ติดโควิดทะลัก 13002 คน สังเวย 108 ศพ สาย “เดลตา” กลืน 5 เขตใน กทม. – ไทยรัฐ

พญ.อภิสมัยกล่าวช่วงสุดท้ายว่า เรื่องการฉีดวัคซีน กรมควบคุมโรคสรุปให้เพิ่มหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนด้วย บวกเข้าไปในกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น กลุ่มสูงอายุโรคเสี่ยงจะเพิ่มจาก 7 โรค เป็น 8 โรค กรณีที่ กทม.ขอให้ประชาชนลงทะเบียนไทยร่วมใจ พบว่า มีกลุ่มผู้สูงอายุเข้ามาลงทะเบียนค่อนข้างน้อย รวมไปถึงข้อร้องเรียนที่เข้ามาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย 191 หรือ แม้แต่กองทัพไทย ขอให้ทุกคนยังทำหน้าที่นี้ต่อไป หากมีพบเห็นผู้ฝ่า ฝืนมาตรการ หรือแม้แต่การทำงาน ของภาครัฐ หากสังเกตเห็นว่ายังปฏิบัติไม่ได้ตามมาตรการที่ประกาศไว้ การกักตัวที่บ้าน การกักตัว ในชุมชน ถ้ายังมีข้อขัดข้องติดขัด ให้ติดต่อเข้ามาที่ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง สายด่วน กทม. ทั้ง 1599 และ 1138 ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อนำประชาชนผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ ระดมฉีดวัคซีน เพื่อทำให้เป้าหมายการควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

“บิ๊กตู่” ออกจากบ้านถกช่วย ผปค.

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่ง ประกาศเวิร์กฟรอมโฮม ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เป็นประธานประชุมหารือออกมาตรการช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังจากมอบหมายให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปหาข้อสรุป เพื่อกำหนดแนวทาง

รอ ครม.เคาะสัปดาห์หน้า

ต่อมาเวลา 14.15 น. นายกฯโพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้ได้ประชุมกับ ศธ.และ อว.เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนในการช่วยลดภาระ/ค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ปกครอง ครู และนักเรียน/ นักศึกษาให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มด้อยโอกาสยากจนและกลุ่มผู้พิการ เช่น 1.ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียน 2.ขอความร่วมมือให้ลดหรือชะลอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆจากผู้ปกครองในโรงเรียนเอกชน 3.สนับสนุนค่าใช้จ่ายสถานศึกษาเพื่อรองรับการเรียนออนไลน์ 4.ช่วยเหลือผู้ปกครองที่ถูกเลิกจ้างงาน โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ทั้ง 2 กระทรวงจัดทำรายละเอียดและขั้นตอนในมาตรการต่างๆให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า

อนุมัติ รพ.สนามสุวรรณภูมิ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) กรณีโรคติดเชื้อโควิด เห็นชอบแบบโรงพยาบาลสนามระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ) ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่ 1 (SAT 1) ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกแบบแล้ว หลังจากนี้จะเสนอของบประมาณสนับสนุนต่อไป โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะรองรับผู้ป่วย 4,500 เตียง เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นไป ขณะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. อยู่ระหว่างจัดเตรียมพื้นที่อาคารคลังสินค้า 4 ของท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีก รองรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงรวม 2 พื้นที่ของ ทอท. เกือบ 7,000 เตียง

ปตท.-คิงเพาเวอร์อัดฉีด รบ.สู้โควิด

เวลา 14.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการอิสระและประธานกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นำคณะผู้บริหารและ น.ส.อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยกลุ่ม ปตท.มอบยารักษาโควิดเรมเดซิเวียร์ 2 พันขวดเพิ่มปริมาณสำรองยาสามารถใช้รักษาหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสี่ยงต่อการแพ้ยาฟา-วิพิราเวียร์ ส่วนกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบเงินจากการจำหน่ายเสื้อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้โครงการ THAILAND SMILES WITH YOU สนับสนุนโครงการจัดหาวัคซีน 20 ล้านบาท และโครงการพัฒนาวัคซีนของมูลนิธิรามาธิบดีฯ 5 ล้านบาท รวม 25 ล้านบาท ขณะที่นายกฯกล่าวขอบคุณและยืนยันจะนำเงินที่ได้รับมอบไปใช้เป็นไปตามวัตถุประสงค์

คมนาคมพร้อมส่งคนป่วยกลับ ตจว.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามเตรียมการส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนาในพื้นที่ 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะเป็นแกนกลางหลักในการประสานกับผู้ป่วยและตนรับผิดชอบจังหวัดในพื้นที่ ประสานระหว่างผู้ป่วยกับหน่วยงานของรัฐในการจัดส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาผ่านสายด่วน 1330 โดยได้สั่งการให้หน่วยงานด้านคมนาคมที่ดูแลด้านการขนส่งคน ดำเนินการตามมาตรการ ทั้งการเว้นระยะห่างในรถ การทำความสะอาด รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ป่วยระหว่างเดินทาง

ศพโควิดตายแล้วไม่แพร่เชื้อ

ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งที่ศพไม่สามารถแพร่เชื้อได้และศพที่เสียชีวิตจากโควิดก็ถูกบรรจุในถุงซิปเรียบร้อย การจัดการศพทำได้ปกติ พระและสัปเหร่อไม่ต้องสวมชุด PPE ความร้อนในการเผาศพประมาณ 5,000-6,000 องศาเซลเซียส สามารถเผาศพและฆ่าเชื้อได้หมด เรื่องนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตั้งแต่ปีที่แล้ว ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทยจะทำหนังสือคำแนะนำและความเข้าใจที่ถูกต้อง ขณะนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งวัดไม่ยอมรับศพไปเผาเพราะกลัว บางวัดมีการปรับปรุงเตาเผาซึ่งไม่จำเป็น ความร้อนปกติทำลายเชื้อได้ ไม่จำเป็นต้องสร้างเตาใหม่ เพียงขอให้ทุกวัดช่วยกันรับศพไปเผาเท่านั้นจะแก้ปัญหาศพค้างใน รพ.ได้ หากประชาชนพบเห็นคนเสียชีวิตคาถนนไม่ต้องกลัว เพราะศพไม่แพร่เชื้อ เพียงแต่ไม่ต้องเข้าไปสัมผัส แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งมูลนิธิกู้ภัยหรือตำรวจเข้าไปดำเนินการเท่านั้นพอ

รพ.บุษราคัมดูแลคนไข้หนักเพิ่ม

นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผอ.รพ.บุษราคัม แถลงถึงการบริหารจัดการ รพ.บุษราคัมว่า รพ.เปิดมาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.64 ดูแลคนไข้สะสมทั้งหมด 10,395 คน หายแล้วกลับบ้านไป 6,955 คน คงค้างรักษาอยู่ประมาณ 3,300-3,600 คน จำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 6-9 คนต่อวัน ใช้เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ 150-160 คน ใช้ออกซิเจนประมาณ 500 คน ยังรองรับผู้ป่วยได้ประมาณวันละ 300-400 คน ปัจจุบันมีบุคลากรที่ทำงานรวม 300 คนเศษ เป็นแพทย์ 50-60 คน พยาบาล 200 คน ที่เหลือเป็นเภสัชกร นักรังสี ผู้ช่วยดูแลคนไข้ พนักงานเอกสาร บุคลากรทั้งแพทย์พยาบาลส่วนใหญ่เป็นจิตอาสาที่มาจากต่างจังหวัดเกือบ 100%

เพิ่มค่าตอบแทนนอกเวลา 2 เท่า

นพ.กิตติศักดิ์กล่าวด้วยว่า การรับภาระงานที่หนักมากขึ้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงมีดำริให้ดูแลขวัญกำลังใจและอนุมัติให้เพิ่มค่าตอบแทนนอกเวลาราชการเป็น 2 เท่าตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป รพ.บุษราคัมเป็นลูกข่าย รพ.พระนั่งเกล้า สิทธิการเบิกจ่ายต่างๆขึ้นอยู่กับต้นสังกัด ได้ประสานให้ รพ.ดำเนินการให้ครบถ้วน โดยเฉพาะที่มีข่าวได้รับเบี้ยเลี้ยงเพียง 8 บาท น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ได้ให้ รพ.พระนั่งเกล้าไปสอบทวน เพื่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างครบถ้วน ส่วนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน ตามมติ ครม. เบิกจ่ายเป็นงวดๆจากสำนักงบประมาณ ยืนยันทุกคนได้รับแน่นอน อยากฝากถึงสถานการณ์การระบาดที่รุนแรงขณะนี้ ทุกฝ่ายทำงานอย่างหนักเต็มที่ เราอยู่ในภาวะที่ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จึงอยากให้สื่อสารเชิงบวกเพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน

ขอโทษ ปชช.หาวัคซีนไม่ทัน

ขณะที่ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันพยายามติดต่อประสานจัดหากับผู้ผลิตวัคซีนทั้งที่มีวัคซีนแล้วและอยู่ระหว่างวิจัย ตั้งแต่ ส.ค.ปีที่แล้ว พยายามหาช่องทางจองซื้อล่วงหน้า จนเป็นที่มาในการจองแอสตราเซเนกาล่วงหน้า 61 ล้านโดส ทุกส่วนก่อนที่จะลงนามต้องปรึกษาหารือฝ่ายกฎหมายของประเทศ ตามระบบราชราชการ จึงเป็นที่มาให้เกิดการรับรู้ว่า การดำเนินการจัดหา อาจไม่ทันตามจำนวนที่คิดว่าควรจะเป็นเนื่องจากข้อจำกัดที่มี จึงต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชน แม้สถาบันพยายามจัดหาแต่ยังได้ในจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมทั้งการกลายพันธุ์ไวรัสที่ไม่สามารถคาดหมายได้ล่วงหน้า จนเกิดการระบาดรวดเร็วและรุนแรง ทำให้จัดหาวัคซีนไม่ทันดังนั้นต้องกราบขออภัย

เร่งจัดหาวัคซีนรุ่น 2

นพ.นครกล่าวด้วยว่า สถาบันจะเร่งจัดหาเพิ่มในปีนี้และปีหน้า โดยเฉพาะปี 65 จะเร่งจัดหากับผู้ผลิตวัคซีนรุ่น 2 ตอบสนองไวรัสกลายพันธุ์ มีเป้าหมายให้ส่งมอบให้ได้ไตรมาสที่ 1 ปี 65 และยังเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ได้เริ่มเจรจามีเป้าหมายการรับวัคซีนในปี 65 รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาวิจัยวัคซีน ทั้งรูปแบบการหาเทคโนโลยีมาเพื่อถ่ายทอดการแสวงหาความร่วมมือกับผู้ผลิตที่จะขยายกำลังการผลิตด้วยแพลตฟอร์มต่างๆ สนับสนุนการวิจัยต้นแบบวัคซีนภายในประเทศที่ดำเนินการอยู่ ทั้งของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ องค์การเภสัชกรรม บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย และใบยาไฟโตฟาร์ม สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสในปี 64 สถาบันเร่งเจรจากับผู้ผลิตที่มีศักยภาพไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ทั้ง mRNA ซับยูนิตโปรตีน แต่ได้เท่าไหร่เวลาใดยังตอบไม่ได้

ผู้สูงอายุ-7 โรค-คนท้องฉีดไขว้ได้

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การฉีดวัคซีนสลับชนิด ดำเนินการบนเหตุผลทางวิชาการ การจับคู่ระหว่างวัคซีนซิโนแวคเชื้อตายและแอสตราเซเนกาซึ่งเป็นไวรัลเว็กเตอร์ มีงานวิจัยต่างประเทศพบมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีความปลอดภัยสูง รวมถึงการบูสเตอร์ควรเป็นวัคซีนกระตุ้นทีเซลล์ เป็นกลุ่ม mRNA หรือไวรัลเว็กเตอร์ ซึ่งดำเนินการต่างๆอยู่บนเหตุผลทางวิชาการและปรับกระบวนการกับวัคซีนที่มีอยู่ การฉีดวัคซีนนอกจากลดความรุนแรง ลดการเสียชีวิต จะช่วยลดจำนวนการติดเชื้อลง จะต้องฉีดวัคซีนให้มีจำนวนมากพอ รวมถึงมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ต้องฉีดให้ได้วันละ 3-4 แสนคนและต้องมีคนมาให้ฉีด จึงขอย้ำให้ทุกคนที่ได้รับการจัดสรรมารับการฉีด ทั้งนี้ ไม่มีข้อห้ามสำหรับการฉีดสลับชนิด ยกเว้นคนแพ้วัคซีน หากใครที่แพ้วัคซีนตัวนั้นๆ ไม่ควรฉีดซ้ำกับตัวที่ฉีด ผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ก็ไม่เป็นข้อห้ามสำหรับการฉีดไขว้

สุดหดหู่เดินมาล้มตาย

สำหรับเหตุการณ์ที่มีคนตายคาถนนหลายศพจากโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 ก.ค. และก่อให้เกิดความสลดหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น รายแรกเป็นชายวัยประมาณ 40-50 ปี นอนหงายตายคาถนน ที่ตรอกบ้านพานถม ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กทม. ตำรวจไปสอบสวนพบผู้ตายที่เป็นคนเร่ร่อน เดินออกมาจากชุมชนละแวกนั้นเมื่อช่วงเวลา 10.00 น. พอถึงบริเวณดังกล่าวก็ล้มลง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าช่วย เพราะทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 กระทั่งเวลา 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยใส่ชุด PPE มาช่วยให้ออกซิเจน จน 16.00 น. ชายดังกล่าวเสียชีวิต ชาวบ้านแจ้งไปยังหลายหน่วยงานแต่ไม่มีหน่วยงานใดมาเก็บศพ จนเวลา 22.30 น. มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสวมชุดพีพีอี มาเก็บร่างส่งชันสูตรที่ รพ. วชิรพยาบาล ขณะที่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงครามเจ้าของพื้นที่กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิดจึงต้องมีเจ้าหน้าที่เฉพาะสำหรับการเก็บศพผู้เสียชีวิตโควิด เพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยปกติไม่สามารถทำได้และเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่อยู่ชุดเดียวแต่ต้องตระเวนเก็บศพผู้เสียชีวิตโควิดหลายพื้นที่ ทำให้กว่าจะมาเก็บศพรายนี้ได้ใช้เวลานาน

ดับปริศนาอีก 2 ราย

อีกรายเวลา 22.40 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สวมชุดพีพีอีเข้าเก็บศพผู้เสียชีวิตหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กทม. ชื่อนายเสรี เรืองโรจนฤทธิ์ อายุ 59 ปี ชาวต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ชาวบ้านบอกว่า ชายคนนี้นอนเสียชีวิตตั้งแต่ช่วง 18.00 น. แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.วชิรพยาบาล ขณะที่พบผู้เสียชีวิตคาถนนอีกคนที่หน้าโลตัสพระราม 4 ตำรวจ สน.ทองหล่อไปสอบสวนพบเป็นคนเร่ร่อนไม่มีเอกสารใดๆติดตัวและไม่ใช่คนในพื้นที่

หนุ่ม 26 ปีตายคาบ้าน

ส่วนเรื่องราวสุดสะเทือนใจคนป่วยโควิดตายคาบ้าน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 339/49 ถนนเจริญกรุงซอย 107 แยก 9 แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. เมื่อวันที่ 20ก.ค.เจ้าหน้าที่สวมชุด PPE พร้อมโลงศพ 1 ใบและถุงนิรภัยไปรับศพนายวราพล เจริญทรัพย์ อายุ 26 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้านนี้นำใส่โลงไปฌาปนกิจที่วัดจันทร์ในเขตบางคอแหลม ขณะที่พบผู้ป่วยโควิดในบ้านอีก 4 คน เพื่อนบ้านเผยว่าบ้านหลังนี้อยู่ร่วมกัน 6 คน มีนายพา เจริญทรัพย์ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน น.ส.เพ็ญศรี อบเทียน อายุ 56 ปี ภรรยา นายวราพลผู้ตายเป็นบุตรชายคนโต นายชัยพฤกษ์ เจริญทรัพย์ อายุ 22 ปี บุตรชายคนเล็กและยังมีญาติ น.ส.เพ็ญศรี อยู่ด้วยอีก 2 คน คือ น.ส.อรอนงค์ อบเทียน อายุ 42 ปี นายแพ็ก อบเทียน อายุ 31 ปี ช่วงต้นเดือนนายพาป่วยโควิด มีรถพยาบาลมารับไปรักษาที่ รพ.หัวเฉียว ต่อมาอีก 5 ชีวิตในบ้านติดโควิดเช่นกันและไม่กล้าออกไปไหน พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการหลายหน่วยงาน ให้ส่งรถมารับไปรักษาแต่ไม่มีใครมาและให้ญาติๆสั่งอาหารให้แกร็บฟู้ดมาส่งที่บ้าน

รับ 3 คนป่วยไปรักษาแล้ว

จนเมื่อวันที่ 16 ก.ค. น.ส.อรอนงค์ อบเทียน อายุ 42 ปี อาการทรุดหนักตายคาบ้านไปเป็นศพแรก ตามด้วยนายวราพล ตายเป็นศพที่ 2 เหลืออีก 3 ชีวิตในบ้านที่ติดโควิด แต่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานใดๆ ทำให้เพื่อนบ้านหวาดผวา จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ต่างวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยมาตรการที่ดีกว่านี้ ขณะที่ในเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ก.ค. มีรถตู้พยาบาลจากหน่วยงานไม่ทราบสังกัด พร้อมเจ้าหน้าที่มารับผู้ป่วย 3 คนที่อยู่ในบ้าน มี น.ส.เพ็ญศรี นายชัยพฤกษ์ และนายแพ็ก ไปรักษาที่ รพ.บุษราคัมแล้ว

แจ้งคิวฉีดวัคซีนที่ถูกเลื่อน

ขณะที่เพจไทยร่วมใจ “กรุงเทพฯ ปลอดภัย” โพสต์ข้อความอัปเดตการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ใน กทม. และลงทะเบียนแล้ว ให้มาฉีดตามนัดหมายและผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้เหมือนเดิมที่ www.ไทยร่วมใจ.com /แอปฯเป๋าตัง/ร้านสะดวกซื้อที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมตั้งแต่วันที่ 19-23 มิ.ย. เข้ารับการฉีดวัคซีนใหม่ ดังนี้ คิวฉีดเดิม 19 มิ.ย. คิวฉีดใหม่ 22 ก.ค.คิวฉีดเดิม 20 มิ.ย. คิวฉีดใหม่ 23 ก.ค. คิวฉีดเดิม 21 มิ.ย. คิวฉีดใหม่ 24 ก.ค. คิวฉีดเดิม 22 มิ.ย.คิวฉีดใหม่ 25 ก.ค. คิวฉีดเดิม 23 มิ.ย. คิวฉีดใหม่ 26 ก.ค. ตามเวลาและสถานที่เดิม สำหรับผู้มีคิวนัด ตั้งแต่ 24 มิ.ย.เป็นต้นไปจะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีน

วอล์กอินฉีดวัคซีนคนอายุ 60

วันเดียวกัน น.ส.อารยา ภู่พานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน เปิดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถวอล์กอินเข้ามารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาโดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.-30 ก.ค. เวลา 08.00-14.00 น.

สิงห์อาสาแจกข้าว–น้ำคนไร้บ้าน

ขณะที่กลุ่มสิงห์อาสานำอาหารกล่อง 200 ชุด และน้ำดื่มสิงห์กว่า 1,200 ขวด ไปแจกให้แก่คนไร้บ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่อาศัยอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน และหน้าศูนย์เบนซ์ธนบุรี ถนนราชดำเนิน เพื่อเป็นเสบียงประทังชีวิต โดยอาหารกล่อง 200 ชุด กลุ่มสิงห์อาสาได้อุดหนุนจากผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่ง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ครั้งนี้เพื่อให้มีรายได้บรรเทาความเดือดร้อน

แพท-ณปภาชัวร์แล้วไม่มีเชื้อ

ส่วนกรณีนักแสดงและพิธีกรสาว “แพท-ณปภา ตันตระกูล” ที่แจ้งว่าตรวจพบเชื้อโควิด-19 ส่วนลูกชาย น้องเรซซิ่ง ตรวจไม่พบเชื้อและแพทได้แยกออกมากักตัวที่ฮอสพิเทล ซึ่งไม่มีอาการใดๆ จนเมื่อวันที่ 21 ก.ค. แพทได้ไปตรวจหาเชื้อรอบที่ 3 ผล “ไม่พบเชื้อ” แต่ก็ยังไปตรวจหาเชื้อเป็นครั้งที่ 4 ต่อมาแพทเผยว่า รพ.ปิยะเวท ที่ไปตรวจครั้งที่ 2 แจ้งว่าพบเชื้อจึงไปตรวจอีกครั้ง โดยได้มีการเจาะเลือดตรวจเพื่อความชัดเจน ผลเลือดออกมาว่า ในตัวไม่เคยมีเชื้อและให้กลับบ้านได้ ตามหลักแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม และคนที่ใกล้ชิดก็ไม่ต้องกักตัว แต่เพื่อความสบายใจจะกลับไปกักตัวที่บ้านจนถึงวันที่ 25 ก.ค. และจะไปตรวจอีกครั้ง

เป็นความดันแต่หมอให้ฉีดไขว้ได้

สำหรับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนไขว้ เกิดเมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. ที่บ้านเลขที่ 71 ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษชื่อสถาบันพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์คิงแมทส์ พ.ต.ต.พสิษฐ์ จุลทะการ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ไปสอบสวน พบในห้องนอนมีร่าง น.ส.พงศ์ภัค ศรัทธาโสภณ อายุ 39 ปี ครูสอนพิเศษและเจ้าของโรงเรียน นอนเสียชีวิตมาแล้ว 3 ชั่วโมง นายศักดิ์สิทธิ์ ดุจวรรณ์ อายุ 44 ปี สามีของผู้ตายกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ตนและภรรยาไปรับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม 2 ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กลับมามีอาการข้างเคียงปวดหัวตัวร้อนหนาวสั่นเล็กน้อย โรงพยาบาลแนะนำให้กินยาพาราเซตามอล และภรรยาขอไปนอนพักผ่อนบนห้อง จนช่วงเย็นมีอาการหนักขึ้นโดยอาเจียนเยอะมาก เมื่อขึ้นไปดูช่วงเวลา 19.00 น. พบภรรยาเสียชีวิตแล้ว ระหว่างนั้นพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล สำหรับภรรยามีโรคประ จำตัวความดันและกินยาควบคุมอยู่ ก่อนฉีดวัคซีนแพทย์ยืนยันว่าไม่มีผลต่อร่างกายจึงมั่นใจเมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ไม่เชื่อมั่นในวัคซีนและระบบสาธารณสุขไทย

รอชันสูตรหญิงฉีดไขว้เสียชีวิต

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องหญิงอายุ 39 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนสลับชนิด ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต รายนี้พบว่าเป็นครู มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงและมีภาวะอ้วน ฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นซิโนแวควันที่ 28 มิ.ย. ฉีดเข็ม 2 วัคซีนแอสตราเซเนกาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ พิจารณาจากข้อมูลผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันที่ให้มีการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายของซิโนแวคและตามด้วยไวรัลเวกเตอร์ของแอสตราฯห่างกัน 3 สัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เร็วภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีดเข็ม 2 จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดมากกว่า 84,000 คน ยังไม่พบอาการรุนแรง กรณีนี้เป็นรายแรกที่มีการเสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน ยังต้องหาสาเหตุต่อไป แพทย์ได้ตรวจเบื้องต้นและชันสูตรที่ รพ.พระจอมเกล้าจะทราบผลในเร็ววันนี้ ขณะนี้จึงยังไม่สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

ตาย 229 คนไม่เกี่ยววัคซีน

นพ.โสภณกล่าวด้วยว่า ไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 14.8 ล้านโดส มีรายงานการเสียชีวิตประมาณ 229 ราย คิดเป็น 16 ต่อ 1 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนส่วนใหญ่เป็นคนที่ได้รับวัคซีนอยู่ในระยะ 1 เดือนหลังรับวัคซีน มีการติดตามข้อมูลและผลการพิจารณาสาเหตุโดยคณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีการแถลงอยู่เป็นระยะ ส่วนใหญ่เมื่อคณะกรรมการพิจารณาข้อมูลโดยละเอียด ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีน อาการที่เกิดขึ้น ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงผลการชันสูตรศพ ไม่พบว่ามีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนโดยตรง แต่มีโรคร่วมที่พบบ่อยคือโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง อีกส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา

แจ้ง นทท.หนีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ที่ จ.ภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวในรายการ “ผู้ว่าฯรายงานประชาชน” ทาง สวท.ภูเก็ต ถึงกรณีนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โดยไม่ยอมพักในจังหวัดครบ 14 คืน 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 18 ปี เดินทางมาจากอังกฤษและออกจากจังหวัดภูเก็ตโดยเครื่องบินกลับบ้านไปบ้านที่ จ.ชลบุรี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต ได้แจ้งให้มีการดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดภูเก็ตเรื่องการออกนอกพื้นที่ อีกด้านที่ จ.พัทลุง พบผู้ป่วยโควิด-19 มากถึง 145 รายจากคลัสเตอร์เบทาโกร ส่วนที่ จ.ยะลา พบอีก 164 ราย จากคลัสเตอร์ปอเนาะ

ระยอง 305 ราย-ปิด รง.ไทยแอโรว์

ที่ จ.ระยองยอดผู้ป่วยโควิด-19 ยังพุ่งไปถึง 305 ราย พบมากที่สุดคือที่ อ.ปลวกแดง 126 ราย ขณะที่นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา มีคำสั่งปิดโรงงานไทยแอโรว์ ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า เป็นเวลา 14 วัน หลังพบพนักงานของบริษัทติดเชื้อโควิด-19 กว่า 200 คน

นครปฐมป่วยเกือบทั้งโรงพัก

ที่ จ.นครปฐม มีตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ติดโควิดกันเกือบทั้งโรงพักจนต้องมีการปิดโรงพักฉีดพ่นน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เพราะมีผู้ติดเชื้อตั้งแต่ระดับรอง ผกก.จสต.นายสิบและ ปชส.สถานี จึงสั่งให้กักตัวไว้ในแฟลตตำรวจ 14 วัน รอดูอาการ ทำให้พนักงานสอบสวนทั้งหมดต้องถูกกักตัวไปด้วย ส่วนที่สุพรรณบุรีพบยอดผู้ติดโควิดมากถึง 274 ราย

สลด พนง.ดับเพลิง รง.หมิงตี้ตายโควิด

ที่ จ.สมุทรปราการ มีเรื่องน่าเศร้า เมื่อ พ.ต.ท.สภัศ ปราการพิทักษ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.บางพลีไปสอบสวนเหตุพนักงานดับเพลิง อบต.บางโฉลง ติดโควิด-19 เสียชีวิตในห้องน้ำที่ทำการ อบต.บางโฉลง หลังเก่า ที่ถูกใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ติดเชื้อโควิดของพนักงานดับเพลิง อบต.บางโฉลง อ.บางพลี พบนายนฤพนธ์ วงษ์แย้ม อายุ 47 ปี เป็นผู้เสียชีวิต ทั้งนี้นายนฤพนธ์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เคยไปช่วยดับไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอย กิ่งแก้ว 21 จนจบภารกิจและพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายคนติดเชื้อโควิด ทำให้ต้องมากักตัวดูอาการ จนเริ่มมีอาการเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ภรรยาแนะนำให้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 จ่ายเงินค่าตรวจไป 3,500 บาท ผลตรวจเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า ติดเชื้อโควิดจริงแต่ยังไม่ทันได้รับการรักษาก็มาเสียชีวิตก่อน

นนทบุรีพุ่งอีก 370 ราย

ส่วนที่ จ.นนทบุรี ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 21 ก.ค. พุ่งไปถึง 370 ราย เป็นชาย 161 ราย หญิง 209 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ใน อ.บางบัวทอง อ.เมืองนนทบุรี อ.ปากเกร็ด อ.ไทรน้อย อ.บางใหญ่และ อ.บางกรวย