“จักรพล” จี้เร่งออก “พาสปอร์ตวัคซีน” ซัด “บิ๊กตู่” ตกยุค ให้แก้ รธน.แล้วลาออกไป

เผยแพร่:
  ปรับปรุง:
  

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม

“เพื่อไทย” จี้รัฐบาลเร่งทำ “พาสปอร์ตวัคซีน” พ่วง “แก้รัฐธรรมนูญ” หนทางฟื้นเเศรษฐกิจไทย ซัดถ่วงแก้ รธน.ทำไทยถอยหลัง ซัด “ประยุทธ์” ตกยุค จี้รีบแก้ รธน.แล้วลาออก เป็นหนทางดีที่สุด

วันนี้ (17 มี.ค. 64) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า แอบลุ้นอยู่นานว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยอมไปฉีดวัคซีนหลังจากยึกยักมาหลายครั้ง เนื่องจากความลังเลของ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบกับข่าวคราวที่มีหลายประเทศหยุดการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเพราะอาจจะมีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลควรจะต้องมีวัคซีนจากหลายบริษัทเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด

“นอกจากนี้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เตรียมการเรื่องพาสปอร์ตวัคซีนพร้อมไปกับการกระจายการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วนโดยทันที ตามที่ผมได้เคยเสนอไว้แต่แรก เพราะยิ่งทำเร็วเท่าไรเศรษฐกิจไทยก็จะยิ่งฟื้นกลับมาได้เร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และการค้าการลงทุน” นายจักรพลระบุ

นายจักรพลกล่าวต่อว่า รัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญว่าคนกลุ่มใดควรจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนหลัง ไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำ โดยกำหนดตามระบบขั้นตอนสาธารณสุขและความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ซึ่งไม่น่าจะใช่กลุ่มแคดดี้ในสนามกอล์ฟของทหารอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ระบบพาสปอร์ตแบบดิจิทัลน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะจะสามารถเชื่อมโยงกับทั้งโลกและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ทั้งการเข้าประเทศและการออกจากประเทศ และรัฐบาลต้องมั่นใจว่าวัคซีนที่จัดให้ประชาชนได้ฉีดป้องกันจะต้องเป็นที่ยอมรับของประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย

รองเลขาฯ เพื่อไทย กล่าวด้วยว่า เรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กันและอาจจะมีความสำคัญมากกว่าในระยะยาว คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนโดยต้องไม่เตะถ่วงเพียงเพื่อจะรักษาอำนาจกันอีกต่อไปแล้ว ทั้งนี้เพราะตลอดที่ผ่านมาสื่อหลักต่างประเทศเช่น Nikkei Asia, The Economist, The Washington Post, BBC, The Financial Times ฯลฯ ต่างก็ได้โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจนี้ซึ่งทำให้การเมืองของประเทศไทยบิดเบี้ยว และทำลายความเชื่อมั่น ทำให้การค้าการลงทุนจากต่างประเทศของไทยหดหายไปมาก หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและคิดแค่ว่าจะตะแบงกันไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยก็จะทรุดลงต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรจากสมัยที่ประเทศเมียนมาถูกเผด็จการทหารปกครองเป็นเวลานานทำให้เศรษฐกิจเมียนมาทรุดต่ำลงมาตลอด หากปล่อยต่อไปแบบนี้เศรษฐกิจไทยก็จะค่อยๆ เสื่อมลง คำถามคือเราจะปล่อยให้ประเทศไทยทรุดหนักขนาดนั้นก่อนถึงจะคิดแก้ไขกันหรือ ต้องให้ออกมาต่อสู้แบบนองเลือดกันเหมือนในประเทศเมียนมาในตอนนี้ใช่หรือไม่

“ทำไมเราจึงไม่เร่งแก้ไขก่อนปัญหาจะบานปลาย ซึ่งหากเกิดปัญหาความวุ่นวายผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดก็คงหนีไม่พ้น พล.อ.ประยุทธ์แต่เพียงผู้เดียว พล.อ.ประยุทธ์เองต้องรู้ตัวว่าตัวเองล้าสมัยตกยุคแล้ว ยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งทำประเทศล้าหลัง จึงควรหาทางลงที่เหมาะสม การแก้รัฐธรรมนูญแล้วตัวเองลาออกไปน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ประเทศจะย่ำแย่ไปกว่านี้” นายจักรพลระบุ