“โตเกียว 2020” คือชื่อการแข่งขันโอลิมปิกที่มาจัดในปี 2021 เพราะโควิด เลื่อนมาหรือยกเลิกคือประเด็นเมื่อปีที่แล้ว หลังการระบาดหนักทั่วโลก
แม้ว่าก่อนแข่งสามสี่เดือนก่อนหน้านี้ยังมีความไม่แน่ใจเกิดขึ้น ว่าเอาไงดี…ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งในญี่ปุ่น, ทั่วโลก , การประท้วงจากคนญี่ปุ่นเอง แต่ด้วยความ “ร่วมมือ” ทุกฝ่าย รัฐบาลญี่ปุ่น ต้องเอาด้วย โอลิมปิกสากลต้องการจัด
ทีมกีฬาแต่ละทีมพร้อมลุย “โตเกียว” ก็เดินหน้า แรกๆต้องการให้มีผู้ชมอย่างน้อย 10,000 คน แต่สุดท้ายต้องยอมรับสภาพ จำต้องแข่งแบบไม่มีผู้ชมในที่สุด
พิธีเปิดก็เรียบง่ายแต่แฝงด้วยแนวคิด วัฒนธรรมก็เป็นเรื่องปกติของชาติเจ้าภาพ การเชื่อมต่อโลกยุคใหม่ด้วยเส้นแสง อุปกรณ์ที่ใช้ แสดงถึงวิธีคิดที่ละเอียด ลึกซึ้ง อย่างไม้ที่ทำเป็นห่วงห้าห่วงโอลิมปิก เป็นต้นไม้ที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์ตั้งแต่สมัยโอลิมปิก 1964
เหรียญรางวัลก็ใช้ขยะอีเลคโทรนิกส์ มารีไซเคิล แนวคิด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชัดเจน หรือ…การแสดง pictograms ที่ใช้กราฟฟิกบอกชนิดกีฬา ส่วนเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดระบบ 4K ก็ล้ำตามประสา
เอ๊ะ ผมไม่แน่ใจบ้านเขาน่าจะไปสิบเค แล้วมั้ง แนวคิด,การแสดงพิธีเปิดนั้นต้องบอกว่า มี 10 ให้ 11 คะแนนเลยครับ
ส่วนจำนวนคนที่ร่วมงานบนอัฒจันทน์ 950 คน จากญี่ปุ่น 800 รวมทั้งจักรพรรดิ นารุฮิโต โทมัส บาค ประธานโอลิมปิก , จิลล์ ไบเดน สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ
ส่วนอีก 150 คนต่างประเทศรวมทั้งเจ้าหน้าที่เฉพาะส่วนงานโอลิมปิก ของเราก็มี คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล โอลิมปิก เมมเบอร์ ด้วย
ขณะที่นักกีฬาไม่จำกัด แต่ใครมีโปรแกรมแข่งพรุ่งนี้ก็งดมาร่วมพิธีเปิด จำนวนชาติเข้าสนามก็ทุกชาติบวกทีมผู้ลี้ภัย หรือ refugee team จะสังเกตว่านักกีฬาสองคนช่วยกันถือธงชาติ อันนี้แนวคิดไม่แบ่งเพศ แต่ละชาตินำนักกีฬาหญิงและชายมาช่วยกันถือธงนำนักกีฬาเข้าสนาม
จากข่าวที่ฝ่ายจัดแจ้งคือเขาไม่เรียงตามอักษรภาษาอังกฤษ แต่เป็นอักษรญี่ปุ่น กรีซ ชาติแรกอันนี้คือต้นตำรับจัดโอลิมปิก ตามด้วย ทีมลี้ภัย แล้วก็ อะ อุ อิ….นั่นเอง
ไทยเรา ลำดับที่ 102 โดยนักกีฬาที่เชิญธงชาติไทย คุณ เศวต เศรษฐาภรณ์ เป้าบิน แทรป ชาย นภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ ปืนสั้นอัดลม 10 เมตร ส่วนสามชาติสุดท้าย ฝรั่งเศส เจ้าภาพ 2024 ,สหรัฐ 2028 แล้วญี่ปุ่น เจ้าภาพครั้งนี้
คบเพลิงไม้สุดท้าย ….ปี 1964 คบเพลิงไม้สุดท้ายคือ…โยชิโนริ ซากาอิ นักกรีฑาสมัครเล่น ไม่ได้แข่งโอลิมปิก เรียนที่ มหาวิทยาลัย วาเซดะ แต่ถูกเลือกเพราะเขาลืมตาดูโลกวันที่ สหรัฐทิ้งระเบิดปรมาณู ที่เมือง ฮิโรชิมา หลังจากโอลิมปิก 1964 เขาเริ่มเป็นนักกรีฑาเต็มตัว
เขาได้เหรียญทองเอเชียน เกมส์ ที่กรุงเทพปี 1966 ผลัด 4 คูณ 400 เมตร ส่วนคบเพลิงไม้สุดท้าย “โตเกียว 2020” นาโอมิ โอซากะ ยอดนักเทนนิส นั่นเอง ลูกครึ่งคุณพ่อเฮติ คุณแม่ญี่ปุ่น ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากมาย
การที่เธอได้รับเลือกให้เป็นไม้สุดท้ายของคบเพลิงโอลิมปิก ย่อมแสดงให้เห็นถึงคนรุ่นใหม่ ที่ก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจากยอดนักกีฬารุ่นเก่า โนมูระ ทาดาฮิโระ เหรียญทองยูโด โอลิมปิก, ตำนานนักเบสบอลญี่ปุ่น ฮิเดกิ มัตสุอิ, ชิเกโอะ นากาชิมา และ โอ ซาดาฮารุ ก่อนส่งต่อให้ สึชิดะ วากาโกะ นักกีฬาพาราลิมปิก 7 สมัย เจ้าของสามเหรียญทอง
จากนั้น สึชิดะ ส่งให้กลุ่มยุวชนญี่ปุ่น ที่เป็นทั้งเด็กเรียนและนักกีฬาประถม รับช่วงต่อเพื่อส่งให้ โอซากะ
แนวคิดคือ….นั่นคือการส่งไม้ให้ โอซากะ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ มันคือการร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจระหว่างคนรุ่นเก่า กับ คนรุ่นใหม่ ด้วยภาพที่สื่อออกมาให้ชาวโลกเห็นผ่านการจุดคบเพลิง แนวคิดแฝงความนัยชัดเจนนะครับ
โอลิมปิกครั้งนี้ชิงเหรียญทอง 339 เหรียญจาก 33 ชนิดกีฬากับ 50 ประเภทแข่งขัน ตามความคาดหมายก็คือว่าสหรัฐ น่าจะเป็นเจ้าเหรียญทอง ส่วนบ้านเรานั้น คาดการณ์กัน 1-3 ทอง
เทควันโด “เทนนิส” พาณิภัค วงค์พัฒนกิจ มวยสากลชาย ฉัตรชัยเดชา บุตรดี มวยสากลหญิง สุดาพร สีสอนดี ส่วนที่พอได้ลุ้นทอง ยิงเป้าบินสกีตหญิง สุธิยา จิวเฉลิมมิตร
กอล์ฟหญิง โปรแพตตี, โปรเม ก็พอมีลุ้น แต่ฝั่งเกาหลีใต้นั้นเขาจับจอง แบดคู่ผสม บาส-ปอป้อ คู่มือสองของโลก หรือจะเป็น หญิงเดี่ยว น้องเมย์ รัชนก อาจหวังเหรียญทองแดงได้ ดูชื่อนักแบดมินตันหญิงเดี่ยว มากันครบเลย เฉิน ยู่ เฟย, ไท่ ซื่อหญิง, นาโอมิ โอกูฮาระ, อะกาเนะ ยามากูชิ ต่างหวังทองทั้งนั้น
ไม่รวม พีวี สินธุ เหรียญเงินที่ริโอ สี่ปีก่อน แล้ว โอลิมปิก 2020 นี่มันยังไงดี ย้อนไปที่การจัดโอลิมปิกครั้งแรกก่อน ครับโตเกียว 1964 เหมือนประกาศความเป็นชาติญี่ปุ่น
การจัดอีเว้นต์กีฬาระดับโลก แสดงถึง “เศรษฐกิจ” และ “การพัฒนาประเทศ” การเป็นเจ้าภาพเงินต้องถึงละครับ รวมทั้งศักยภาพทางกีฬาก็ต้องแกร่งจริง แต่สิ่งสำคัญ “เศรษฐกิจ “คือดัชนีชี้วัดได้ชัดเจนถึงความพร้อม ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมมือกัน
โอลิมปิก 1964 ที่โตเกียว ครั้งก่อนโน้น ยืนยันชัดเจนได้ดี มันเกิดขึ้นหลังจากมหาสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม จากปี 1945 ถึงปี 1964 จนพวกเขามี ความแข็งแกร่ง จัดโอลิมปิกได้ 20 ปีเองครับ….
พัฒนาเร็วมาก…อย่างที่ทุกคนทราบ ความมีระเบียบวินัย การตั้งใจ เอาจริงเอาจัง จากประเทศชาติแทบล้มละลายเพราะแพ้สงครามโลก ญี่ปุ่นลุกขึ้นยืนรวดเร็วแถมจัดโอลิมปิก เพื่อประกาศชาวโลกว่า ญี่ปุ่น “คัมแบ็ก”
ครั้งนั้นญี่ปุ่นเปิดตัว รถไฟ “ชินกันเซน” รถไฟหัวกระสุน เร็วสุดในโลก ก่อนพิธีเปิดมีการทดสอบจากโตเกียวถึงโอซากา 290 ก.ม. ในสามชั่วโมง นั่นคือส่วนหนึ่งนะครับที่แสดงให้เราเห็นว่า “ศักยภาพ” ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับ “เศรษฐกิจ”
กระนั้น “ด้านมืด” ก็มีแน่นอน มีผู้ได้รับผลกระทบ พี่น้องประชาชน สิ่งปลูกสร้าง ชาวประมง, หมา, แมว ทุกอย่างต้องถูกจัดระเบียบก่อนการแข่งขันนับปี ถ้ามองแง่บวก…โอลิมปิก 1964 เมื่อ 57 ปีก่อน คือการเปิดตัว “ญี่ปุ่น” ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งต่อมาคือมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องจนถึงช่วงปี 2000
แล้ว โอลิมปิก 2020 ดูเหมือนสะบักสะบอมไม่น้อยทีเดียว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ญี่ปุ่นจัดโอลิมปิก แต่นี่คือครั้งที่ญี่ปุ่นเสนอตัวจัดโอลิมปิกอย่างมั่นใจ ทุกคนเชื่อมั่นถึงขนาดบอกว่าเสนอตัววันนี้ พรุ่งนี้จัดได้เลย เราก็เชื่อในศักยภาพของคนญี่ปุ่น คงไม่มีปัญหาอะไร
ครั้นพอเกิดโรคระบาดโควิดเมื่อปลายปี 2019 ก่อนแพร่เชื้อไปทั่วโลก คราวนี้ก็ยากละครับ เพราะไม่ใช่แค่เจ้าภาพชาติเดียว ทั้งหมด 206+1ชาติ กับนักกีฬาหลักหมื่น ไม่รวมเจ้าหน้าที่ …มุ่งหน้ามายังญี่ปุ่น ใครจะมีความมั่นใจละครับ คนญี่ปุ่นเองก็ไม่มั่นใจ สายพันธุ์ไหนบ้าง อัลฟา, เบตา, เดลต้า …..
1 ขาดทุนย่อยยับ
คงต้องโทษโควิด-19 ละครับ ที่เล่นงานจนทำให้เลื่อนการแข่งขัน มูลค่าความเสียหาย 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 840,000 ล้านบาท!!!! อันนี้ ส่วนการเงินธุรกิจ จากน.ส.พ. นิคเคอิ และ อาซาฮี สรุปตัวเลขก่อนแข่งสองวัน ก่อนหน้านี้ตอนถูกเลือกเป็นเจ้าภาพปี 2013 งบ 7,300 ล้านเหรียญสหรัฐ 219,000 ล้านบาท
ธ.ค. 2019 ก่อนแข่งโอลิมปิกหนึ่งปี งบบานปลายที่ 12,600 ล้านเหรียญสหรัฐ การคืนตั๋วให้กับแฟนกีฬาที่จองล่วงหน้าก็อีก 530 ล้านปอนด์ ทั้งการท่องเที่ยง, โรมแรม แพคเกจทัวร์ อะไรต่างๆอีกมากมาย แม้เลื่อนมาจัดในปีนี้ ก็มีค่าความเสียหายอยู่แล้วไม่จัดก็เสียหายหลายแสนล้านบาท ถึงจัดก็เสียหายอยู่ดี
2 คนญี่ปุ่น “คัดค้าน”
ผลสำรวจตั้งแต่ให้เลื่อน จน “ยกเลิก” มีทุกสำนัก โดยเฉพาะ อาซาฮี ชิมบุน สำรวจต้นเดือนก.ค. โอลิมปิกครั้งนี้ปลอดภัยหรือไม่
68% ไม่มั่นใจว่าปลอดภัย
21% มั่นใจว่าปลอดภัย
มุมสื่อมวลชนญี่ปุ่น ทุกๆ6.5 ใน 10 คนบอกว่า “ไม่ปลอดภัย” ย้อนไปช่วง มี.ค.ที่ผ่านมา ช่วงนั้นหนักเลย อาซาฮี ชิมบุน นี่แหละครับนำร่องสำรวจความคิดเห็น ประชาชนญี่ปุ่นกว่า 83% ระบุ “ยกเลิก” หรือ “เลื่อน” จัดโอลิมปิก เม.ย. 43% “ยกเลิก, พ.ค. มีการโทรศัพท์ถามความคิดเห็นตามบ้านคน ปรากฏว่า 46% ให้ “ยกเลิก”
แน่นอนครับทั้ง นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ โทมาส บัค ประธานโอลิมปิก รวมทั้งประธานจัดโอลิมปิก เซโกะ ฮาชิโมโตะ พร้อมให้ความเชื่อมั่นผ่านสื่อเป็นระยะ นั่นรวมทั้งผู้นำระดับโลก
อีกทั้ง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ประชุมกลุ่ม จี7 เดือนพ.ค. ก็สนับสนุนญีปุ่นเดินหน้าจัดโอลิมปิก ดูเหมือนคนอยากให้จัดก็ต้อง “หนุนหลัง” ยกเว้นประชาชนญี่ปุ่น
3 มีแต่เรื่อง “อื้อฉาว”
เริ่มจากประธานจัดโอลิมปิกคนเดิม นาย โยชิโระ โมริ ดันไปพูดพาดพิงต่อว่าเชิงเหยียดเพศ โดยเขาบอกว่า..”เวลาประชุมกับผู้บริหารหญิง เสียเวลาเปล่า ไม่ได้อะไร พูดเยอะแยะเกิน”
เท่านั้นสื่อออกมากดดัน โจมตี จนเขาต้องขอโทษและลาออกจากตำแหน่ง เซโกะ ฮาชิโมโตะ จึงรับตำแหน่งนี้เมื่อ ช่วงก.พ. ฮาชิโมโตะ คืออดีตเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก สปีด สเกต แล้วเหลือเชื่อครับสองวันก่อนพิธีเปิดโอลิมปิก
เคนตาโร โคบายาชิผู้กำกับการแสดงโอลิมปิก 2020 …..โดนปลด!!! เหตุผลคือเรื่องเก่าที่เขาไปล้อเลียนเรื่องชาวยิว ด้วยวลี Let’s play Holocaust มันคือเรื่องการกำจัดชาวยิวให้สิ้นซากในยุค นาซี ใครดูหนังเรื่อง life is beautiful นึกภาพออกนะครับ เขาพูดเอาไว้เมื่อ 23 ปีก่อนโน้นแต่ มันมีคลิปมุขตลกของเขานำมาเผยแพร่ออนไลน์
นั่นทำให้ เซโกะ ประธานจัดสั่งปลดแล้วขอโทษอิสราเอล ถึงเรื่องนี้ หรือเดือนมี.ค. ฮิโรชิ ซาซากิ ครีเอทิฟ ไดเรกเตอร์ ลาออก เพราะไปล้อเลียนผู้หญิงเหมือนหมู
ส่วน อีกคนหนึ่ง เคโกะ โอยามาดะ ที่ไปล้อเลียนเพื่อนในการให้สัมภาษณ์นานแล้ว แต่ถูกนำมาขุดคุ้ยอีกครั้ง เขาตัดสินใจลาออกเพราะโดนกดดัน ก่อนพิธีเปิดสามวัน อ่า……มาตรฐานของญี่ปุ่นทำไมสูงจัง หรือว่านี้คือส่วนที่ทำให้พวกเขาพัฒนาประเทศได้เร็ว
4 นักกีฬาซ้อม “นาน”
แน่นอนครับ นักกีฬาทุกชาติที่ผ่านคัดเลือกเข้ามา ต้องปรับโปรแกรมซ้อมใหม่หมด ที่ทำได้คือ “ซ้อม” และ “รอ”ลงสนามแข่งขัน อย่างอดทน เราไม่เป็นนักกีฬาก็ไม่รู้ถึงความเบื่ออันนั้น แต่ต้องอดทนรอ เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าๆ นั่นแหละครับ
ความสามารถที่จะแสดงออกมาในครั้งนี้…”สูงสุด” หรือ “ขีดสุด” หรือไม่ รอติดตาม….แต่นี่น่าจะเป็นการเตรียมตัวที่นานที่สุดของนักกีฬาโอลิมปิก
5 ไต้ฝุ่น…
มีพยากรณ์อากาศว่าพายุใต้ฝุ่น น่าจะถึงโตเกียววันจันทร์หน้า อันนี้ก็ต้องรอดูผลกระทบละครับว่ามากน้อยขนาดไหน จากที่เสนอตัวและได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วันไปรับงานที่ มาราคานา เล่นเอา ชินโสะ อาเบะ เป็น “มาริโอ” ที่โด่งดัง
กระนั้นเราก็มั่นอกมั่นใจว่า “โตเกียว 2020” จะเป็นไปด้วยดีมากๆ ใครจะคิดว่า “โควิด” แพร่ระบาดทีเดียว….ทุกอย่างแทบพังทลาย การจัดครั้งนี้มันคือ The Show must go on สปิริต การร่วมแรงร่วมใจของ โอลิมปิก ยังเหนียวแน่น united by emotion ต้องผ่านไปให้ได้
ทว่า…มันก็สะท้อนให้เห็นในส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกันว่า มีความต่างจากปี 1964 ครั้งนั้นจัดแล้วญี่ปุ่นได้ทำให้ชาวโลกได้กลับมานับถือญี่ปุ่น รวมทั้งการพัฒนาประเทศรุดหน้าไปไกล จนเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกหลายทศวรรต
พอจัดโอลิมปิกครั้งนี้….เราจะได้เห็น “ญี่ปุ่น” เดินไปแบบไหน จะยังไงต่อไปกับทั้งเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขา แต่ที่แน่ๆ โอลิมปิก ครั้งนี้จัดบนความพร้อมที่ไม่พร้อม
เล่นเอาเจ้าภาพสะบักสะบอมทั้งตัว….แต่ชีวิตต้องสู้ครับ ญี่ปุ่นจะไปแบบไหนจากนี้…นั่นก็เรื่องหนึ่ง
แต่โอลิมปิกเที่ยวนี ต้องการความร่วมแรงร่วมใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่งั้น….คงไม่มี “โตเกียว 2020”
ดังนั้นการจัดแข่งขันครั้งนี้ได้….มันคือ “ชัยชนะ” ของโอลิมปิกอย่างแน่นอนครับ
Jackie