คอลัมน์การเมือง – กำพืด‘โกง-ลอกข้อสอบ’เก่งแล้วได้ดี!?!

ดุเดือด เข้มข้นมากขึ้นกับสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงการหาเสียงเพื่อเข้าสู่สถานการณ์การเลือกตั้งทั่วไปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากสภาชุดนี้หมดวาระในราวเดือนมีนาคม 2566 แม้จะยังไม่ทราบวันเวลาแน่นอน แค่นักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆก็ปล่อยของช่วงชิงเสียง-ซื้อใจมวลมหาประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างเต็มที่

ฝ่ายหนึ่งประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ ชิงอำนาจรัฐด้วยเสียงข้างมาก หวังอาศัยกลไกกฎหมาย พาบุพการีซึ่งมีชนักติดหลัง ต้องคำพิพากษาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุก 12 ปี ใน 6 คดี จาก 8 คดี กลับมาตุภูมิแผ่นดินแม่อย่างเท่ๆ โดยไม่ต้องรับกรรมที่ก่อกับประเทศชาติบ้านเมือง

นี่คือความยุติธรรม!?! อย่างนั้นหรือ ตระกูล “ชินวัตร” จำชื่อและพฤติกรรมคนเหล่านี้ได้หรือไม่??

“ชูชีพ หาญสวัสดิ์ อดีต รมว.เกษตรฯ และ วิทยา เทียนทอง อดีตเลขานุการ รมว.เกษตรฯ และอดีต สส.สระแก้วพรรคไทยรักไทย” ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตัดสินจำคุกเมื่อ 8 มิ.ย.2559 ในคดีทุจริตจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยถูกตัดสินจำคุกคนละ 6 ปี

“หมอเลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที”ที่ถูกศาลฎีกาฯ มีคำตัดสินเมื่อ 25 ส.ค.2559 สั่งจำคุกในคดีแก้ไขสัญญาสัมปทานเอื้อประโยชน์ บริษัท ชินคอร์ป ที่ตระกูลชินวัตรเคยถือหุ้นใหญ่ โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปีเช่นเดียวกับ ไกรสร พรสุธี อดีตปลัดกระทรวงไอซีที(ดีอีเอสในปัจจุบัน) และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ ศาลตัดสินจำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 2 หมื่นบาท

“วราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง” ที่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ในคดีหวยบนดิน ที่ศาลเห็นว่ามีความผิด แต่ก็เห็นว่าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน เห็นสมควรโทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี

คดีทุจริตปล่อยเงินกู้ ธ.กรุงไทย ให้กับ “กลุ่มกฤษดามหานคร” ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุกอดีตผู้บริหารกรุงไทย อาทิ วิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย 18 ปี

ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ และอดีตรมว.มหาดไทย ที่เซ็นคำสั่งราชการเกี่ยวกับเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟและหมู่บ้านอัลไพน์ ที่เป็นของตระกูลชินวัตร ต่อมาเมื่อ ป.ป.ช.สอบสวนเอาผิดย้อนหลังนายยงยุทธเรื่อง “ที่ดินอัลไพน์” ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี

สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.การต่างประเทศที่ถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คืนหนังสือเดินทางพาสปอร์ตแดงให้ ทักษิณ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอันเป็นการทำผิดต่อระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ศาลฎีกาตัดสินจำคุกนายสุรพงษ์เป็นเวลา 2 ปี

นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และอดีต รมช.คลัง ที่ถูกฟ้องเอาผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยร่วมกับพวกช่วยเหลือ “พานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร” บุตรชายและบุตรสาวของนายทักษิณ เลี่ยงเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย ในการซื้อหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น เมื่อปี 2549 ที่ทั้ง 2 คนต้องเสียภาษีในส่วนของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาทโดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา

บัญชีคุกคนเหล่านี้สมประโยชน์ใคร

แต่นายใหญ่จะกลับมาอย่างเท่ด้วยกลไกกฎหมายอย่างนั้นหรือ