กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะพ่อแม่ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีฟ้าคะนอง ให้เด็กงดเล่นหรือทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ต้นไม้สูง เสาไฟฟ้า เพื่อลดความเสี่ยงการโดนฟ้าผ่า
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า บางพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงนี้อาจมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นด้วย ประชาชนจึงต้องรู้จักป้องกันตนเอง โดยเฉพาะเด็กที่มักจะชอบเล่นหรือทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงที่เกิด ฝนฟ้าคะนอง โดยให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง เช่น ทุ่งนา สนามฟุตบอล สนามกอล์ฟ เป็นต้น และไม่อยู่ใกล้ ต้นไม้สูง เสาโทรศัพท์ เสาไฟฟ้า หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และเมื่ออยู่ในอาคาร ควรปิดประตูหน้าต่างทุกบาน และอยู่ห่างจากผนังอาคาร ประตูและหน้าต่าง ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด
“ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้ที่ถูกฟ้าผ่า ให้สังเกตบริเวณที่เกิดเหตุว่ายังมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าหรือไม่ ถ้ามี ให้เคลื่อนย้ายผู้ถูกฟ้าผ่าไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย โดยเเตะต้องตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เนื่องจากคนที่ถูกฟ้าผ่า จะไม่มีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ในตัว ซึ่งต่างจากผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าซ็อต รีบโทรแจ้งเหตุสายด่วนช่วยชีวิต 1669 พร้อมให้ข้อมูลสถานที่เกิดเหตุและอาการของผู้ป่วย จากนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นจากศูนย์รับแจ้งเหตุในการดูแลผู้ป่วย ระหว่างรอรถฉุกเฉินมารับผู้ป่วย กรณีที่ผู้ถูกฟ้าผ่า หมดสติ หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ โดยสังเกตได้จากอาการริมฝีปากเขียว สีหน้าซีดเขียวคล้ำ ทรวงอกเคลื่อนไหวน้อยมาก หรือไม่เคลื่อนไหวเลย ชีพจรบริเวณคอเต้นช้าและเบามาก ให้รีบปฐมพยาบาลโดยใช้การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน หรือซีพีอาร์ (CPR) คือ ผายปอดด้วยการให้ลมทางปากหรือที่เรียกว่า การเป่าปาก ร่วมกับการนวดหัวใจ หรือหากในบริเวณนั้นมีเครื่องช่วยชีวิตฉุกเฉิน (AED) ก็สามารถใช้เพื่อช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ทันที และรีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว