ประหลาด) ได้ตลอดเวลา…
nn ปิดท้ายข่าวดีสำหรับนักกอล์ฟ เจ้าสัวเป้า- ประยุทธ มหากิจศิริ สั่งลดราคาพิเศษให้ผู้ไปใช้สนามกอล์ฟเลควูด คันทร่ีคลับ บางนา-ตราด กม. 18 ในวันธรรมดา ราคาแพ็กเกจ 18 หลุม ออกรอบได้ก๊วนละ 6 คน ราคาคนละ 1,400 บาท (รวมค่ากรีน ค่ารถกอล์ฟ และค่าแคดดี้)ราคาพิเศษนี้มีถึงสิ้นปี 2565 ย้ำว่าขอเชิญไปใช้สนามกอล์ฟในวันธรรมดาเท่านั้นนะครับ…nn
ธรรมกร